วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

เรื่องย่อ เงารักลวงใจ


เรื่องย่อละคร เงารักลวงใจ

ออกอากาศ : ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น.
นำแสดงโดย : หมาก ปริญ, ณเดชน์ , มิ้นท์ วณิชา, กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ ,นก จริยา, ดุ๊ก ภานุเดช
กำกับการแสดงโดย : กฤษณ์ ศุกระมงคล

ณ บ้านอัศวธานนท์ รัญญา ทายาทคนเดียวของตระกูล อัศวธานนท์ถูก เถลิง ผู้เป็นพ่อตบตี หลังจากจับได้ว่าเธอแอบลักลอบได้เสียกับ มงคล คนงานในบ้าน เพื่อปกปิดความอัปยศ เถลิงได้จับรัญญาขังไว้ในห้อง แล้วสั่งลูกน้องให้วางแผนฆ่ามงคลโดยทำให้รถยนต์เกิดอุบัติเหตุ หากทว่ามงคลกลับไม่ตายเพราะได้ บัว หญิงสาวใจดีที่มาช่วยชีวิตนำส่งโรงพยาบาลและได้ชักชวนให้ไปอยู่ที่ บ้านทอฟ้า จังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะเธอได้งานใหม่เป็นผู้จัดการมูลนิธิของที่นั่น
ด้านรัญญาที่เข้าใจว่า มงคล ตายแล้วก็ได้ตั้งท้องกับมงคล จึงวางแผนหลอกผู้เป็นพ่อว่าต้องการจะไปเรียนต่อต่างประเทศ เถลิงเชื่อยอมให้ไปรัญญาจึงไปพักอยู่กับ ยุวรินทร์ เพื่อนสมัยเด็กที่อาศัยอยู่ที่นั้นมานานแล้ว จนถึงวันที่เด็กน้อยคลอดออกมา เป็นเพศหญิง หน้าตาผิวพรรณ งามหมดจด รัญญาเห็นความน่าเอ็นดูของลูกจึง แอบหวังว่าพอพ่อเธอเห็นหลานอาจจะยอมใจอ่อนให้อภัยเธอและลูก
เมื่อมาถึงแผ่นดินเกิด รัญญาพาลูกสาวไปฝากเนอสเซอรี่ก่อนเพราะไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องนี้ก่อนที่จะสารภาพกับพ่อ ก่อนไปรัญญาได้ทำจี้สลักที่มีอักษรย่อชื่อเธอและมงคล หล่นอยู่ข้างเตียงลูก สร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยที่มงคลได้ให้เธอไว้ตั้งแต่สมัยคบหากัน ขณะที่รัญญาเดินทางกลับไปอัศวธานนท์เพื่อจะสารภาพความจริง แต่เถลิงสืบรู้เรื่องนี้ก่อน เถลิงโกรธมากไม่รับฟังคำอธิบายใดๆ รัญญาเห็นว่าหมดหนทางเธอจึงตัดสินใจกลับไปรับลูก แต่ต้องตกใจสุดขีดเพราะไฟไหม้เนอสเซอรี่ที่เธอฝากลูกไว้!!! ด้านเถลิงที่ตามมาพบเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็สะใจเป็นอันมาก แต่เด็กน้อยได้ถูกช่วยเหลือไว้และถูกส่งตัวไปสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า บ้านทอฟ้าราวกับฟ้ามีตา เวรกรรมตามทัน เถลิงชายชราก็ถูกเล่นงานด้วยอาการโรคหัวใจกำเริบ ได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสและถูกหลอกหลอนด้วยภาพความผิดต่างๆที่ตนทำไว้ในอดีต แม้คิดจะเปิดเผยความรับเรื่องลูกของรัญญายังมีชีวิตอยู่เพื่อจะไถ่บาปที่ติดตัว ก็ยังไม่สามารถทำได้และได้ตายไปในสภาพโดดเดี่ยวไร้คนเหลียวแล18 ปีต่อมา ข้าวหอม เด็กสาวหน้าตาดี เติบโตขึ้นในบ้านทอฟ้า ได้รับสร้อยพร้อมจี้ เป็นของขวัญวันเกิดจากแม่บัวผู้จัดการมูลนิธิ เด็กสาวมีความสุขมาก ต่างจาก รตี ถึงจะโตมาด้วยกันในบ้านทอฟ้าแต่ลึกๆแล้วในใจมีแต่ความอิจฉาริษยา มีนิสัยแตกต่างกับข้าวหอมทุกอย่างทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับข้าวหอม รตีต้องระบายออกโดยการกลั่นแกล้งข้าวหอม แต่ข้าวหอมก็อภัย รตีทุกครั้ง รตีแอบคบอยู่กับ มังกร เด็กหนุ่มในบ้านทอฟ้าเหมือนกัน ด้วยความหน้าตาดี ทำให้รตีหลงเสน่ห์ และ ยอมเชื่อฟังมังกรทุกอย่าง แม้ว่าจะชักนำไปหนทางผิดๆก็ตาม ขณะเดียวกันที่บ้าน กำธรภูวนาท ภูผา หนุ่มใหญ่ผู้ดูแลที่ดินบ้านทอฟ้า กำลังต่อว่า โตมร น้องชาย ทีวางแผนจะทำให้บ้านทอฟ้าเป็นรีสอร์ทห้าดาว ภูผาเป็นคนใจบุญแต่โตมรเป็นคนโลภมาก ภูผา มีลูกชายชื่อ นาวา ได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้ขาพิการ โตมรมีลูกชายชื่อ เตชิต เป็นเด็กหนุ่มที่ได้รับความกดดันจากผู้เป็นพ่อจึงทำไห้มีนิสัยแข็งกระด้าง
เมื่อนาวาเจอข้าวหอมทำให้หัวใจของนาวาไม่โศกเศร้ามีกำลังใจเหมือนเดิม โตมรส่งคนมาทำร้ายภูผาแล้วขึ้นรักษาการกรรมการผู้จัดการ นาวารู้เรื่องเลยไปเยี่ยม ภูผาดีใจที่ลูกชายกลับมามีกำลังใจเหมือนเดิม จึงขอนาวาให้ไปรับการรักษาขาที่ต่างประเทศ ด้านโตมร ได้ส่ง เตชิต มาบีบให้ทุกคนที่บ้านทอฟ้า รีบย้ายออกไปเพื่อจะได้ปรับเป็นรีสอร์ท 5 ดาว ตามแผนของตนเอง เตชิตมาถึง ก็ได้พบนาวา ทั้งสองมีปากเสียงกัน ทำให้ข้าวหอมต่อว่าเตชิตอย่างรุนแรง เตชิตโมโหมากและตั้งใจจะเอาชนะคนอวดดีในสายตาของเขา ในขณะเดียวกัน รัญญาก็ยังคงเดินหน้าตามหาลูกสาวอย่างมุ่งมั่น ยุวรินทร์กลับจากต่างประเทศมาช่วยหาอีกแรง ที่บ้านทอฟ้า เตชิตตั้งใจกลั่นแกล้งจนสั่งให้ทำงานบ้านสารพัดทำให้ข้าวหอมล้มป่วยลง ตอนนั้นเองทำให้เตชิตรู้สึกว่าที่แท้จริงแล้ว ลึกๆเขาห่วงใย และต้องการจะดูแลเธอ ยิ่งได้ใกล้ชิดกันเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้ใจตนเองว่าเขาได้ตกหลุมรักข้าวหอมเสียแล้ว
ขณะที่ข้าวหอมกำลังกลุ้มใจว่าจะหนีอำนาจจากเตชินได้อย่างไร ไม้ ภารโรงพิการที่เคารพเหมือนญาติผู้ใหญ่ เห็นสร้อยคอพร้อมจี้ของเธอ ก็ถามเอาความจริงแต่เธอก็รู้แต่เพียงว่ามันเป็นของชิ้นเดียวที่ติดตัวเธอมาตั้งแต่เกิด ทำให้นายไม้คิดขึ้นมาว่าบางทีอาจจะเป็นลูกของเขากับรัญญา เขาดีใจมากเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่จึงสวมกอดข้าวหอม รตีเห็นจึงเกิดสงสัยอย่างมาก จึงแกล้งขู่โดยถ้าไม่บอกจะไปฟ้องคุณบัว เรื่องที่ใกล้ชิดกับข้าวหอมจนเกินงาม นายไม้จึงบอกความจริง รตีไม่อยากเชื่อเรื่องที่นายไม่พูด จึงหาข้อมูลจนรู้ฐานะของรัญญา และกำลังตามหาลูกสาวที่หายไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ทำให้ต้องเชื่อว่าข้าวหอมคือบุตรสาวที่หายไปไฮโซสาว ความอิจฉายิ่งพุ่งพล่านมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว รตีวางแผนจะสวมรอยโดยขอร้องให้มังกรช่วยเหลืออีกแรง โดยวางยาข้าวหอมและนายไม้จนขโมยสร้อยมาได้แต่มังกรเห็นว่าควรฆ่าปิดปากทั้งสองคนด้วย แต่ข้าวหอมก็รอดชีวิตมาได้ การจากไปของคุณบัวและนายไม้พร้อมกับบ้านทอฟ้าที่ถูกเผา ข้าวหอมจึงจำใจต้องจดทะเบียนสมรสกับเตชิต นาวากลับมาจากการรักษาขาต่างประเทศ รู้ข่าวก็คิดว่าเตชิตตั้งใจเอาชนะเขาจึงบีบข้าวหอม แต่ไม่คิดยอมแพ้ เขาออกปากกับเตชิตว่าจะต้องแย่งข้าวหอมกลับมาเป็นของเขาให้ได้ ด้านรตีเมื่อเข้ามาอยู่บ้านอัศวธานนท์ ก็เริ่มออกลายนิสัยเสีย ในงานวันเกิดรัญญา เตชิตได้พาข้าวหอมไปเปิดตัวด้วย รตีเห็นก็แทบคลั่งและต้องการจะแย่งเตชิตจากข้าวหอมให้ได้ แต่รัญญาเมื่อพบข้าวหอมกลับรู้สึกถูกชะตาอย่างบอกไม่ถูกข้าวหอมเองก็เช่นกัน
ด้านมังกรที่ติดพนันทำให้เขามาเรียกร้องขอเงินกับรตีอยู่เนืองๆ เมื่อไม่ให้ก็ขู่ว่าจะแฉความลับที่รตีเป็นทายาทตัวปลอม ในที่สุดรตีจึงวางแผนฆ่ามังกรทิ้ง เพื่อที่เธอจะได้ไม่ถูกเปิดเผยความลับ เตชิตเข้าใจผิดว่านาวากับข้าวหอมแอบใกล้ชิตกัน ก็แค้นและเสียใจมาก จึงเย็นชาและควงรตีมาปะชด ข้าวหอมทนไม่ได้เลยหนีออกมา เตชิตมาเข้าใจภายหลังว่าทั้งหมดเป็นแผนของโตมรและรตีจึงไปตามกลับมาพร้อมนาวา รตีที่ไม่สามารถแย่งเตชิตมาได้ก็ผิดหวังอย่างมาก ก็ได้รัญญาคอยปลอบ แต่รัญญาก็มาประสบอุบัติเหตุ ทางโรงพยาบาลต้องการเลือด ยุวรินทร์บอกให้ใช้เลือด รตี แต่ปรากฏว่ามีกรุ๊ปเลือดไม่ตรงกัน รัญญาไม่เชื่อจึงขอตรวจ ดีเอ็นเอ แต่รตีก็แอบเอาเลือดของข้าวหอมไปตรวจดีเอ็นเอแทนเลือดเธอ เหตุการณ์ครั้งนี้ รตีคิดว่ายุวรินทร์คือหอกข้างแคร่ที่เธอต้องกำจัด จึงวางแผนฆ่ายุวรินทร์จนสำเร็จแต่หลังงานศพยุวรินทร์ ผลพิสูจน์ดีเอ็นเอถูกส่งกลับมาที่บ้านอัศวธานนท์ ทำให้รู้ว่าที่จริงยุวรินทร์ไม่ไว้ใจรตี จึงแอบแบ่งเลือดรตีไปตรวจต่างหาก รัญญาถึงกับช็อค เมื่อรตีรู้เข้าจึงผลักรัญญาตกบันได หวังฆ่าและเก็บความลับนี้ตลอดไปข้าวหอมมาเห็นเข้าจึงพารัญญาส่งโรงพยบาล เมื่อรัญญาฟื้นขึ้นมาพบว่าตัวเองความจำเสื่อม เวลาผ่านไปรัญญาก็เริ่มจำเหตุการณ์ที่รตีผลักเธอได้แต่ แต่ยังไม่รู่เหตุผลว่าทำไมรตีจึงทำ แกล้งทำเป็นความจำเสื่อมต่อไป โดบแอบจับผิดรตีเรื่อยๆ จนความทรงจำของเธอกลับมาทั้งหมด จึงซักรตีหวังเอาความจริง ด้วยความโมโห และกลัวความผิด รตีจึงคิดฆ่ารัญญาอีกครั้งแต่ข้าวหอมกลับมาช่วยได้ทัน รตีจึงจับข้าวหอมเป็นตัวประกัน เตชิตกับนาวารู้เรื่องจึงรุดไปช่วย รตีแค้นที่มีแต่คนรักข้าวหอมตั้งใจจะฆ่าให้ตาย จังหวะที่รตียิงข้าวหอมนาวาโดดเข้าไปรับกระสุนแทน บาดเจ็บสาหัส รตีถูกตำรวจจับด้วยความเสียใจและหวาดกลัวทำให้คลุ้มคลั่งจนเสียสติในที่สุด ระหว่างทางที่ส่งนาวาเข้าโรงพยาบาล นาวาก็สิ้นใจลงในอ้อมกอดข้าวหอมอย่างสงบ รัญญาเสียใจอย่างมาก ตำรวจส่วของติดตัวรตีกลับมาที่บ้าน ทำให้ข้าวหอมเห็นสร้อยพร้อมจี้ของเธอที่หายไป ที่จริงอยู่กับรตีนี่เอง ข้าวหอมยินดีตรวจดีเอ็นเอ ทำให้ฝันของรัญญาเป็นจริง ลูกสาวเธอที่หายไป 18 ปีแท้จริงคือเด็กสาวที่เฝ้าดูแลเธอตลอดนี่เอง
ข้าวหอมกลับบ้านอัศวาธานนท์ในฐานะทายาท ทำให้โตมรเลิกอคติและยอมรับมากขึ้น อีกทั้งการจากไปของนาวาทำให้โตมรเรียนรู้ว่า ควรรักเตชินมากขึ้น เพราะถ้าเตชิตจากไปเขาต้องเสียใจอย่างเช่นภูผา โตมรและเตชิตจึงปรับความเข้าใจกัน ในที่สุดความรักของข้าวหอมและเตชิตก็ไม่เป็นเงารักที่ลวงใจอีกต่อไป
Read more »

อยากเป็นใบไม้จัง


Read more »

ผู้หญิง 5 ปาป ภาค 2



อิอิ
Read more »

วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553

เรือนซ่อนรัก


ตระกูลราชศักดิ์มนตรีธรรม เป็นตระกูลที่เก่าแก่ เมื่อ ม.ร.ว.เอกชยา (ดีลก ทองวัฒนา) กับภรรยา คุณสดศรี (จุฑาทิพย์ ครุธามาศ) ถึงแก่กรรมก็ได้ฝากฝังให้ หม่อมดารารุ่ง (สุวนันท์ คงยิ่ง)ลูกสาวคนโตดูแลทรัพย์สมบัติ
และเกียรติยศแห่งวงศ์ตระกูล โดยคุณรุ่งได้ให้คำสัญญากับพ่อและแม่ไว้ คุณรุ่งทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อ แม่ และพี่ของน้องสาวทั้ง 3 คน ได้แก่ หม่อมดารารัตน์ (อุษณีย์ วัฒฐานะ) หม่อมดาราน้อย (ธัญสินี พรมสุทธิ์) และหม่อมดารานิจ (พีชญา วัฒนามนตรี) ซึ่งคุณรุ่งทั้งรักและหวงน้องมาก ตามใจทุกอย่าง แต่สิ่งที่คุณรุ่งขอร้องน้องๆ ก็คือ ไม่อยากให้น้องๆแต่งงาน เพราะไม่อยากให้น้องๆ ช้ำใจเหมือนอย่างกับแม่ ที่ถูกพ่อนอกใจไปได้เสียกับสาวใช้ที่ชื่อ สลวย (ปิยะดา เพ็ญจินดา) จนเกิดตั้งท้องแล้วคลอดลูกออกมาเป็นผู้ชายชื่อว่า ฤกษ์ (สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์) ม.ร.ว.เอกชยาแสนจะรักและโปรดปรานลูกชายคนนี้มาก สั่งให้ทุกคนรักและตามใจฤกษ์ พี่น้องทุกคนรวมทั้งคุณรุ่งไม่พอใจ แต่ขัดพ่อไม่ได้ ต่อหน้าคุณรุ่งจึงทำเป็นรักน้องแต่ลับหลังจะคอยกลั่นแกล้งตลอด เมื่อเติบโตเป็นสาว คุณรุ่งพยายามที่จะหาทางออกจากบ้าน เพราะเบื่อความเป็นผู้หญิงที่ถูกผู้ชายกดขี่ทางเพศ

เมื่อคุณหลวง (เคลลี่ ธนพัฒน์) ลูกชายคนเดียวของ กรุณ การุณพินิตย์ (ฐาปกรณ์ ดิษยนันท์) คหบดีใหญ่มาผูกสัมพันธ์ไมตรีด้วย ความที่คุณหลวงเป็นชายหนุ่มรูปงาม พูดจาไพเราะและช่างเอาอกเอาใจ ผิดจากผู้เป็นพ่อ ทำให้คุณรุ่งยอมรับไมตรีได้ไม่ยาก ไม่นานคุณรุ่งก็ตกหลุมรักถึงขนาดยอมหมั้นหมายด้วย แต่คุณหลวงกลับทำให้คุณรุ่งช้ำใจ ด้วยการว่านเสน่ห์ให้กับผู้หญิงและเที่ยวมีสัมพันธ์ไปทั่ว ขนาดสาวใช้ในบ้านอย่าง เรไร (ปริษา ตัณทนาวิวัฒน์) ก็ไม่เว้น พอคุณรุ่งจับได้เลยตัดขาด พอคุณหลวงมาง้อคุณรุ่งก็ไล่ตะเพิด นับจากวันนั้นคุณรุ่งก็ไม่เคยเชื่อมั่นในความรักอีกเลย เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในสายตาของ อรอนงค์ (พิชญ์นาฏ สาขากร) ศัตรูคู่แข่งของคุณรุ่ง เลยถือโอกาสนี้เข้าไปปลอบใจคุณหลวง จนเกิดได้เสียกัน เลยถูกบังคับให้แต่งงาน เมื่อคุณรุ่งรู้ข่าวเสียใจเป็นอย่างมาก จากความช้ำใจกลายเป็นความเกลียดแค้น ชิงชัง จนจิตใจของคุณรุ่งเต็มไปด้วยความเก็บกด อิจฉา ริษยา ไม่อยากเห็นใครมีความสุข

ส่วนอรอนงค์เองก็ไม่เคยมีความสุขในชีวิตแต่งงานเลย เพราะคุณหลวงไม่สามารถลืมคุณรุ่งไปจากใจได้เลย แม้ว่าจะมีโซ่ทองคล้องใจอย่าง ทักษิณาหรือหนูนา (อินทิรา เกตุวรสุนทร) ลูกสาวทั้งคน แต่คุณหลวงก็ยังคงพยายามไปตามง้อคุณรุ่งตลอดเวลา มันยิ่งทำให้อรอนงค์ผูกใจเจ็บคุณรุ่งมากขึ้น ในขณะที่คุณรุ่งเองก็รังเกียจการกระทำของผู้ชายแบบคุณหลวงเต็มที คุณรุ่งจึงพร่ำสอน กรอกหูน้องสาวเสมอถึงความชั่วช้าสามานย์ของผู้ชาย แต่คุณรัตน์ไม่เชื่อฟังแอบไปคบกับ ปกรณ์ ชาญบุรี (อรุชา โตสวัสดิ์) ลูกกุลี เมื่อคุณรุ่งรู้เข้าก็โกรธมาก ทั้งด่าและทุบตี พร้อมสั่งห้ามไม่ให้คบกันอีก ซึ่งคุณรัตน์ก็ตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปอยู่กินกับปกรณ์ ทำให้คุณรุ่งโกรธมากถึงขั้นตัดขาดจากความเป็นพี่เป็นน้องกัน เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของ มาโนช สุกรมกิจ (นนทพจน์ ใจกันทา) หนุ่มหล่อข้างบ้านของคุณรุ่ง ซึ่งแอบชอบคุณรุ่งอยู่ แต่ถูกคุณรุ่งดูถูกสารพัดหาว่าเป็นขี้ครอก ไม่มีศักดิ์มีตระกูล

มาโนชจึงหันไปให้ความสนใจกับคุณน้อยแทน ซึ่งคุณน้อยก็ยอมรับไมตรีอย่างง่ายดาย พอคุณรุ่งจับได้เลยสั่งกักขังบริเวณไม่ให้พบกัน แต่คุณน้อยไม่ยอม ในที่สุดก็หนีออกจากบ้านไปอยู่กับมาโนชทั้งที่ยังเรียนไม่จบ คุณรุ่งเสียใจมาก ความคาดหวังทั้งหมดจึงตกไปอยู่ที่น้องสาวคนสุดท้อง คือ คุณนิจ ที่ถูกกรอกหูตั้งแต่เล็กจนโตเกี่ยวกับเรื่องความเลวของผู้ชาย เลยทำให้ไม่กล้าเข้าใกล้ผู้ชาย ฤกษ์พี่ชายต่างมารดาสุดแสนจะสงสารน้องสาว จึงมาคอยดูแลแต่ทุกครั้งก็จะถูกคุณรุ่งสั่งห้ามตลอด ฝ่ายคุณรัตน์ เมื่อหนีออกจากบ้านมาอยู่กับปกรณ์ ก็พบแต่ความลำบาก เพราะปกรณ์กลายเป็นชายหนุ่มขี้เมา หยาบคาย ชอบทุบตีและใช้กำลัง คุณรัตน์ทุกข์ใจมาก แต่ไม่กล้าย้อนกลับบ้าน เพราะกลัวคุณรุ่ง และอีกอย่างคุณรัตน์ก็มีลูกชายหนึ่งคนชื่อ ชาตรี (พิชยดลย์ พึ่งพันธ์) ด้วยไม่อยากให้ลูกขาดพ่อเลยต้องจำใจอยู่ต่อ

วันหนึ่งคุณรุ่งไปตลาดแล้วเจอคุณรัตน์กำลังเข็นผักอยู่ แทนที่คุณรุ่งจะสงสารน้อง แต่กลับหันไปเยาะเย้ยสมน้ำหน้า แล้วก็ไม่แม้แต่จะชายตามองชาตรี ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีหลาน ส่วนตัวคุณรัตน์เองก็ไม่กล้าเล่าเรื่องชาติตระกูลให้ชาตรีรู้ เพราะไม่อยากให้ราชศักดิ์มนตรีธรรมต้องเสื่อมเสียเพราะเธอ จะมีก็แต่ปกรณ์ที่เทียวไปเทียวมาที่บ้านราชศักดิ์มนตรีธรรม เพื่อขอเงินบ่อยๆ แต่ถูกคุณรุ่งไล่ตะเพิดออกมาทุกครั้ง ก็มีแต่คุณนิจที่คอยช่วยเหลือเจือจาน เพราะสงสารพี่สาวและหลานชาย แต่เมื่อถูกคุณรุ่งจับได้เลยถูกทุบตีทรมาน ชีวิตคุณรัตน์ก็เฉกเช่นเดียวกับคุณน้อย ที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับความรัก เมื่อมาโนชเปลี่ยนไป กลายเป็นคนเจ้าชู้ ทั้งๆ ที่มีลูกสาว ณชนกหรือหนูนก (กรรณาภรณ์ พวงทอง) เป็นโซ่ทองคล้องใจก็ตาม เมื่อคุณรุ่งรู้ข่าวก็สะใจมากที่ชีวิตน้องสาวแต่ละคนได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสที่รักไม่เป็นอย่างที่หวัง คุณนิจจึงต้องอยู่ในห้วงแห่งความเกลียดชัง

สิบปีต่อมาคุณนิจโตเป็นสาวเต็มตัวเข้าเรียนในวิทยาลัย มีเพื่อนสนิทคนเดียวชื่อ ปรางเชย (กัญญกร พินิจ) ซึ่งปรางเชยเป็นลูกสาวของ ครูเสรี (นึกคิด บุญทอง) ครูที่นักเรียนทุกคนต่างนับถือและยึดเป็นแบบอย่าง หนึ่งในนั้นก็มี เมืองใหญ่ ( รังสิต ศิรนานนท์) กับ เมืองเล็ก (ธาวิน เยาวพลกุล) สองพี่น้องลูกนายตำรวจใหญ่ เมืองเล็กสนิทกับปรางเชยเลยชอบล้อเลียนปรางเชยกับคุณนิจว่าเป็นพวกวิปริตผิดเพศ คุณนิจรู้เข้าก็ไม่พอใจ เลยทำให้ทั้งคู่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ในขณะเดียวกันเมืองใหญ่ก็แอบหลงรักคุณนิจอยู่ และคุณนิจก็เผลอหลุดปากเล่าเรื่องของเมืองเล็กให้คุณรุ่งฟัง แทนที่จะเข้าข้างน้อง แต่กลับดุว่าและไม่ให้พูดคุยกับเมืองเล็กอีก ไม่อย่างนั้นจะถูกจับขัง คุณนิจกลัวมากจึงได้แต่หุบปากและจมอยู่กับความคิดของตัวเองเพียงลำพัง

คุณนิจไม่กล้าปรึกษาคุณรุ่ง เมื่อปรางเชยมีทีท่าแปลกๆ ที่เกินเลยคำว่าเพื่อน คุณนิจได้แต่พยายามหนีออกห่าง จนปรางเชยตรอมใจ เมืองเล็กรู้ข่าวก็ตามมาต่อว่าคุณนิจทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกัน เกิดการยื้อยุดฉุดกระชากจนคุณนิจล้มลงไปอยู่ในอ้อมกอดของเมืองเล็ก เลยทำให้ทั้งคู่รู้ว่าตนเองมีใจให้แก่กันแล้ว เมืองเล็กพยายามบุกเข้าไปหาคุณนิจเพื่อขอโทษ แต่ทุกครั้งก็ถูกคุณรุ่งกีดกัน แต่เมืองเล็กก็ไม่ละความพยายามบอกกับตัวเองว่าจะต้องเอาชนะใจของคุณรุ่งและคุณนิจให้ได้

ในขณะเดียวกัน รตี (ธิดารัตน์ จักรสิงโต) หญิงสาวที่แอบรักเมืองเล็กอยู่ แต่เมืองเล็กไม่สนใจ รตีเลยเปลี่ยนเป้าหมายไปเรื่อย แต่ไม่มีใครสนใจ ด้วยความโกรธเกลียด ริษยา ทำให้รตีหาทางยุแหย่ ให้เมืองเล็กเข้าใจคุณนิจผิด แล้วความมุทะลุดุดันของเมืองเล็กก็ทำให้คุณนิจเดือดร้อน โดนคุณรุ่งทุบตี หนำซ้ำยังเอาแมวตัวโปรดมาเชือดคอต่อหน้าต่อตาคุณนิจเป็นการลงโทษ ทำให้คุณนิจช๊อคจนพูดไม่ออกและหลังจากนั้นก็พูดไม่ได้อีกเลย เมืองเล็กทราบข่าวก็เสียใจที่เป็นต้นเหตุทำให้คุณนิจพูดไม่ได้เลยตัดสินใจบุกเข้าไปแย่งชิงตัวคุณนิจออกมาแต่ไม่สำเร็จ พ่อแม่ของเมืองเล็กเลยต้องตัดสินใจส่งไปเรียนต่อเมืองนอก ก่อนไปได้ฝากให้ปรางเชยดูแลและฝากจดหมายให้คุณนิจ ทำให้ปรางเชยได้มีโอกาสกลับมาใกล้ชิดกับคุณนิจอีกครั้ง แต่ปรางเชยไม่ยอมมอบจดหมายให้คุณนิจพร้อมกับแต่งเรื่องว่าเมืองเล็กไปชอบผู้หญิงเมืองฝรั่งแล้ว ทำให้คุณนิจเสียใจมาก

ทุกครั้งที่ปรางเชยเข้าใกล้คุณนิจ คุณนิจจะทำท่ารังเกียจ โดยที่คุณรุ่งไม่รู้ว่าปรางเชยเป็นพวกผิดเพศ ฉะนั้นปรางเชยจึงมีโอกาสล่วงเกินคุณนิจบ่อยๆ ในขณะเดียวกันปรางเชยก็ส่งข่าวไปบอกเมืองเล็กว่าคุณนิจตัดใจจากเมืองเล็กแล้ว เมืองเล็กไม่เชื่อเลยขอร้องให้เมืองใหญ่ช่วยสืบ แม้จะเจ็บปวดใจก็ตาม แต่เมื่อรู้ว่าทั้งสองคนนั้นรักกันจริงๆ ก็เลยยอมตัดใจ เมืองใหญ่จึงเข้าทางหนูนก หลานสาวของคุณนิจ ให้ช่วยสืบ แล้วทุกครั้งที่เข้าไปที่บ้านก็จะเห็นท่าทีของคุณนิจที่รังเกียจปรางเชยจนน่าสงสัย เลยรีบเอามาบอกเมืองใหญ่ จนเมืองใหญ่สืบรู้ว่าปรางเชยเป็นพวกผิดเพศเลยส่งข่าวบอกน้องชาย แล้วสั่งให้หนูนกหาทางกีดกันไม่ให้ปรางเชยอยู่ใกล้คุณนิจอีก เมืองเล็กทราบข่าวก็รีบกลับมาเมืองไทยแล้วบุกเข้าไปชิงตัวคุณนิจ แต่คุณรุ่งมาขัดขวางไว้ทันเลยยิงเมืองเล็กจนได้รับบาดเจ็บ คุณนิจตกใจกลัว กลายเป็นคนจิตตก หนูนกสงสารน้านิจมาก พยายามปรับทุกข์กับฤกษ์ จนเป็นเหตุให้ฤกษ์ได้รู้จักกับทักษิณา เพื่อนของหนูนก

ทักษิณาแนะนำให้ฤกษ์หาทางจัดการห้ามปรางเชยเข้ามาในบ้านอีก ฤกษ์เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คุณรุ่งฟัง แต่คุณรุ่งไม่เชื่อ จนได้เจอกับตัวเอง เลยไล่ตะเพิดปรางเชยออกจากบ้านไป ฤกษ์โล่งใจมาก แต่คุณรุ่งก็ไม่ยอมรับอยู่ดีว่าเป็นคนเปิดทางให้ปรางเชยมาใกล้ชิดกับคุณนิจ ในเวลาต่อมาฤกษ์ก็ตกหลุมรักทักษิณา แต่ฤกษ์ต้องหัวใจสลายเมื่อรู้ว่าทักษิณาคือลูกของอรอนงค์และคุณหลวง ศัตรูหัวใจของคุณรุ่ง เมื่อรู้ว่าฤกษ์คือน้องชายต่างมารดาที่แม่มีศักดิ์แค่คนใช้ของคุณรุ่ง อรอนงค์ก็ตั้งท่ารังเกียจ จึงบุกไปหาคุณรุ่งที่บ้านแล้วสั่งห้ามไม่ให้ฤกษ์มายุ่งกับลูกสาวของตนอีก คุณรุ่งโกรธมากที่อรอนงค์บุกมาด่าตนถึงบ้าน เลยอาละวาดทุบตีฤกษ์บ้านแทบแตก สั่งไม่ให้ไปยุ่งกับบ้านนั้นอีก

แต่ฤกษ์ไม่ยอม กลับยอมให้คุณรุ่งตัดขาดจากความเป็นพี่เป็นน้อง เพื่อขอไปใช้ชีวิตกับทักษิณา คุณรุ่งโกรธมากที่คนว่านอนสอนง่ายอย่างฤกษ์เปลี่ยนไป เลยแกล้งทำใจยอมรับ พร้อมทั้งวางแผนเชิญทักษิณามารับประทานอาหารที่เรือนเล็ก แล้วให้ฤกษ์พาคุณนิจมาด้วย แต่ในใจคิดว่า “ฉันไม่มีวันให้ใครไปจากฉันทั้งนั้น” คุณรุ่งสั่งให้ ป้าพริ้ง (จารุศิริ คชหิรัญ) ไปซื้อยานอนหลับมาให้ แล้วคุณรุ่งก็เอายานอนหลับนี้ไปผสมกับอาหาร โดยที่ไม่รู้ตัวว่าระหว่างจัดสำรับอยู่นั้นสลวยได้มาสลับถ้วยชาไป จนคนที่ดื่มชากลายเป็นคุณรุ่ง ไม่นานยาก็ออกฤทธิ์ ทุกคนเกิดอาการง่วงงุน ยกเว้นคุณนิจที่นั่งเหม่อลอยเพราะไม่ได้กินชา แต่คุณรุ่งก็ไม่ทันเฉลียวใจ ด้วยใจอาฆาตพยาบาทมีมากกว่า จึงจุดไฟเผาเรือนหลังเล็กกะจะให้ทุกคนนอนตายอยู่ในนั้น ขณะที่เปลวไฟกำลังไหม้ คุณรุ่งก็หมดสติไป พร้อมๆ กับฤกษ์และทักษิณา มีเพียงคุณนิจที่นั่งกอดเข่าด้วยความกลัว เพราะเธอพูดไม่ได้แถมยังสติไม่สมประกอบ เดชะบุญที่เมืองเล็กและเมืองใหญ่บุกเข้ามาหวังจะชิงตัวคุณนิจ จึงพบเห็นเหตุการณ์เลยรีบเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่รู้ว่าเมืองเล็กและเมืองใหญ่จะสามารถช่วยคุณนิจ, ฤกษ์, ทักษิณา และคุณรุ่งได้หรือไหม แล้วบทสรุปสุดท้ายของคุณรุ่งจะเป็นหรือตายต้องคอยติดตามชมกันต่อ




บทประพันธ์ : อัจฉรียา
บทโทรทัศน์ : ศิริวิไล
กำกับการแสดง : มาวิน แดงน้อย
ผู้ผลิต : ดารา วีดีโอ จำกัด
ออกอากาศทุกวัน : จันทร์ - อังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี

นักแสดง
1 สุวนันท์ คงยิ่ง >>> คุณดารารุ่ง
2 อุษณีย์ วัฒฐานะ >>> คุณดารารัตน์
3 ธัญสินี พรมสุทธิ์ >>> คุณดาราน้อย
4 พีชญา วัฒนามนตรี (มีน) >>> คุณดารานิจ
5 รังสิต ศิรนานนท์ >>> ผู้หมวดเมืองใหม่
6 ธาวิน เยาวพลกุล >>> เมืองเล็ก
7 พิชยดนย์ พึ่งพันธ์ >>> ชาตรี
8 พิชญ์นาฎ สาขากร >>> อรอนงค์
9 อินทิรา เกตุวรสุนทร >>> ทักษิณา, หนูนา
10 ดิลก ทองวัฒนา >>> ม.ร.ว.เอกชยา
11 รุ่งกานดา เบญจมาภรณ์ >>> ยายแหวว
12 วรินทร์ เชยอรุณ >>> คุณหญิงฟองจันทร์
13 นึกคิด บุญทอง >>> ครูเสรี
14 อรุชา โตสวัสดิ์ >>> ปกรณ์
15 ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์ >>> กรุณ
16 กรรณาภรณ์ พวงทอง >>> ณชนก, หนูนก
17 สุรศักดิ์ โชติทินวัฒน์ >>> ฤกษ์
18 ชื่อเดิม พหุศุภาพินิจ >>> ปรางเชย
19 ปริษา ตัณทนาวิวัฒน์ >>> เรไร
20 จารุศิริ คชหิรัญ >>> ป้าพริ้ง
21 ธิดารัตน์ จักรสิงโต >>> รตี
22 จุฑาทิพย์ ครุธามาศ >>> คุณสดศรี
23 ธนา สินประสาธน์ >>> สังข์
24 กมลพรรณ ทานตะวิรยะ >>> มาลัย
25 วรารัตน์ เทพโสธร >>> มาลี
26 นนทพันธ์ ใจกันทา >>> มาโนช
27 เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ >>> นายพลศักดิ์กาย
28 เกษศริน พูลลาภ >>> ป้าน้อม
29 กรองทอง รัชตะวรรณ >>> ละออง
30 ปิยะดา เพ็ญจินดา >>> สลวย
Read more »

เพลงรักทะเลใต้


บ้านพระน้อย หมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีงานบุญประเพณีที่ยิ่งใหญ่ประจำปี คือบุญเดือนสิบ และเป็นวันบุญใหญ่เปิดให้ชาวบ้านจากทั่วสารทิศได้มาสักการะ พระน้อย พระพุทธรูปเก่าแก่สมัยศรีวิชัย ที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของทุกคนด้วย

ในงานบุญเดือนสิบ ไม่ได้มีแค่พิธีชิงเปรต แต่มีศึกชิงนางเกิดขึ้นควบคู่กันเมื่อ นคร (ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์) หนุ่มหน้าคมเลือดร้อน ผู้มีจิตใจเดียว พยายามขอความรักจาก สวย (ปริยานุช อาสนจินดา) สาวสวยประจำหมู่บ้าน ด้วยการเปิดวงเพลงบรรเลงเพลงจีบ เป็นที่ครื้นเครงในงานบุญ แต่สวยยังแทงกั๊ก ไม่ตอบตกลงซะที นครตามติดสวยทุกฝีก้าว แต่ถูก พ่อผู้ใหญ่คม (ปิยะ ตระกูลราษฎร์) ขัดขวาง ไม่อยากได้ลูกเขยเป็นหนุ่มสวนยางจนๆ แถมยังเชียร์แม็ค (ดนัย สมุทรโคจร) หนุ่มเจ้าเสน่ห์ ขาวใสลูกชายโทนของ เจ๊เอียด (อำภา ภูษิต) เศรษฐีนีเจ้าของโรงรับซื้อยางและของทะเลผู้ทรงอิทธิพลในอำเภอ สวยเองก็เหมือนจะเปิดทางให้กับแม็ค นครทนไม่ไหว ปราดเข้าไปต่อยหน้าแม็คกลางงานบุญ บรรดาผองเพื่อนอย่าง เทพ (โก๊ะตี้ อารามบอย) นักศึกษานิติรามปี 8 หัวหมอรู้ข้อกฎหมาย ที่เพิ่งกลับจากกรุงเทพ และเพื่อนต่างวัยอย่าง น้าไข่ (วีระชัย หัตถ์โกวิท) ภารโรงที่เป็นเสือเก่ากลับใจ ฉายา “ไข่ดำ” ร่วมตะลุมบอนด้วย

ครูสันติ (ภาณุ สุวรรณโณ) ครูพละหล่อเข้ม ทำหน้าที่เข้าไปห้ามศึก และช่วยเหลือแม็ค ทำให้นครไม่ชอบหน้าครูสันติ เหมารวมว่าเป็นพวกแม็ค จะเปิดศึกกับครูสันติอีกยก ร้อนถึง หลวงปู่เสม (สุภักดิ์ ปิติธรรม) เจ้าอาวาสวัดพระน้อย ปู่ของนคร ต้องห้ามศึกและต่อว่านครยกใหญ่ พ่อผู้ใหญ่ดูถูกซ้ำว่านครเป็นได้แค่พวกชอบใช้ความรุนแรง และ สวยเอง ก็ดูเหมือนจะเข้าข้างแม็คเต็มที่ นครเสียใจ,ท้อใจ,กลุ้มใจ ปวดใจ หนีเข้าไปนั่งรักษาแผลใจใต้ต้นยางหลังเขา

นคร หยิบเม้าท์ออแกน มาร้องเพลงระบายความรักที่มีต่อสวย และแล้ว ใครคนหนึ่งก็เข้ามาหานคร นครหลงดีใจคิดว่าเป็นสวย แต่กลับเป็น สาว (ปุณยาพร พูลพิพัฒน์) สาวตาคมผมยาว น้องสาวของสวย

สาว เห็นนครช้ำใจ เธอก็เจ็บปวดใจเพราะลึกๆ เพราะเธอหลงรักนคร (รักนะ..แต่ไม่แสดงออก) สาวพยายามให้กำลังใจนครในแบบที่ตัวเองถนัดคือ ด่าเพื่อให้นครฮึดสู้ แต่ผลก็คือนครไล่ตะเพิด สาวจึงเปลี่ยนมาเป็นสมน้ำหน้าและท้าทายว่า นครไม่มีน้ำยา และไม่มีทางเป็นอะไรได้มากกว่าที่พ่อผู้ใหญ่ดูถูก

นครไปขอกำลังใจจากสวย แต่ก็พบอุปสรรค แม็คมาเทียวไล้เทียวขื่อเอาใจสวยตลอดเวลา โดยมีพ่อผู้ใหญ่เป็นป๋าดันอย่างเต็มที่ นครก็ไม่ยอมแพ้ ดันตัวเอง เพื่อให้ได้พบหน้าสวย แม้ได้เห็นแค่หลังคาบ้านก็ยังดี

นคร ตัดสินใจลงสมัครแข่งตีกลองประเพณีของอำเภอ โดยมีทีมของสาวเป็นคู่แข่งร่วมกับทีมจากหมู่บ้านอื่นๆ แต่ดูเหมือนจะกลายเป็นศึกที่ดุเดือดระหว่างทีมของนครกับสาวเท่านั้น สองทีมดวลฝีมือกัน ไม่มีใครยอมใคร รวมถึงกองเชียร์จากผองเพื่อน ก็เชียร์ประชันกันแบบไม่มีใครยอมตาย ซึ่งประกอบด้วย

ดวงใจ (ธัญสินี พรมสุทธิ์) พยาบาลสาวสวย น่ารัก แต่ดุ!!!!! ชอบดุคนไข้ เกลียดคนในเครื่องแบบเกลียดคนรวย แต่มักจะได้ในทุกอย่างที่ตัวเองเกลียด

โฉมงาม (ชมพู่ ธัณญ์สิตา) ลูกสาวเจ้าของร้านชำ และสภากาแฟประจำหมู่บ้าน ดำตับเป็ดแต่อยากเป็นดารา เธอเชื่อว่าเธอเกิดมาเพื่อดับ อั้ม พัชราภา โฉมงามเป็นคู่กัดกับเทพ

โดยมี สันติ ร่วมเชียร์ในกองเชียร์ของสาวเพราะอยากใกล้ชิดดวงใจ แต่มักถูกดวงใจไล่ตะเพิดทุกครั้ง ด้วยข้อหาเป็นคนกรุงเทพ ไม่ใช่คนปักษ์ใต้บ้านเรา ผลประกาศออกมา ทีมของสาวได้รางวัล ส่วนทีมของนครกินแห้ว สาวเยาะเย้ยนคร นครเสียหน้า ท้าทายสาวว่าจะขอแก้มือในงานแข่งเรือต่อไป

นครเดินหน้าลุย!! เอาจริงเอาจังกับการซ้อมมากขึ้น และขอคำสัญญาจากสวยว่า หากชนะ สวยต้องยอมเป็นเจ้าสาวของนคร สวยรับปากตัดความรำคาญ สาว รู้ข่าวก็เจ็บใจจี๊ดๆ และหมั่นไส้ที่นครคิดเอาตำแหน่งชนะเลิศงานประเพณีแข่งเรือ ประเพณีแห่งศักดิ์ศรีของลูกนครแสวงหาประโยชน์เข้าตัวเอง สาว จึงทุ่มสุดตัวซ้อมอย่างหนัก จนเพื่อนๆ เป็นห่วง

ขณะที่นครกำลังมุ่งมั่นกับการซ้อม แม็คเข้ามาใกล้ชิดสวยมากขึ้นจนสวยหลงเชื่อคารมและสวยเองก็ทะเยอทะยานอยากได้แฟนรวยๆ ไม่อยากจมปลักกับสวนยาง เจ๊เอียดก็ออกโรงสนับสนุนลูกชาย โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ทุกอย่างมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

เทพ น้าไข่ ขอร้องให้นครถอนตัวจากการประกาศท้าสาวโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ทั้งๆ ที่รู้ว่าสาวเองก็เป็นเจ้าของทีมเรือแข่งระดับแชมป์เก่า แต่นครยืนยัน ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ต้องกู้หน้ามาให้ได้ ไม่ให้สวยผิดหวัง เพื่อนๆ ของนครได้แต่มองตาปริบๆ ทำใจรับความพ่ายแพ้

วันแข่งเรือมาถึง ชาวบ้านมาร่วมงานประเพณีคึกคัก ลูกเรือทุกลำเตรียมพร้อมเต็มที่ จนได้เวลาแข่งขัน ทุกลำต่างมีคาถาเด็ดบริกรรม เป็นเคล็ดสู่เส้นชัย เป็นบทเพลงร้องรำกันอย่างสนุกสนาน

ครูสันติเข้ามาช่วยดวงใจเชียร์สาว ดวงใจรำคาญไล่ออกไป ครูสันติคอตก ทำเป็นหายออกไปจากสายตาของดวงใจจริงๆ แต่แท้จริงแล้ว ครูสันติ หรือ สารวัตรสันติ ออกไปไล่ล่าแก๊งค์ค้าน้ำมันเถื่อนที่ซื้อขายอย่างลับๆ ในช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังสนุกสนานกับงานประเพณี แต่ก็ไม่สามารถสาวถึงผู้บงการใหญ่ได้ มีเพียงหลักฐานที่น่าเศร้าใจทิ้งไว้เท่านั้น ครูสันติจำเป็นที่จะต้องแทรกซึมในพื้นที่เพื่อสืบหาผู้บงการใหญ่ต่อไป และยังได้รับมอบหมายภารกิจใหม่ที่สำคัญเพิ่มเติมจากหน่วยเหนืออีกว่า....มีผู้ลักลอบค้าวัตถุโบราณรายใหญ่ในพื้นที่

เรือน้องสาว กับเรือ บ่าวนคร ตีคู่กันแย่งเข้าเส้นชัย แต่นครสมาธิหลุดขณะที่กำลังแข่งในช่วงโค้งสุดท้าย เพราะเห็นสวยกำลังคุยกับแม็คอย่างสนิทสนม สาวได้ทีรีบสั่งให้ลูกทีมเร่งจ้ำ น้าไข่ต้องเอาพายเขกหัวนครเพื่อเรียกสติ นครเห็นใบหน้าสาวยิ้มเยาะด้วยแล้ว เหมือนมีพลังพรายช่วยเสริม นครเร่งสั่งให้ลูกทีมใส่แรงเต็มสูบ ในที่สุดเรือบ่าวนคร ก็เข้าเส้นชัยแซงเรือน้องสาว ไปอย่างเฉียดฉิว

เรือบ่าวนครขึ้นรับถ้วยรางวัลและรางวัลของศักดิ์สิทธิ์จากหลวงปู่เสม ที่ผู้คนทั่วสารทิศต่างศรัทธาและอยากครอบครอง ชาวบ้านทุกคนดีใจกับนคร ยกเว้นสาวที่ถูกนครเย้ยกลับ นครมาทวงสัญญาจากสวย แต่สวยอ้างโน่นอ้างนี่และ หนีเข้ากรุงเทพกับแม็ค เพราะแม็คสัญญาจะหางานในวงการบันเทิงให้สวย พ่อผู้ใหญ่อับอายที่ลูกสาวหนีตามผู้ชาย บุกไปเอาเรื่องเจ๊เอียด เจ๊เอียดทำไม่รู้ไม่ชี้และไม่รับผิดชอบ สาวตัดสินใจเข้ากรุงเทพตามตัวสวยมา

นคร ใจสลายอีกรอบ หลังรู้ว่าสวยหอบเสื้อผ้าหนีไปกับแม็ค เก็บความช้ำไว้ในอก กลั่นออกมาเป็นบทเพลงแห่งน้ำตา....ท่ามกลางต้นยางสูง ฝนพรำ

สาว ปลอบใจและโน้มน้าวให้นครรักคนที่เขารักเราดีกว่า (หมายถึงตัวสาวเอง...แต่ไม่แสดงออก) แต่ นคร ไม่รับรู้ฮึดสู้รอบใหม่ รวบรวมไพร่พล มีเทพเพื่อนเกลอนำทีม เดินทางสู่กรุงเทพ เพื่อทำคะแนนต่อ โดยไม่สนใจคำทักท้วงของคนรอบข้าง

สาวจึงระดมพลเข้ากรุงเทพ เพื่อตามตัวสวยกลับบ้าน เพราะกลัวแม็คหลอก ดวงใจสบโอกาสขอไปอบรมที่กรุงเทพ จะได้ไปช่วยสาว ครูสันติ อ้างว่าไปเยี่ยมพ่อแม่ที่กรุงเทพ ขอไปด้วยคน เบื้องหลังคือ ครูสันติต้องเข้ามารายงานตัวกับต้นสังกัดเพื่อรายงานผลการปฏิบัติการดวงใจไม่ยอมให้ครูสันติไปด้วยกัน แต่โฉมงามกลับซื้อตั๋วรถไฟให้ครูสันติ เพราะเห็นว่าครูสันติเป็นเด็กเทพ อยากให้นำทางและพาไปพักที่หอหน้าราม หวังใจว่าแมวมองจะได้มาพบเพชรในตมอย่างเธอ

เทพ พานครและน้าไข่ มาอาศัยอยู่กับ หลวงอา ที่วัดราชาธิวาส ระหว่างการตามหาสวย นคร ขอให้เทพและน้าไข่พาไปสมัครเรียนราม ด้วยอุดมการณ์ที่ว่าตามหาหัวใจ แต่ก็ต้องหาอะไรใส่สมองด้วย สาวเองก็เช่นกัน ชวนโฉมงามไปสมัครเรียนราม อยากได้ความรู้ไปพัฒนาหมู่บ้าน

นคร มาขอพรพ่อขุน อธิษฐานขอให้ได้เจอหัวใจของตัวเองที่หนีมาเสียที ในขณะที่อีกด้านหนึ่งของอนุสาวรีย์พ่อขุน สาว ก็มาขอพรให้ได้เจอสวย และขอให้เรียนจบเพื่อนำความรู้ไปพัฒนาบ้านเกิด และขอให้นครเห็นใจสักที

โดยที่ทั้งสองไม่เห็นกันและไม่รู้เลยว่า (ใจตรงกันอย่างแรงงงง)

เทพ หาทางสร้างรายได้ด้วยการพาทีมไปร้องเพลงเพื่อชีวิต...ทุกคนมีความหวังที่จะได้ทำการแสดงในผับใหญ่ใจกลางเมือง ตั้งใจฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่ แต่แล้ว...ฝันก็สลาย...ผับใหญ่ใจกลางเมืองของเทพคือ...ร้านหมูกะทะริมถนน ถึงแม้จะไม่ถูกใจโลเกชั่น แต่ด้วยเลือดศิลปิน นครและทีมต่างร้องเพลงเกินเงินค่าจ้าง ซึ่งในคืนนั้นเอง ครูสันติพาสาว,ดวงใจ,โฉมงาม มาเลี้ยงข้าวที่ร้านหมูกะทะเดียวกัน

นคร ดีใจที่เจอคนพรรคพวก เล่นเพลงเอาใจคนบ้านเดียวกัน โดยไม่สนใจเพลงขอจากลูกค้า ทำให้ลูกค้าขาโจ๋หมั่นไส้ บวกกับความเมาเข้าไปทำรุ่มร่าม สาว นครไม่พอใจลงไปห้าม ขาโจ๋โจ๋สมชื่อเปิดศึกวางมวย กลายเป็นอลหม่านร้านหมูกระทะ นครพาสาววิ่งหนี ครูสันติปกป้องดวงใจจนตัวเองได้รับบาดเจ็บ ส่วนเทพจำใจช่วยโฉมงามวิ่งหนีไปอีกทางกับน้าไข่

สาว ต่อว่านครที่ทำเสียชื่อคนใต้ นครเถียงกลับว่าแล้วจะยอมให้คนอื่นมาลวนลามคนบ้านเดียวกันได้อย่างไร ทำให้สาวแอบปลื้ม ระหว่างนั้นสาวและนคร เห็นแม็คขับรถเปิดประทุนพาสวยนั่งเคียงข้างแล่นผ่านไป สาวพยายามร้องเรียกและวิ่งตามไป แต่ก็ไม่ทัน นคร และสาวจำหมายเลขทะเบียนรถได้คนละสองตัว นำมาประกอบร่าง เกิดเป็นภารกิจติดตามหารถของแม็ค เพื่อนำไปสู่ตัวสวย

ดวงใจช่วยครูสันติทำแผลที่หอพัก ครูสันติร้องโอดโอยอ้อนดวงใจ ดวงใจยิ่งหมั่นไส้ แกล้งจนครูสันติเจ็บหนักกว่าเดิม เทพ,น้าไข่พาโฉมงามมาถึงหอพัก และลงมติพาครูสันติไปส่งที่บ้าน ครูสันติอิดเอื้อนขอนอนที่นี่ แต่ดวงใจไม่ยอม ทั้งหมดจึงพากันนั่งแท็กซี่ไปส่งครูสันติที่หน้าสลัมซึ่งครูสันติอ้างว่าเป็นบ้าน แต่เมื่อแท็กซี่คล้อยหลัง ครูสันติกลับเดินข้ามถนนเรียกรถกลับไปยังคฤหาสน์ใหญ่ ครูสันติจำใจปิดบังฐานะ เพราะรู้ดีว่าดวงใจยังปักใจเกลียดคนรวย

รุ่งเช้า นครและสาว ต่างฝ่ายต่างรีบออกตามหารถของแม็ค สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็มาเจอกันที่ร้านอาหารของแม็ค ซึ่งเป็นวันที่สวยจะต้องถ่ายแบบนิตยสารที่นี่

นคร ตามตื้อสวย สวยตัดขาดไม่เหลือเยื่อใย สาว พยายามโน้มน้าวให้สวยกลับบ้าน แต่สวยไม่ยอม เพราะตัวเองกำลังจะเดินเข้าสู่วงการบันเทิง โดยที่สวยไม่ล่วงรู้เลยว่าแม็คไม่ได้จริงใจที่จะช่วย ทำทุกอย่างเพื่อหวังเคลมสวย

และที่สวยเพิ่งจะรู้อีกอย่างก็คือแม็คมี แครี่ (สิริลภัส กองตระการ) พริ้ตตี้นักศึกษาสาวเซ็กซี่ประจำร้านอาหารของแม็ค หลบซ่อนเป็นกิ๊กเอาไว้อีกคน แครี่ ตั้งตัวเป็นศัตรูกับสวยอย่างชัดเจน โดยมี กุ๊งกิ๊ง (วรรณพร ศิริอังกุล) และ โมโม่ (วันสิริ อ่องอำไพ) เพื่อนสาวพริ้ตตี้สุดแสบ เป็นแนวร่วมช่วยแครี่กลั่นแกล้งสวยทุกครั้งที่มีโอกาส สวยพยายามสู้ ไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างอย่างเด็ดขาด ยิ่งทำให้แครี่คิดจะกำจัดสวยไปให้พ้นทาง เพราะแครี่ต้องการเป็นเบอร์หนึ่งของแม็ค โดยไม่รู้เลยว่า กุ๊งกิ๊ง กับ โมโม่ ก็เป็นกิ๊กของแม็คเช่นกัน

สาว พยายามพูดให้นครตัดใจเสียที แต่นครยังยืนยันที่จะตามล่าหัวใจของสวยต่อไป โดยจะทำให้ตัวเองเป็นศิลปินเพื่อชีวิตที่โด่งดังให้ได้ เพื่อให้ศักดิ์ศรีสูสีกับหญิงอันเป็นที่รัก ควบคู่กับการตั้งใจเรียนในคณะมนุษย์ศาสตร์สื่อสารมวลชน ที่นครคิดว่าจะช่วยเปิดทางไปสู่การทำงานในวงการบันเทิง ส่วนสาวเลือกเส้นทางรัฐศาสตร์ เพื่อนำความรู้ทางด้านการปกครองไปช่วยพัฒนาบ้านเกิด ในฐานะผู้ใหญ่บ้านหญิงในอนาคตต่อไป

ครูสันติอาสาพาดวงใจไปเที่ยวในกรุงเทพและคอยเอาใจทุกอย่าง ดวงใจเริ่มเอะใจที่ครูสันติมีเงินมาเลี้ยงทุกครั้ง และมีคนรวยทักทายครูสันติในชื่ออื่น ดวงใจเปิดกระทู้สดซักความจริง ครูสันติต้องโกหกเอาตัวรอด ดวงใจไม่เชื่อใจนักและย้ำเจตนารมย์ว่าเธอเกลียดคนโกหก ครูสันติคิดว่าสักวันจะบอกความจริงทั้งหมดกับดวงใจ

นคร เทพและน้าไข่ ไปเสนอตัวเองตามค่ายเทปต่างๆ แต่ถูกปฏิเสธหมดเทพ เสนอแผนแจ้งเกิดด้วยการเล่นเปิดหมวกที่หน้าราม ในขณะที่สาวและโฉมงามมาตั้งแผงขายเสื้อผ้า,รองเท้ามือสองใกล้ๆ กัน ทั้งสองฝ่ายเปิดศึกแย่งลูกค้า แล้วก็ค้นพบว่ายิ่งทะเลาะยิ่งทำให้ลูกค้าหาย นครและสาวจึงตั้งโต๊ะเจรจา ตกลงใจสมานฉันท์เฉพาะกิจ เพื่อรายได้ของทั้งสองฝ่าย นครจึงร้องเพลงแดนใต้สลับกับการขายของ ลูกค้าเริ่มแห่มามากขึ้น แต่เหมือนนรกชังสวรรค์แกล้งถูกเทศกิจไล่ที่

ทั้งสองฝ่ายช่วยกันหอบข้าวของหนีตาย ไปนอนแผ่หราหน้าลานพ่อขุน ฤาด้วยอานุภาพของพ่อขุน...ทำให้นครและสาวเกิดสติ....สำนึกรักคนบ้านเดียวกัน หันหน้ามาร่วมสมานฉันท์แบบถาวร....แล้วสาวและโฉมงามก็เข้าร่วมเป็นสมาชิกซุ้ม “มนต์รักปักษ์ใต้” ของนคร เทพ น้าไข่และนักศึกษาชาวใต้จากหลายจังหวัด

สาว เห็นใจในความมุ่งมั่นและความจริงใจอย่างแรงของนครที่มีต่อสวย สาวจึงยอมตัดใจช่วยเหลือให้นครสมหวัง ด้วยการแกล้งป่วยให้สวยพาไปหาหมอ เมื่อสวยไปถึง กลับเห็นนคร เทพ,น้าไข่ตั้งวงเล่นคอนเสิร์ตร้องเพลงบอกรักอย่างสุดซึ้ง สวยโกรธมากที่ถูกหลอก ทำให้เสียโอกาสการไปเทสต์หน้ากล้อง สวย ประกาศกร้าวขอให้ทุกคนเลิกยุ่งกับชีวิตของเธอ นคร พยักหน้ารับคำเก็บความช้ำใจ ใส่เกียร์ถอดใจจะกลับบ้านไปพร้อมกับสาวและชาวคณะ

ดวงใจ เก็บความสงสัยในตัวครูสันติไว้ไม่ไหว แอบสะกดรอยตามไปจนถึงคฤหาสน์ใหญ่ เห็นแม่บ้านนอบน้อมครูสันติ ดวงใจถลาเข้าไปซักถามจึงรู้ความจริงว่า ครูสันติ คือ....ลูกชายมหาเศรษฐี.....ดวงใจเป็นลม ครูสันติรีบพาเข้าไปปฐมพยาบาลและกำชับทุกคน ห้ามบอกเรื่องอาชีพของตัวเอง ดวงใจฟื้นขึ้นมาก็เอะอะโวยวาย โกรธมากที่ถูกหลอก ประกาศเลิกคบเป็นเพื่อนกับครูสันติ

เทพ พาพรรคพวกนักศึกษาซุ้ม “คนรักปักษ์ใต้” มาออกค่ายอาสาที่หมู่บ้านพระน้อย พวกสาว,โฉมงาม และดวงใจคอยช่วยเหลือกิจกรรมค่าย

สวยกลับมาบ้าน ตามคำชวนของแม็ค แครี่ กุ๊งกิ๊งและโมโม่ตามมาเที่ยวด้วย อ้างกับแม็คว่า ตอนนี้สนิมสนมกับสวยอย่างดี กลายเป็นเพื่อนรัก แม็คจึงยอมให้แครี่และเพื่อนตามมา แต่แท้จริงแล้ว แครี่ต้องการบุกมาหาเจ๊เอียด เพื่อแสดงตนเป็นสะใภ้ไฮโซ

และแล้ว ค่ายอาสาต้องกลายเป็นค่ายอลหม่าน เมื่อสาว ดวงใจและโฉมงามเห็นว่าพวกแครี่ กุ๊งกิ๊ง โมโม่ หาเรื่องแกล้งสวยและดูถูกชาวพระน้อย เกิดศึกปะทะฝีปากการแก้แค้นสุดโหดมันฮาตลอดเวลา แม็ครู้ความจริงว่าแครี่เป็นตัวปัญหา จึงไล่กลับกรุงเทพ

นครพยายามทำตัวสดใสร่าเริงเพื่อปกปิดความเศร้า ฝ่ายสาว รู้ว่านครเจ็บ สาวก็ยิ่งเสียใจมาก เศร้าไม่แพ้นคร แต่ก็ทำตัวสดใสร่าเริงเช่นกัน เพื่อนๆ ทั้งสองฝ่ายดูออก จึงคิดกิจกรรมต่างๆ นานาในค่ายอาสา เพื่อเยียวยาหัวใจให้นครและสาวกลับมาเป็นปกติ จากสถานการณ์ต่างๆ ทำให้ นครและสาวได้ใกล้ชิดกัน ก่อเกิดเป็นความรักความผูกพันที่ลึกซึ้งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนคนทั้งหมู่บ้านเริ่มแซวถึงคู่รักคู่ใหม่ แต่ทั้งนครและสาวก็ยังไว้เชิงเป็นผู้ร้ายปากแข็ง

ในขณะเดียวกัน เทพ,น้าไข่,โฉมงามก็ต้องระดมสมองมาช่วยสร้างความสมานฉันท์ระหว่างดวงใจและครูสันติ ครูสันติคิดแผนเชิญดวงใจมาเป็นวิทยากรให้ความรู้เด็กที่โรงเรียนเรื่องสุขภาพ ดวงใจรับปาก แต่ถึงวันจริงกลับส่งพยาบาลรุ่นย่ามาแทน ครูสันติไม่ยอมแพ้ พาเด็กทั้งห้องบุกไปหาดวงใจถึงโรงพยาบาล โดยอ้างว่าเป็นหลักสูตรการเรียนรู้นอกสถานที่ ดวงใจจำใจต้องทำงานร่วมกับครูสันติ โดยมีเด็กๆ เป็นกองเชียร์ตลอดเวลา ไม่นานนัก ดวงใจก็ใจอ่อน กลับมาคบครูสันติเป็นเพื่อนเหมือนเดิม พร้อมขอสัญญาว่า ห้ามโกหกอีก

แม็ค หาโอกาสรวบหัวรวบหางสวย แต่สวยยังเล่นตัว เรียกหาสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะทำให้สวยโด่งดังและแต่งงานกับสวย แม็คไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป เข้าขืนใจสวย แล้วสลัดทิ้ง แครี่ได้ที เยาะเย้ยถากถางสมน้ำหน้าสวยต่างๆ นานา สวยเสียใจมากที่รู้ธาตุแท้ของแม็ค สวยไม่มีที่พึ่งอีกแล้ว จึงซมซานกลับบ้านเกิด แครี่จึงเลื่อนฐานะตัวเองขึ้นมาเป็นแฟนของแม็คอย่างเปิดเผย แต่กลับเจอศึกหนัก กุ๊กกิ๊งกับโมโม่ประกาศตัวเป็นกิ๊กแม็ค แครี่โกรธทะเลาะตบตีแย่งชิงแม็ค แครี่เอาคลิปโป๊ของกุ๊กกิ๊งกับโมโม่กับผู้ชายมาขู่ กุ๊กกิ๊งกับโมโม่จึงยอมยกแม็คให้แครี่

พ่อผู้ใหญ่โกรธมากที่สวยถูกแม็คย่ำยี ไปเอาเรื่องกับเจ๊เอียด เรียกร้องให้แม็ครับผิดชอบสวย เจ๊เอียดโกรธที่แม็ควู่วาม จึงผัดผ่อน ประวิงเวลา เรียกตัวแม็คกลับมาด่วน

เจ๊เอียดบังคับให้แม็คอดทนทำดีกับสวย เพื่อหลอกล่อให้สวยสืบจากพ่อผู้ใหญ่มาให้ได้ว่าที่ซ่อนของพระน้อยอยู่ที่ไหน หลังจากนั้นแม็คจะไม่สนใจใยดีสวยอย่างไร เจ๊เอียดก็จะไม่ว่าอีกต่อไป แม็คจำยอมทำตาม แต่ก็มีอุปสรรคคือ แครี่ตามมาราวี เจ๊เอียดขอเคลียร์ แครี่ยื่นข้อเสนอ จะยอมไปให้พ้นทางถ้าเจ๊เอียดยอมจ่ายเงินปลอบขวัญให้เป็นเงินก้อนโต เจ๊เอียดทำเป็นยินยอม นัดให้แครี่มาเอาเงิน แต่แล้วก็ตลบหลัง ให้ลูกน้องจับแครี่ ไปขายตัวที่ชายแดน

แต่....พ่อผู้ใหญ่เข้ามาล่วงรู้สิ่งที่เจ๊เอียดคุยกับแม็คเข้า เจ๊เอียดสั่งลูกน้องฆ่าปิดปากพ่อผู้ใหญ่ทันที แล้วอำพรางคดี สาว สวย และทุกคนช็อคและเสียใจกับการจากไปของพ่ออันเป็นที่รัก สาวประกาศกลางงานศพ จะลากคอฆาตกรมาลงโทษให้ได้!!!!

หลังจากงานศพ สวยขอคืนดีกับนคร เพราะรู้ซึ้งแล้วว่านครคือคนที่รักสวยจริง นครอึดอัดใจ และสารภาพกับสวยว่ามีใจให้กับสาวไปแล้ว และจะขอสาวแต่งงาน สวยจึงไปขอร้องสาวให้ยกนครให้เธอ พร้อมร้องไห้ฟูมฟายถึงความผิดพลาดในอดีตให้สาวเห็นใจ สวยโกหกกับสาวว่านครยังมีเยื่อใยกับสวยอยู่ สาวไม่อยากให้สวยต้องช้ำใจ จึงยอมเสียสละความรักของตัวเองให้กับสวย ด้วยการปฏิเสธการสู่ขอของนคร นครถามหาความรักความผูกพันที่สาวมีให้ตลอดมา สาวให้เหตุผลว่าที่ทำไปทั้งหมดแค่ดูแลในฐานะคนบ้านเดียวกัน ไม่ได้มีใจลึกซึ้งด้วย นครช้ำรัก หนีไปร้องเพลงอกหักใต้สวนยางอยู่คนเดียว ส่วนสาวเองก็แอบไปร้องไห้ที่น้ำตก

แม็คพยายามตื๊อให้สวยคืนดี เพื่อหวังผลประโยชน์ แต่สวยไม่เล่นด้วย แม็คจึงนำคลิปมือถือที่ถ่ายสวยเอาไว้มาขู่ ให้สวยหาทางสืบข้อมูลจากนครว่า พระพุทธรูปสามร้อยปีประจำวัดของหมู่บ้านซ่อนอยู่ที่ไหน ในฐานะที่นครเป็นหลานชายของ หลวงปู่เสม เจ้าอาวาส สวย กลัวว่าเรื่องที่ตัวเองถูกย่ำยีจะถูกเปิดเผย เลยจำยอม

ครูสันติ ได้ข่าวว่าขบวนการลักลอบค้าพระกำลังจะเข้าไปขโมย พระน้อย จึงเข้าไปป้วนเปี้ยนในวัด ทำให้นครเข้าใจผิด จากที่ไม่ไว้ใจอยู่แล้ว ยิ่งทำให้นครคลางแคลงใจครูสันติมากขึ้นไปอีก คิดว่าครูสันติจะเข้าไปสืบหาที่ซ่อนพระพุทธรูป ครูสันติจึงยอมบอกความจริงว่าเป็นตำรวจปลอมตัวมาตามสืบคดีลักลอบค้าวัตถุโบราณ นครจึงขอโทษที่เคยเข้าใจผิดพร้อมรับปากจะช่วยปกป้องพระพุทธรูปของหมู่บ้าน

สวย เข้าไปล้วงความลับจากนคร แต่นครไม่ยอมหลุดปาก สวย หวังจะใช้เรือนร่างทำให้นครใจอ่อน แต่นครพยายามปัดป้อง จนพลาดท่าไปล้มทับตัวสวย สาวเข้ามาเห็นเหตุการณ์ สาวเข้าใจนครผิดจึงตัดสัมพันธ์กับนครทันที นครพยายามตามไปอธิบายแต่สาวก็ไม่ฟัง

แม็ครู้ว่าสวยทำงานไม่สำเร็จ ก็โกรธมากทำร้ายสวยปางตาย สาวเข้ามาเห็นจะช่วยเหลือสวย แต่แม็คจับสวยเป็นตัวประกัน สั่งให้สาวไปเอาข้อมูลจากนครมาให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะฆ่าสวย แล้วทุกคนก็รู้ความจริงว่า เจ๊เอียดและแม็ค เป็นผู้บงการฆ่าผู้ใหญ่บ้านและเป็นผู้ลักลอบค้าวัตถุโบราณรายใหญ่ของประเทศ

สาว ขอร้องนคร นครยอมช่วยและแอบบอกข่าวให้ครูสันติ นครพาสวยไปยังที่ซ่อนพระพุทธรูป แม็คและลูกน้องสะกดรอยตามมาจนเจอพระน้อย แม็คจะฆ่านครและสาวที่กรุพระแห่งนี้ แต่แล้วครูสันติก็นำกำลังตำรวจเข้าปิดล้อม ทุกคนจึงรู้ความจริงว่าครูสันติ เป็นหัวหน้าสืบสวนขบวนการลักลอบค้าวัตถุโบราณ ครูสันติจะเข้าจับกุมแต่แม็คก็ไม่ยอมจำนน เจ๊เอียดซึ่งถูกตำรวจคุมตัว ขอร้องอย่าทำร้ายลูก และบอกให้แม็คยอมมอบตัว เพราะมั่นใจว่าจะหลุดจากคดีด้วยอำนาจเงินของตัวเอง แม็คไม่ยอมแพ้ ฉวยโอกาสยิงต่อสู้กับตำรวจ ระหว่างการต่อสู้นั้นเอง แม็คคว้าตัวสาวเป็นตัวประกัน แล้ววิ่งหนีไป

นคร ครูสันติ สวยและทุกคนตามไปช่วย เกิดการไล่ล่า สาวฉวยจังหวะดิ้นหลุดจากแม็ค วิ่งหนีไปสวนยาง แม็คยิงใส่ทันที สวยปราดเข้ามาขวางวิถีกระสุนเพื่อปกป้องสาว ขอโทษกับความผิดพลาดของเธอ แล้วสิ้นใจตายในอ้อมกอดของสาว

แม็คยังเข้าไปลากสาววิ่งหนีหายไปทางหลังเขา นคร,ครูสันติและพรรคพวกตามติด ส่วนลูกน้องของแม็คนำพระพุทธรูปหนีไปอีกทาง ครูสันติตามไปต่อสู้ จนลูกน้องเสียชีวิตด้วยผลกรรมที่ทำไว้ ครูสันตินำพระพุทธรูปกลับคืนมาได้

แม็คมาถึงน้ำตกใหญ่ หนีต่อไปไม่ได้ นครต่อรองให้แม็คยอมมอบตัว สาวดิ้นหนีจนปืนแม็คตก นครเข้าไปต่อสู้ แล้วทั้งสองก็พลาดท่าตกน้ำตก สาวเข้าไปคว้ามือนครไว้...ส่วนแม็คตกลงไปกระแทกโขดหิน สิ้นใจตาย สาวพยายามดึงตัวนครขึ้นมา แต่นครไม่ยอม...ขอฟังคำว่ารักจากปากของสาวเสียก่อน สาวหมั่นไส้ที่นครยังมีอารมณ์เล่น จะปล่อยมือ นครจึงรีบปีนขึ้นมาทันที

หลังจากเหตุการณ์คลี่คลาย ดวงใจรู้ความจริงว่าครูสันติเป็นตำรวจ ดวงใจยิ่งโกรธหนักที่ถูกหลอกอีกครั้ง ทั้งๆ ที่เคยสัญญากันไว้แล้วว่าจะพูดความจริง ครูสันติจึงขอร้องให้เทพและน้าไข่สอนร้องเพลงสำเนียงใต้ สารภาพรักให้ดวงใจเห็นความจริงใจ เพราะรู้ดีว่าดวงใจแพ้เสียงเพลง ในที่สุดก็เป็นจริงอย่างที่ครูสันติคิดไว้ ความรักของดวงใจและครูสันติจึง
สมรักสมรส

สาวเสียใจกับการจากไปของสวย นครเข้ามาปลอบใจและขอคำตอบจากสาวอีกครั้งว่า....เธอรักฉันบ้างไหม??? สาวเดินหนีไปก่อนจะหันมาร้องเพลง ใจความว่า ถ้ารักก็ขอให้รักด้วยความจริงใจและให้มาขอ ตนพร้อมจะมอบใจให้กับคนที่รักจริง (เป็นเพลงคู่จีบกันของทั้งสอง) นครหัวใจพองโตวิ่งเข้าไปกอดสาวพร้อมหอมแก้มฟอดใหญ่ แต่ก็ถูกสาวต่อยกลับ ฐานล่วงเกินก่อนที่แม่จะมาขอ แล้วบรรดาลูกคู่ทั้งหลายที่แอบซ่อนตัวอยู่ก็โผล่ขึ้นมาแสดงความยินดีกันอย่างครื้นเครง



บทประพันธ์ : ธงชัย / ตรียูงทอง
บทโทรทัศน์ : ตรียูงทอง
กำกับการแสดง : ธงชัย ประสงค์สันติ
ผู้ผลิต : พอดีคำ จำกัด
ออกอากาศทุกวัน : จันทร์ - อาทิตย์ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 สี

นักแสดง
ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ >>> นคร
ปุณยาพร พูลพิพัฒน์ >>> สาว
ปริยานุช อาสนจินดา >>> สวย
ภาณุ สุวรรณโณ >>> ครูสันติ
ธัญสินี พรมสุทธิ์ >>> ดวงใจ
ดนัย สมุทรโคจร >>> แม๊ก
อำภา ภูษิต >>> เจ้เอียด
วันสิริ อ่องอำไพ >>> โมโม่
สิริลภัส กองตระการ >>> แครี่
วีระชัย หัตถ์โกวิท >>> น้าไข่
วรรณพร ศิริอังกุล >>> กุ๊งกิ๊ง
โก๊ะตี๋ อารามบอย >>> เทพ
ชมพู่ ธัณย์สิตา >>> โฉมงาม
ปิยะ ตระกูลราษฎร์ >>> ผู้ใหญ่คม
ลุงจ๋อ อมรเทพ >>> หลวงอา
สุภักดิ์ ปิติธรรม >>> หลวงปู่เสม
Read more »

เรื่องย่อละคร หงส์ฟ้า


เรื่องราวของเด็กหญิง ธิดารัชทายาทรัฐอิสระแห่งหนึ่ง ซึ่งชะตากรรมทำให้ต้องพลัดพรากจากพ่อแม่ผู้สูงส่ง ไปอยู่ในความอุปการะของขอทาน
ผู้มีกะลาเป็นเครื่องมือหากิน เธอจึงได้ชื่อว่า “กะลา” แต่ด้วยความดี ความงาม ความกตัญญู และความอดทน ทำให้เธอฝ่าฟันอุปสรรคนานา พิสูจน์คุณค่าของความเป็น “กะลาทอง”

--------------------------------------------------------------

นาฏลดา (พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์) ถูกเรียกตัวกลับจากอเมริกา พร้อมครรภ์แก่ใกล้คลอด คุณหญิงชฎา (ดวงใจ หทัยกาญจน์) ผู้เป็นแม่ทำเช่นนี้เพราะก่อนที่สามีของเธอจะตายได้หมั้นหมายนาฏลดากับอนุวัฒน์ (วรวุฒิ นิยมทรัพย์) นักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง ชฎาคิดว่าจับลูกสาวใส่ตะกร้าล้างน้ำได้ เธอส่งนาฏลดาไปคลอดลูกที่ต่างจังหวัด โดยมีสำลี (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) แม่นมของนาฏลดาคอยช่วยเหลือ นาฏลดาคลอดทารกเพศหญิง เธอผูกเส้นเชือกซึ่งเป็นหูกระเป๋าผ้าไหมจีนลายหงส์ทองกับข้อมือของทารก ซึ่งเป็นของสิ่งสุดท้ายที่เจ้ามิ่งหล้า คนรักของเธอมอบให้ ก่อนที่เขาจะหนีจากไป นาฏลดารู้เพียงว่าเขาเป็นเจ้าชายจากรัฐอิสระรัฐเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศไทย แต่ต้องจากเธอไปด้วยเหตุผลทางการเมือง มิ่งหล้าไม่สามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาได้ เพราะเกรงว่านาฏลดากับลูกจะมีภัย

วิทย์ (ธราธิป สีหเดชรุ่งชัย) ได้รับคำสั่งจากคุณหญิงชฎาให้ขโมยลูกของนาฏลดาไปทิ้ง นาฏลดาเสียใจมาก มีเพียงสำลีที่คอยปลอบใจ เธอถูกส่งตัวเข้าพิธีแต่งงานตามฤกษ์ที่ซินแสให้อย่างกะทันหัน ส่วนเด็กทารกนั้นวิทย์ นำใส่รถตู้ไปทิ้งไว้ข้างบุญช่วย (สมชาย ศักดิกุล) ขอทานริมถนน บุญช่วยตื่นขึ้นมาเพราะเสียงร้องไห้ของทารกตอนเช้าตรู่ และเห็นทารกน้อยอยู่ข้างกะลาที่แกใช้ขอทาน บุญช่วยจ้างยายนิ่ม (วิยะดา อุมารินทร์) ให้ช่วยเลี้ยงทารกน้อย กระเป๋าลายหงส์และที่ผูกข้อมือทารก ทำให้แกตั้งชื่อทารกว่า “หงส์ฟ้า” (อุษามณี ไวยานนท์) แต่ยายนิ่มเรียกว่า “นังกะลา” (อุษามณี ไวยานนท์) ในที่สุดทุกคนในสลัมก็เรียกเด็กหญิงว่า “กะลา” และต่างก็เชื่อว่ากะลา เป็นลูกของโสเภณีคนหนึ่งในซ่อง ซึ่งวิ่งหนีตำรวจ แล้วนำเด็กมาทิ้งไว้ กะลาเองก็เชื่อว่าแม่ของตนคือโสเภณีคนหนึ่งในซ่องนั้น ทุกครั้งที่กะลาเสียใจ เพราะถูกยายนิ่มตี เธอจะไปที่หน้าซ่องแล้วก็เรียกหาแม่ ทำให้พิกุล (ชุติมา เอเวอร์รี่) แม่เล้าเจ้าของซ่องเกิดความเวทนาและรับกะลาเป็นลูก อ้อมกอดของพิกุล สร้างความอบอุ่นให้แก่กะลา โดยที่เด็กหญิงมิเคยรังเกียจ

กะลาเติบโตมาพร้อมกับเงาะ (รุ้งลดา เบญจมาธิกุล) หลานยายนิ่ม ซึ่งแม่คลอดแล้วก็มาฝากไว้ แล้วไม่กลับมาอีกเลย เงาะชอบลักเล็กขโมยน้อย กะลาไม่อยากทำ แต่ก็ถูกยายนิ่มตี ถ้าวันไหน บุญช่วยไม่มีเงินค่าเลี้ยงดูมาให้ แกก็จะบังคับให้กะลาหาเงินมาให้แกแทน บ่อยครั้งที่กะลาได้เงินจากมานพ (ธนพล นิ่มทัยสุข) เด็กวัด ข้างสลัม มานพสงสารกะลา เขารู้สึกผูกพันกับกะลามาก

วันหนึ่งบุญช่วยถูกรถชน คนขับชนแล้วหนีไป กะลาต้องหาเงินค่ารักษาพยาบาลให้ได้ เธอตัดสินใจวิ่งราวกระเป๋าของนาฏลดา ซึ่งลงจากรถมาซื้อพวงมาลัยข้างทาง แล้วกะลาก็วิ่งหนีเข้าไปในวัด มานพหาที่ซ่อนให้ แต่ไม่วายถูกวิทย์ตามมาพบ วิทย์จับตัวกะลาได้พร้อมของกลาง มานพเข้าช่วยแต่ก็สู้วิทย์ไม่ได้ วิทย์ทุบตีกะลาแต่นาฏลดาเกิดความเวทนาจึงเข้าห้าม และจะอุปการะกะลา เมื่อถามว่าพ่อแม่เป็นใคร กะลาก็ตอบว่า “พ่อเป็นขอทาน แม่เป็นผู้หญิงหากิน” ทำให้อนุวัฒน์รังเกียจกะลาตั้งแต่แรกเห็น นาฏลดาขอให้กะลาไปอยู่กับตน กะลาจึงเรียกค่าตัวเป็นค่ารักษาพยาบาลบุญช่วย เธอขอไปบอกยายนิ่มก่อน แล้วจะกลับมาพบ เมื่อถึงบ้านยายนิ่ม กะลามอบเงินให้ สั่งให้นำไปเป็นค่ารักษาพ่อ เธอขอเพียงกะลาที่บุญช่วยใช้ขอทานกับกระเป๋าไหมจีนรูปหงส์ทองติดตัวไปเท่านั้น แต่เมื่อพบมานพ เธอซึ้งใจในน้ำใจของเพื่อน จึงให้กระเป๋าหงส์ทองใบนั้นเป็นสิ่งตอบแทน ขอให้มานพสัญญาว่าจะไม่ทิ้งขว้างมัน เพราะมันคือสิ่งเดียวที่ยืนยันการมีอยู่ของตัวเธอ

กะลามาถึงรถตู้ของอนุวัฒน์ นาฏลดาดีใจมาก ขณะที่รถตู้จอดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง อนุวัฒน์ให้เงินกะลาพันบาทเพื่อซื้อน้ำดื่ม กะลาหลงเชื่อ แต่เมื่อลงจากรถไป อนุวัฒน์ก็สั่งให้วิทย์ขับรถหนีไป กะลาวิ่งตามจนหกล้ม เธอคิดแค้น ผูกใจเจ็บ และคิดว่านาฏลดาเปลี่ยนใจ และไม่รักษาสัญญา ส่วนนาฏลดาเสียใจมาก มีปากเสียงกับอนุวัฒน์อย่างรุนแรง

ยายนิ่มนำเงินของกะลาไปเล่นหวย และใช้หนี้ค่าแชร์ที่ติดค้างเจ้าหนี้ไว้ บุญช่วยได้รับการช่วยเหลือจากสถานสงเคราะห์ ขาของบุญช่วยเสียข้างหนึ่ง ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัว เขาเข้ารับฝึกอาชีพในสถานสงเคราะห์คนพิการ รอคอยการกลับมาของกะลา ลูกสาวที่เขาแสนรัก เช่นเดียวกับมานพที่รอคอยการกลับมาของเพื่อนรัก

ชีวิตสมรสของนาฏลดาเหมือนตกอยู่ในนรก อนุวัฒน์ทรมานใจเธอ เขารู้ว่าตลอดเวลาเธอไม่เคยลืมคนรักเก่า รัชนีวิภา (ภารดี ผาสุกดี) ผู้ซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกา นำความลับเรื่องที่เธอเคยท้องกับผู้ชายคนหนึ่งมาแล้ว ไม่ใช่ผู้หญิงบริสุทธิ์ผุดผ่องอย่างที่คุณหญิงชฎามารดาของนาฏลดาบอกใครๆ รัชนีวิภาจ้างสด (ราตรี วิทวัส) หัวหน้าแม่บ้านให้คอยรายงานความเคลื่อนไหว และหาทางกลั่นแกล้งนาฏลดาทุกวิถีทาง แม้สำลีจะคอยช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยได้ทุกครั้ง รัชนีวิภาหาทางทำลายชีวิตสมรสของนาฏลดา เพื่อเธอจะได้อยู่กินกับอนุวัฒน์อย่างเปิดเผย ไม่ใช่ในฐานะเมียเก็บอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่นาฏลดาไม่สามารถหย่าได้เพราะธุรกิจของครอบครัวขาดทุนอย่างหนัก ต้องใช้เงินทุนของอนุวัฒน์พยุงธุรกิจไว้

กะลาเร่ร่อนไป ในย่ามเก่าๆ มีเพียงกะลาที่ใช้ขอทาน เธอตัดสินใจใช้กะลาของบุญช่วยขอทานเพื่อยังชีพ และรับจ้างทำงานสารพัด หลายครั้งที่ต้องผจญภัยแทบเอาชีวิตไม่รอด สุดท้ายเธอหนีไปแอบในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ครูอารี (อรวรินทร์ นิยมสัตย์) มาพบเข้าและอุปการะ จัดการให้เรียนหนังสือ ต่อมาคุณหญิงชฎากับนาฏลดามามอบทุนการศึกษาที่โรงเรียนนี้ นาฏลดาขอให้กะลาไปอยู่กับตนตามที่เคยสัญญากันไว้ กะลาต่อว่านาฏลดาที่ไม่รักษาสัญญา คุณหญิงชฎาเห็นว่าลูกสาวมีความต้องการอุปการะกะลาจริง จึงยินดีให้กะลาไปอยู่กับตน คอยรับใช้เล็กๆ น้อยๆ กะลาจึงลาครูอารีไปอยู่กับคุณหญิงชฎา อนุวัฒน์รู้เรื่องก็โกรธนาฏลดามาก สั่งห้ามไม่ให้พาเด็กกะลาเข้ามาในบ้าน

กะลาโตเป็นสาว สวย ผิวพรรณดี คุณหญิงชฎาเมตตากะลามาก และมักจะพาออกงาน คุณหญิงชฎาเลยคิดจะตั้งชื่อให้เธอใหม่ แต่กะลาพอใจจะใช้ชื่อนี้ หรือไม่ก็ชื่อหงส์ฟ้า วันที่เธอเล่าให้คุณหญิงฟังเรื่องที่มาของชื่อหงส์ฟ้า นาฏลดาอยู่ด้วย ทำให้เธอมั่นใจว่ากะลาคือลูกสาวของตน แต่ไม่อาจเปิดเผยกับกะลาได้ เพราะไม่อยากทำให้อดีตของเธอถูกเปิดเผยต่อสังคมวงกว้างมากขึ้น กะลานำเงินเก็บก้อนหนึ่งกลับไปยังสลัม และเธอก็พบว่าสลัมกลายเป็นสถานที่ก่อสร้างคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ ซึ่งก็คือโครงการของอนุวัฒน์นั่นเอง ยายนิ่มเสียชีวิตแล้ว พิกุลป่วยเป็นโรคร้ายตาย ศพยังเก็บไว้ที่วัด รอคอยญาติมาทำพิธี มานพเล่าเรื่องนี้ให้เธอฟัง กะลามอบเงินจำนวนนั้นให้มานพเป็นค่าทำศพพิกุล แล้วเธอก็ได้พบกับเงาะ หลานสาวของยายนิ่ม ซึ่งออกจากสถานพินิจมาทำงานในสถานที่ก่อสร้างคอนโดมีเนียม เงาะเห็นกะลามีความสุขก็เกิดอิจฉาและหาทางลัดให้กับตัวเอง โดยยอมเป็นเมียเก็บของอนุวัฒน์ ซึ่งมาคุมงานก่อสร้างบ่อยๆ รัชนีวิภารู้เข้าก็อาละวาดใส่เงาะ และเล่าเรื่องนี้ให้นาฏลดาฟัง แต่นาฏลดาไม่เจ็บร้อนเพราะเธอไม่เคยรักอนุวัฒน์เลย

พลโทชัชวาล กลับจากอังกฤษ พาวายุ (พาทิศ พิสิฐกุล) บุตรชายมาเยี่ยมชฎา วายุเห็นกะลาก็นึกชอบ วายุได้รับการว่าจ้างให้ตกแต่งภายในคอนโดมิเนียมของอนุวัฒน์ เขาได้พบกับพริ้งพิไล (ปริยานุช อาสนจินดา) หลานสาวของรัชนีวิภา พริ้งพิไลชอบวายุมาก จึงหาเรื่องกับกะลาบ่อยๆ แต่วายุก็แอบมาพบกะลาเสมอ

มานพสอบบรรจุเป็นตำรวจได้ เขาถูกส่งไปประจำการที่ชายแดนที่ภาคเหนือ ขณะนั้นรัฐอิสระเกิดการรัฐประหารขึ้น เจ้ามิ่งหล้าหนีตายเข้ามาในชายแดนไทย มานพถูกสั่งให้ปฏิบัติการพิเศษ โดยการนำตัวเจ้ามิ่งหล้าเข้ามาในแผ่นดินไทยและดูแลอารักขาในฐานะแขกของรัฐบาลไทย มานพถูกย้ายเข้ากรุงเทพฯ
เจ้ามิ่งหล้าซ่อนตัวอยู่ในแฟลตแคบๆ ของมานพ ในฐานะญาติคนหนึ่งที่เพิ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัด วันหนึ่งมานพหยิบกระเป๋าลายหงส์ออกมาดู มิ่งหล้าจำได้ และอยากพบเจ้าของกระเป๋านี้มาก แต่ก็ไม่ยอมเปิดเผยว่าเพราะเหตุใด

พริ้งพิไลกับรัชนีวิภารวมหัวกันหาเรื่องกับกะลา กะลาตบสองน้าหลานจนได้รับบาดเจ็บ อนุวัฒน์สั่งให้นาฏลดาตบหน้ากะลาแทนตนเป็นการลงโทษ นาฏลดาจำใจตบลูกทั้งน้ำตา คืนนั้นเธอสารภาพกับกะลาว่าเธอคือแม่ แต่กะลาไม่ยอมรับ พร้อมยืนยันว่าพ่อของเธอเป็นขอทาน ส่วนแม่เป็นผู้หญิงหากิน ถ้าคุณเคยเป็นผู้หญิงหากินมาก่อน กะลาก็จะยอมรับว่าเป็นแม่ คำตอบของกะลาทำให้นาฏลดาเสียใจมาก

มานพติดตามขบวนของคุณหญิงชฎามาสถานสงเคราะห์คนพิการ กะลาตามคุณหญิงชฎามาด้วย มานพกับกะลาดีใจที่ได้พบบุญช่วย กะลาบอกกับใครๆว่านี่คือพ่อของเธอ ส่วนแม่เสียชีวิตแล้ว นาฏลดา ซึ่งไปร่วมการกุศลครั้งนั้นด้วย ได้ยินก็เสียใจมาก มานพชวนกะลาไปเที่ยวบ้าน มิ่งหล้าได้พบกับกะลา เขาแอบร้องไห้ดีใจ แต่ไม่กล้าแสดงตัวเพราะเกรงว่ากะลาจะมีอันตราย

เงาะแสดงความหมางเมินกับกะลาและทำทุกวิถีทางที่จะมีชีวิตที่ดีเหมือนกะลาให้ได้ แต่อนุวัฒน์กลับไม่ให้เงินทองอย่างที่เงาะต้องการ เงาะจึงดื้อแพ่งมาอยู่ในบ้านของอนุวัฒน์ หาเรื่องกับนาฏลดา แต่กะลาซึ่งรู้อยู่เต็มอกว่านาฏลดาคือแม่ของตน เธอจึงปกป้องนาฏลดาเท่าที่จะทำได้ ทำให้เงาะตั้งตัวเป็นศัตรูกับกะลาอย่างเปิดเผย กะลาจึงต้องรับศึกหนัก ทั้งจากพริ้งพิไล รัชนีวิภา
และเงาะ

วายุให้บิดามาสู่ขอกะลา ชัชวาลตามใจลูก ทำให้พริ้งพิไลกับรัชนีวิภาไม่พอใจมาก กะลาไม่กล้าตัดสินใจเพราะชีวิตตนเป็นหนี้บุญคุณคุณหญิงชฎา ในวันหมั้นกันนั่นเอง พริ้งพิไลกับรัชนีวิภาจ้างนักข่าวมาทำข่าวขุดคุ้ยกำพืดของกะลา ชัชวาลอับอายที่จะบอกใครๆ ว่าสะใภ้ของตนมีกำเนิดที่น่ารังเกียจ กะลาวิ่งหนีแขกเหรื่อในงาน เป็นที่สะใจของสองน้าหลานเป็นอย่างมาก นาฏลดาจึงเปิดเผยกับทุกคนว่ากะลาไม่ได้มีกำเนิดที่น่ารังเกียจ เพราะเธอคือลูกของตน รัชนีวิภาจึงถามว่าพ่อของกะลาเป็นใคร นาฏลดาจึงเปิดเผยว่าพ่อของกะลาเป็นบุคคลสูงส่ง ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยตัวได้

อนุวัฒน์ข่มขู่นาฏลดาให้เปิดเผยความจริงว่าพ่อของกะลาเป็นใคร เขาทนไม่ได้ที่รู้ว่าตลอดเวลานาฏลดายังมีใจให้ผู้ชายคนนั้น ไม่เช่นนั้นเขาจะถอนหุ้นในบริษัทของคุณหญิงชฎาให้หมด สังคมจะได้รู้กันเสียทีว่าคุณหญิงชฎามีแต่เปลือก และจะฆ่ากะลาเสียด้วย ในฐานะที่กะลาเป็นพยานรักอันน่ารังเกียจสำหรับเขา นาฏลดากลัวคำขู่นั้นจึงบอกความจริงว่าพ่อของกะลาคือเจ้ามิ่งหล้า องค์รัชทายาทผู้สูงส่ง

อนุวัฒน์เรียกวิทย์ไปพบ ขอให้วิทย์สืบหาตัวมิ่งหล้า ซึ่งแอบมาซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพฯให้พบและฆ่าเสีย อย่าให้มีชีวิตกลับไปที่รัฐของตนได้ แต่วิทย์ไม่ตกลงเขาเปิดเผยว่าเขาหลงรักนาฏลดามาตั้งแต่เธอยังสาว และเขาก็ทำงานเป็นลูกน้องพ่อของนาฏลดามา เขาไม่สามารถทำร้ายจิตใจของนาฏลดาได้ อนุวัฒน์ตกใจมากที่รู้ความจริง จึงไล่วิทย์ออกไปจากบ้าน

เงาะแอบได้ยินจึงอาสาว่าจะทำงานนี้ให้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนคืออนุวัฒน์จะต้องหย่ากับนาฏลดาและจดทะเบียนสมรสกับตนทันทีที่ทำงานนี้สำเร็จ เงาะเข้ามาสนิทกับกะลาอีกครั้ง นาฏลดาย้ายข้าวของมาอยู่กับมารดา ทำให้เธอเริ่มปรับความเข้าใจกับกะลา แม้กะลายังมึนตึงกับเธออยู่ก็ตาม วายุตามมาง้อนแต่กะลาไม่มีใจให้แล้ว เธอรู้ดีว่าคนที่รักเธอมาตลอดคือมานพ

มานพมาชวนให้กะลาไปหาลุงมิ่ง กะลาถูกชะตากับลุงมิ่งอยู่แล้ว จึงไปเยี่ยม เงาะสงสัยจึงสะกดรอยตามไป และได้เห็นการเปิดเผยความจริงของพ่อกับลูก เงาะยิงมิ่งหล้า แต่กระสุนพลาดไปถูกกะลา มานพตามล่าเงาะ แต่เธอหนีไปที่คอนโดมีเนียม ซึ่งกำลังมีงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เงาะขอให้อนุวัฒน์ช่วยตน แต่อนุวัฒน์บอกให้เงาะหลบไปซ่อนตัวที่ไหนก่อน เงาะเสียใจมาก จึงยิงอนุวัฒน์ตายในงาน ต่อมามานพนำกำลังตำรวจมาจับตัวเงาะได้

นาฏลดา มิ่งหล้า และกะลา ดีใจที่เปิดเผยความในใจต่อกัน กะลากราบพ่อแม่ของตน มิ่งหล้าเห็นว่าสถานการณ์ในรัฐของตนสงบแล้ว จึงชวนให้ทั้งสองไปกับตนด้วย กะลารับรักมานพ วายุยอมรับความพ่ายแพ้ เขาเดินทางไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ พริ้งพิไลขอติดตามวายุไปด้วย ส่วนรัชนีวิภาสูญเสียอนุวัฒน์ไปแล้ว ก็กลายเป็นบ้าอยู่ในคอนโดมีเนียมร้าง




บทประพันธ์ : โยษิตา
บทโทรทัศน์ : ภาคย์รพี
กำกับการแสดง : เอกภพ ตันหยงมาศกุล
ผู้ผลิต : กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ออกอากาศทุกวัน : ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี

นักแสดง
ธนพล นิ่มทัยสุข >>> มานพ
อุษามณี ไวทยานนท์ >>> กะลา หรือ หงส์ฟ้า
พาทิศ พิสิฐกุล >>> วายุ
ปริยานุช อาสนจินดา >>> พริ้งพิไล
พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ >>> นาฎลดา
สมชาย ศักดินา >>> บุญช่วย
พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา >>> สำลี
ศุกล ศศิจุลกะ >>> ปาวิน
ธราธิป สีหเดชรุ่งชัย >>> วิทย์
วิยะดา อุมารินทร์ >>> ยายนิ่ม
ชุติมา เอเวอร์รี่ >>> พิกุล
ศิริวรรณ ย้อยสกุล >>> แข
ปีเตอร์ กัลป์ >>> บัวลอย
อรวินทร์ นิยมสัตย์ >>> ครูอารี
รุ้งรดา เบญจมาธิกุล >>> เงาะ
ดวงใจ หทัยกาญจน์ >>> คุณหญิงชฎา
วรวุฒิ นิยมทัรัพย์ >>> อนุวัฒน์
ยอดชาย เมฆสุวรรณ >>> หลวงตา
ภารดี อยู่ผาสุข >>> รัชนีวิภา
วันชัย เผ่าวิบูล >>> ชัชวาล
ราตรี วิทวัส >>> สด
ตูมตาม เขิญยิ้ม >>> จ่ามี
Read more »

วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2553

น่ารักดี




อือ
Read more »

น่ารักดีอิอิ





อิอิ
Read more »

น่ารักอีกแล้ว





อิอ
Read more »

ภาพดาราน่ารักดี



อิอิ
Read more »

วันพุธที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553

ภาพดาราอีกแล้ว




อิอิ
Read more »

ภาพดาราน่ารักดี




น่ารักดี
Read more »

วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553

ตะวันยอแสง


วันออกอากาศ วันจันทร์
ช่องที่ออกอากาศ 7
วันที่เริ่มออกอากาศ 15 กุมภาพันธ์ 2553
เวลาออกอากาศ 20:30 - 22:30 น.

กำกับโดย จรูญ ธรรมศิลป์
ประพันธ์โดย

บทประพันธ์โดย เสนีย์ บุษปะเกศ, บทโทรทัศน์โดย คฑาหัสต์ บุษปะเกศ
นำแสดงโดย
วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ ... ศักดิ์รพี หรือ คุณเล็ก
เขมนิจ จามิกรณ์ ... ตะวัน หรือ ยอแสง
ชวนภ โพธิ์ประเสริฐ ... นพดลหรือเอี้ยง
อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ ... ใจบุญ
ปัณฑิตา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์ ... พร้อมมิตร
กชกร นิมากรณ์ ... คุณใหญ่
ดิลก ทองวัฒนา ... ท่านต้น
อภิรดี ภวภูตานนท์ ... พริ้มเพรา
นนทพันธ์ ใจกันทา ... นเรนทร์

ผู้สร้าง ดีด้า วีดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ตะวัน อาศัยอยู่ในเรือกระแชงกับ นางสาย ผู้เป็นแม่ และ คร้าว พ่อเลี้ยงขี้เมา ยังชีพด้วยการรับจ้างบรรทุกรำข้าวหรือสินค้าที่ต้องล่องตามต่างจังหวัด โดยมีเพื่อนบ้านสนิทสนมกันอย่าง เด็กชายเอี้ยง อาศัยอยู่ในเรือกระแชงอีกลำกับแม่และมีพ่อเลี้ยงใจร้ายเหมือนตะวันเช่นกัน

ความรักและสนิทสนมเหมือนพี่น้องคลานตามกันมาของตะวันกับเอี้ยงเป็นที่ชินสาย ตาชาวเรือกระแชง แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนกังขาและร่ำลือกันหนาหูคือผิวพรรณขาวผุดผาดผิดชาวเรือ ของตะวันทำให้ชาวบ้านหลายคนมักพูดกันว่าตะวันอาจไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของนางสาย

สายกลับมาเล่าให้ตะวันฟังว่าต้องบรรทุกรำไปส่งที่เรือนแพคลองบางหลวง ท่าทางทุกข์และกังวลใจของสายทำให้ตะวันผิดสังเกต สายอ้างว่าไม่อยากไปที่คลองบางหลวงเพราะ อินตา พ่อของตะวันเคยก่อเรื่องไว้ ตะวันอยากรู้รายละเอียดแต่สายไม่ยอมเล่าให้ฟัง

หลอ กับ แรม เด็กวัยรุ่นจอมเกเรที่ชอบหาเรื่องตะวันกับเอี้ยงเป็นประจำล้อตะวันว่า อินตาติดคุกเพราะฆ่าคนตายไม่ได้หายไปอย่างที่ตะวันเข้าใจ ตะวันโกรธไม่ยอมให้ใครดูหมิ่นพ่อแท้ๆ ของตนจึงทำร้ายหลอด้วยไม้พายจนหลอต้องยอมแพ้

ตะวันทนเก็บความสงสัยเรื่องพ่อไม่ได้จึงถามความจริงจากสาย สายยังคงยืนยันว่าอินตาไม่ได้ติดคุกแค่หายไปเฉยๆ แต่พอตะวันหลับไปแล้วสายกลับเศร้าเสียใจคิดถึงเรื่องราวในอดีต ความจริงที่อินตาต้องติดคุกโทษฐานฆ่าคนตายเพราะถูก ผัน ลูกกำนันโกง อินตาขอให้สายปิดบังตะวันไม่ให้รู้เรื่องติดคุกทำให้สายต้องพรากจากอินตาและ ตัดสินใจผิดมาอยู่กับคร้าวสามีขี้เหล้าและนักพนันตัวยง

คร้าวมาขอตะวันไปขายให้เพื่อน แต่สายไม่ยอมทำให้คร้าวโกรธเล่าเรื่องอินตาถูกคนคุกแทงตายให้ฟัง สายตกใจแทบช็อก ตะวันตื่นขึ้นมาได้ยินแต่ไม่สนใจเพราะมั่นใจว่าคำพูดของคร้าวเชื่อถือไม่ได้

เมื่อต้องบรรทุกรำไปส่งที่คลองบางหลวง ตะวันตื่นเต้นอยากรู้เรื่องราวของที่นี่มากแต่สายอิดออดไม่ยอมพูดถึงเหมือน คลองบางหลวงเป็นอดีตที่อยากลืม

เรือของตะวันกับเอี้ยงจอดรอส่งรำอยู่ตรงท่าน้ำใกล้ๆ กับเรือนแพและคฤหาสน์หลังหนึ่งซึ่งเป็นที่ห้ามจอดเรือทำให้ตะวันมีเรื่องกับ นเรนทร์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ท่านต้น เจ้าของคฤหาสน์เดชาบดินทร์จนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน พริ้มเพรา ผู้มีศักดิ์เป็นป้าของนเรนทร์ไม่พอใจ จะเอาเรื่องตะวันแต่ ศักดิ์รพี หรือคุณเล็กเข้ามาห้ามเพราะรู้ว่านเรนทร์ทำร้ายตะวันก่อน

ศักดิ์ระพีนึกชื่นชมในคำพูดฉะฉานของตะวันและแปลกใจที่ตะวันดูไม่เหมือนชาว เรือทั่วไป สายเข้ามาขอโทษศักดิ์ระพีกับพริ้มเพราแล้วรีบพาตะวันลงเรือกลับ พริ้มเพราแอบไปถามซ้อน ว่าใช่สายรึเปล่าพลางนึกภาวนาขอให้เป็นคนอื่นเพราะไม่อยากให้ความลับ บางอย่างในอดีตต้องถูกเปิดเผย

คุณใหญ่ ภรรยาหลวงของท่านต้นผู้เป็นพี่สาวของศักดิ์รพีตามมาถึงท่าน้ำต้องตกใจเมื่อได้เจอตะวันและเผลอทักตะวันว่า ดวงพร

คุณใหญ่เล่าให้ท่านต้นฟังว่าได้เจอกับตะวันเด็กหญิงผู้มีใบหน้าละม้ายคล้าย ดวงพร ยิ่งเห็นตะวันทำให้คุณใหญ่หวนคิดถึงดวงพรอีกครั้ง ท่านต้นค้านว่าดวงพรตายไป 12 ปีแล้วไม่มีทางที่ตะวันจะเหมือนดวงพรได้เลย

ท่านต้นและคุณใหญ่นึกย้อนไป 12 ปีก่อน วันที่คุณใหญ่รับอุปการะพริ้มเพรากับดวงพรลูกสาวของ สอิ้ง เพื่อนคุณใหญ่ ความน่ารักพูดจาฉะฉานและจิตใจดีของดวงพรทำให้ท่านต้นและคุณใหญ่รักและเอ็นดู ผิดกับพริ้มเพราพี่สาวผู้มีนิสัยเห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ขี้อิจฉาริษยาน้องสาว มักสร้างความรำคาญและเบื่อหน่ายให้กับท่านต้นและคุณใหญ่เสมอ

ความน่ารักและจิตใจดีของดวงพรสร้างความถูกใจจนท่านต้นถึงกับออกปากขอดวงพร เป็นภรรยาน้อยคนที่สามกับคุณใหญ่ คุณใหญ่เข้าใจและเต็มใจยกดวงพรให้ท่านต้นเพียงขอให้ท่านต้นยกย่องดวงพรและ ดูแลมากกว่าภรรยาน้อยคนอื่น

เมื่อดวงพรกลายเป็นภรรยาของท่านต้น คุณใหญ่จึงยกเรือนแพริมน้ำให้ดวงพรในฐานะคุณน้อยของคฤหาสน์เดชาบดินทร์ พริ้มเพราอิจฉาดวงพรหาทางทอดสะพานให้ท่านต้นบ้าง แต่ท่านต้นไม่สนใจเพราะไม่เคยนึกชอบพริ้มเพราเลยสักครั้ง

เมื่อดวงพรเริ่มตั้งท้องพริ้มเพราเฝ้าภาวนาให้ดวงพรได้ลูกชายเพราะหวังจะได้ เป็นป้าของทายาทเพียงคนเดียวในคฤหาสน์เดชาบดินทร์ เนื่องจากท่านต้นมีแต่ลูกสาวไม่เคยมีลูกชายไว้สืบสกุลเลยสักคน

คืนที่ดวงพรเจ็บท้องคลอดท่านต้นออกไปธุระต่างจังหวัด คุณใหญ่ไปค้างบ้านสวนมีเพียงพริ้มเพราคอยจัดแจงเรียกคนไปตาม ละม่อม หมอตำแยมาทำคลอดให้ดวงพร ขณะเดียวกันนั้น อินตาก็พาเรือกระแชงมาจอดท่าเรือนแพ เพื่อขอร้องพริ้มเพราให้ละม่อมช่วยทำคลอดให้สายเมียของเขาเช่นกัน

ดวงพรคลอดลูกยาก ละม่อมจึงต้องไปทำคลอดให้สายก่อน สายคลอดลูกชายผิวดำคล้ำเหมือนเธอกับอินตา ระหว่างที่ละม่อมกำลังจะอาบน้ำให้เด็กชายพริ้มเพราผลุนผลันเข้ามาตามละม่อม ให้ไปทำคลอดดวงพรทำให้เด็กชายพลัดหล่นหัวฟาดอ่างโชคดีที่อินตารับไว้ได้ทำ ให้เด็กชายมีบาดแผลที่ใบหน้าเล็กน้อย

ดวงพรได้ลูกผู้หญิงสร้างความผิดหวังให้กับพริ้มเพรามากเพราะเท่ากับมรดก ทุกอย่างของท่านต้นกำลังหลุดลอยไป เมื่อพริ้มเพราเห็นว่าดวงพรเพลียและเลือดออกมากหลังจากคลอดมีสิทธิ์ที่จะไม่ รอดจึงรีบเอาเด็กหญิงมาให้ดวงพรดูผ่านๆ แล้วหลอกใช้ซ้อนซึ่งหลงรักเธอมานาน เป็นเครื่องมือช่วยเอาเงินปิดปากละม่อมบอกทุกคนว่าดวงพรคลอดลูกชายขอสลับตัว ลูกสาวของดวงพรกับลูกชายของสาย ทั้งอินตาและสายยินยอมเพราะอยากได้ลูกสาวอยู่แล้ว

เมื่อคุณใหญ่ทราบข่าวการคลอดลูกของดวงพรจึงรีบกลับมาด้วยความเป็นห่วง อาการดวงพรทรุดหนักเพราะตกเลือดมากขอดูหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้าย พริ้มเพราพาเด็กชายมาให้ดู แต่ดวงพรกลับตกใจเมื่อพริ้มเพราพาเด็กชายออกไป ดวงพรคอยย้ำกับคุณใหญ่ว่าลูกของเธอมีปานแดงรูปหัวใจเหนือหน้าอกด้านซ้ายจาก นั้นจึงสิ้นลม

คุณใหญ่กับท่านต้นเศร้าเสียใจกับการจากไปของดวงพรจนลืมเรื่องที่ดวงพรสั่ง เสีย เด็กชายถูกมอบให้อยู่ในความดูแลของพริ้มเพรา และเมื่อทุกคนในคฤหาสน์เดชาบดินทร์เข้าใจว่าเด็กชายนเรนทร์คือทายาทที่แท้ จริงของท่านต้น คุณใหญ่จึงตัดสินใจทำพินัยกรรมมอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับลูกชายของดวงพร

ซ้อนไปตามหาสายที่เรือแต่สายหลบหน้าทำให้ตะวันสงสัย สายอ้างว่าซ้อนอาจมาเอาเรื่องที่ตะวันทำร้ายนเรนทร์ ตะวันเชื่อสนิททำให้สายโล่งอก

นเรนทร์มาขอเงินพริ้มเพราออกไปเที่ยวงานวัดประยูรกับกลุ่มเพื่อนจอมเกเร พริ้มเพราไม่ค่อยอยากให้ไปเพราะรู้ว่าท่านต้นฟังเทศน์อยู่ที่นั่นแต่สุดท้าย ก็ยอม ซ้อนออกปากเตือนพริ้มเพรา ไม่ให้ตามใจนเรนทร์จนเสียคนกลัวจะพาลเสียชื่อมาถึงท่านต้น พริ้มเพราไม่สนและตกใจเมื่อรู้ว่าซ้อนไปตามหาสาย ซ้อนบอกว่ารู้สึกผิดที่สลับเปลี่ยนตัวเด็กเมื่อสิบสองปีก่อนอยากบอกความจริง กับท่านต้น แต่พริ้มเพราเกลี้ยกล่อมจนซ้อนใจอ่อน พริ้มเพราจึงคิดจัดการซ้อนภายหลัง

สายไข้ขึ้นสูงจนตะวันเป็นห่วง ตะวันกับเอี้ยงไปซื้อยาให้สายแถววัดประยูร ระหว่างเดินผ่านงานวัด ตะวันกับเอี้ยงเจอนเรนทร์กับเพื่อนจอมเกเรหลายคน นเรนทร์จ้างเพื่อนรุมเล่นงานตะวัน แต่ตะวันกับเอี้ยงกระโดดน้ำหนีไปได้

หลังจากสายอาการดีขึ้นจึงขึ้นท่าไปหาหมอที่โรงพยาบาล ตะวันต้องอยู่เฝ้าเรือกับเอี้ยงที่ท่าน้ำวัดกัลยาเจอนเรนทร์พาท่านต้นขับ เรือยนต์เล่นบริเวณนั้น นเรนทร์ประมาทจนเรือพลิกคว่ำ ท่านต้นตกน้ำใกล้จมเพราะไม่มีแรง ตะวันกับเอี้ยงจึงตัดสินใจกระโดดลงไปช่วยขึ้นมาบนเรือ ส่วนนเรนทร์ไม่เป็นอะไรเกาะแพเรือลอยน้ำไปอย่างปลอดภัย

แว่นตาของท่านต้นหายไปทำให้มองเห็นตะวันได้ไม่ชัด แต่ฟังน้ำเสียงช่างเจรจา กล้าพูดของตะวันทำให้ท่านต้นนึกถูกใจเด็กหญิงตะวันอย่างแปลกประหลาดพาลให้ นึกถึงดวงพรอีกครั้ง ท่านต้นอยากเห็นหน้าตะวันชัดๆ จึงขอให้ตะวันไปหาที่คฤหาสน์อีกวัน แต่ตะวันไม่กล้าไปเพราะสายกำชับไม่ให้เข้าไปคลองบางหลวงอีกท่านต้นจึงบอกว่า จะกลับมาหาตะวันด้วยตัวเอง

ท่านต้นกลับมาคฤหาสน์สั่งรื้อป้ายห้ามจอดเรือทุกอันออกเพราะซาบซึ้งน้ำใจจาก ชาวเรือของเด็กหญิงตะวันทำให้เขาตาสว่างเลิกแบ่งชั้นกับคนอื่นอีกต่อไป พริ้มเพราใส่ร้ายซ้อนว่าขโมยสร้อยเพชรของคุณใหญ่ ท่านต้นโกรธมากไล่ซ้อนออกจากบ้าน

คร้าวบังคับเอาเงินและทำร้ายตะวัน สายเข้ามาช่วยจึงแทงคร้าวตายคาเรือจากนั้นจึงเอาจดหมายกับเงินก้อนหนึ่งให้ ตะวันหนีไปหาพริ้มกับซ้อนที่เรือนแพในคลองบางหลวง เอี้ยงขอติดตามตะวันไปด้วยเพราะไม่อยากอยู่กับพ่อเลี้ยงใจร้าย ส่วนสายรอมอบตัวกับตำรวจอยู่ที่เรือ

ท่านต้นป่วยหนักตรอมใจที่ตามหาตะวันไม่เจอ ซ้อนเข้ามาขอเยี่ยมท่านต้น พริ้มเพราขัดขวางกลัวซ้อนเอาเรื่องในอดีตมาเปิดเผย คุณใหญ่อนุญาตให้ซ้อนพบท่านต้น พริ้มเพราจึงขัดไม่ได้

ซ้อนบอกความจริงกับท่านต้นต่อหน้าศักดิ์รพีและคุณใหญ่ว่าตะวันคือลูกของดวง พร ท่านต้นดีใจมาก แต่อาการก็ทรุดลงเรื่อยๆ ก่อนสิ้นลมท่านต้นทำพินัยกรรมฉบับใหม่ขึ้นมาสั่งเสียให้คุณใหญ่พาตะวันกลับ มาอยู่บ้านให้ได้ซึ่งคนที่รู้เรื่องพินัยกรรมมีเพียงศักดิ์รพีกับคุณใหญ่ เท่านั้น

ระหว่างเดินทางมาคลองหลวง ตะวันกับเอี้ยงถูกล้วงกระเป๋าจนไม่มีเงินติดตัว จดหมายของสายก็หายไป ทั้งสองต้องระหกระเหินเร่ร่อนมาถึงท่าน้ำเรือนแพแต่เห็นผู้คนวุ่นวายกับงาน ศพของท่านต้นจึงไม่กล้าเข้าไป

นเรนทร์ขับเรือยนต์เล่นกับเชิดเพื่อนสนิทเห็นตะวันจึงตั้งใจขับเรือชนแต่ เอี้ยงเอาหนังสติ๊กยิงใส่เบ้าตานเรนทร์ทำให้เรือนเรนทร์ชนเข้ากับเรือโยง ตะวันกับเอี้ยงกลัวความผิดจึงรีบหนีไป คุณใหญ่ต่อว่านเรนทร์เรื่องขับเรือไปชนแต่พอรู้เรื่องจากเชิดว่าคนที่มี เรื่องด้วยคือตะวัน ก็ตกใจมากรีบให้ซ้อนไปตามหาตัวมา

โชคชะตาทำให้ตะวันกับเอี้ยงมาขออาศัยอยู่ในตึกของศักดิ์รพี ตะวันแอบได้ยินคุณใหญ่และศักดิ์รพีคุยกันว่าต้องการตัวเด็กตะวันทำให้ตะวัน กลัวความผิดคิดว่าคุณใหญ่จะเอาเรื่องที่ทำร้ายนเรนทร์จึงพาเอี้ยงหนีไป

ตะวันคลาดกันกับศักดิ์รพีและคุณใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่าจนหนีมาอยู่วัดมงกุฎ กษัตริย์ฯ เจอศาลาตั้งศพของท่านต้น เหมือนมีบางอย่างดลใจให้ตะวันเข้าไปเคารพศพท่านต้นและรู้สึกหดหู่ เมื่อท่านต้นจากไปแล้ว คุณใหญ่เจอตะวันอีกครั้งบอกให้ซ้อนพาตัวตะวันมาหา ตะวันกลัวความผิด จึงพาเอี้ยงรีบหนีไป

พริ้มเพราถามเรื่องพินัยกรรมจากคุณใหญ่ทำให้รู้ว่าพินัยกรรมถูกเขียนขึ้น ใหม่อีกหนึ่งฉบับและจะถูกเปิดเผยเมื่อนเรนทร์อายุ 21 ปี ละม่อมเดือดร้อนหนักมาขอเงินพริ้มเพราเพิ่ม พริ้มเพรารับปากว่าจะหาให้เพราะกลัวละม่อมเปิดโปงความจริง

ตะวันตัดสินใจตัดผมสั้นปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชายเพื่อไม่ให้คนจำได้ ส่วนเอี้ยงยอมโกนหัวจนเกลี้ยงเพื่อปลอมตัวเช่นกัน

โชคชะตาเล่นตลกอีกครั้งเมื่อศักดิ์รพีเกือบขับรถชนตะวัน ตะวันตกใจจนเป็นลม ศักดิ์รพีจำเด็กทั้งสองไม่ได้แต่รู้ว่าตะวันเป็นเด็กผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย เขาพาตะวันกับเอี้ยงไปอยู่บ้าน หลังจากฟื้น ตะวันหลอกศักดิ์รพีว่าชื่อ ยอแสง เป็นพี่น้องกับเอี้ยงหนีออกจากบ้านเพราะถูกพ่อเลี้ยงทารุณ ศักดิ์รพีสงสารจึงรับอุปการะทั้งสองและหวังส่งเสียให้เรียนสูงๆ

พร้อมมิตร ลูกสาวภรรยาน้อยอีกคนของท่านต้นซึ่งแอบหลงรักศักดิ์รพีมานานมาหาชายหนุ่มที่ บ้านจนมีเรื่องกับตะวันและเอี้ยง ศักดิ์รพีเข้ามาห้ามโกหกพร้อมมิตรว่าเด็กทั้งสองเป็นญาติมาจากต่างจังหวัด แต่พร้อมมิตรไม่เชื่อและพูดดูถูกว่าสักวันศักดิ์รพีจะต้องเลี้ยงต้อยยอแสง เหมือนที่ท่านต้นเคยทำกับดวงพร

ศักดิ์ระพีพายอแสงกับเอี้ยงซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น นพดล ไปเข้าโรงเรียนประจำเดียวกับนเรนทร์ เอี้ยงและยอแสงจึงรู้จักกับ ธาดา นักเรียนรุ่นพี่ที่เป็นทั้งนักกีฬาและนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน หลายครั้งที่มีเรื่องกับนเรนทร์ ธาดาจะคอยเข้ามาช่วยและรับผิดแทนทุกครั้งทำให้ยอแสงกับเอี้ยงซาบซึ้งน้ำใจจน สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว

ซ้อนพานายแก่นชาวเรือกระแชงมาเล่าประวัติของสายทำให้รู้ว่าสายถูกจับไปติด คุกที่เมืองนนท์ ศักดิ์รพีมีเพื่อนเป็นร้อยตำรวจเอกอยู่ที่นั่นจึงพาคุณใหญ่ไปขอพบสายเพื่อ สืบถามความจริงเกี่ยวกับตะวันทำให้รู้ว่าสายเป็นบ้าถูกส่งตัวไปอยู่โรง พยาบาลโรคจิตเหลือไว้แต่เรือกระแชงผูกทิ้งไว้ท้ายสถานีตำรวจ

คุณใหญ่แอบเข้าไปหาหลักฐานในเรือของสายเจอรูปถ่ายของตะวันตอนแรกเกิดมีปาน แดงรูปหัวใจเหนืออกด้านซ้ายเหมือนคำพูดก่อนตายของดวงพร สายแอบหนีจากโรงพยาบาลมาอยู่ในเรือเจอคุณใหญ่คิดว่าเป็นลูกจึงพร่ำพูดบอก ความจริงว่าสลับเอาลูกของท่านต้นมา คุณใหญ่ยิ่งมั่นใจว่าเด็กตะวันคือลูกของท่านต้นจริงๆ

พร้อมมิตรมาขอยืมรถศักดิ์รพีไปเที่ยวกับเพื่อน แกล้งใช้ให้ยอแสงขัดรองเท้าให้ ยอแสงกับเอี้ยงจึงเอาคืนด้วยการใช้แปรงลวดขัดรองเท้าพัง พร้อมมิตรโกรธมากตบหน้าตะวัน ศักดิ์รพีต่อว่าพร้อมมิตรจนงอนกลับไปแล้วสั่งสอนยอแสงให้รู้จักผู้ใหญ่

คุณใหญ่มาหาศักดิ์รพีเรื่องทำบุญครบ 65 วัน ตามอายุของท่านต้นที่เสียไป เจอยอแสงจำได้ว่าเป็นตะวัน แต่ยอแสงกับเอี้ยงไม่ยอมรับคอยให้ข้อมูลปกปิด คุณใหญ่จึงไม่คาดคั้นเพราะมั่นใจว่าสักวันความจริงต้องเปิดเผย

พร้อมมิตรกับ จิตรใส ลูกอนุภรรยาอีกคนของท่านต้นย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์เพื่อหวังใกล้ชิดกับเงิน มรดก พร้อมมิตรมักใช้นเรนทร์สารพัดสร้างความไม่พอใจให้กับพริ้มเพรา ป้าผู้พิทักษ์หลานจนมีปากเสียงกับพร้อมมิตรบ่อยครั้ง

ละม่อมมาหาพริ้มเพราอีกครั้งเพื่อขอเงินไปรักษาลูก พริ้มเพราขโมยเงินของคุณใหญ่มาให้และขู่ละม่อมว่าหากบอกความจริงกับใคร ละม่อมจะต้องติดคุก ละม่อมกลัวพอคุณใหญ่เรียกเข้าไปถามถึงเรื่องลูกของดวงพรละม่อมจึงโกหก คุณใหญ่ไม่เชื่อแต่ออกปากกับละม่อมว่าจะรอฟังความจริงจากละม่อมเอง

ซ้อนต่อว่าพริ้มเพราเพราะรู้ว่าพริ้มเพราขโมยเงินคุณใหญ่ พริ้มเพราจึงยั่วยวนจนซ้อนใจอ่อนยอมให้พริ้มเพราสนตะพายตัวเองอีกครั้ง

ตะวันหรือยอแสง เอารูปที่ไปขอแม่ค้ามาถ่ายด้วยให้ศักดิ์รพีดูทำให้ศักดิ์รพีเชื่อว่ายอแสง กับ เอี้ยงเป็นพี่น้องกันและเป็นลูกของคนในรูปจนไม่ติดใจเรื่องยอแสงเหมือนกับ เด็กตะวัน

ศักดิ์รพีจะพายอแสงกับเอี้ยง ไปร่วมทำบุญครบ 65 วันที่บ้านคุณใหญ่ ยอแสงไม่อยากไปแต่ธาดาบอกให้ยอแสงกล้าและเผชิญกับความจริง เมื่อไปถึงคฤหาสน์เรือนแพ ยอแสงกับเอี้ยงถูกหลายคนในนั้นดูถูกถากถางตามคาด เมื่อเจอพริ้มเพรากับซ้อนทำให้ยอแสงนึกถึงคำสั่งเสียของสายแต่ก็ไม่กล้าเปิด เผยเพราะไม่ไว้ใจคนทั้งคู่

จิตรใสแกล้งขัดขาตะวันจนจานกระเบื้องแตก ตะวันยอมรับผิดคนเดียวเพราะอยากให้ทุกคนที่เรือนแพเกลียดจะได้ไม่ต้องมาที่ นี่อีก ศักดิ์รพีโกรธและตียอแสงเพราะไม่อยากให้ยอแสงรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ

ยอแสงเสียใจที่ทำให้ศักดิ์รพีโกรธจึงชวนเอี้ยงหนีออกจากบ้านเร่ร่อนไปถึง อยุธยาอย่างไร้จุดหมาย ศักดิ์รพีตามหายอแสงจนเจอแล้วพาตัวกลับ ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันทำให้ยอแสงรู้ว่าศักดิ์รพีเป็นห่วงตัวเองมากแค่ไหน จึงออกปากเรียกศักดิ์รพีอย่างสนิทสนมว่าอาเล็ก เหมือนเช่นหลานคนอื่นๆ เรียกกัน

ศักดิ์รพีออกไปเที่ยวกับพร้อมมิตรใช้ให้ยอแสงกับเอี้ยงอยู่เฝ้าบ้าน อินตากับ ไอ้โหด แหกคุกหนีมาหลบอยู่บ้านศักดิ์รพีหวังจับตัวยอแสงเป็นตัวประกันและจะฆ่าทิ้ง ภายหลัง ยอแสงเห็นอินตาไม่ถนัดนักเพราะถูกจับในความมืด อินตารู้ว่ายอแสงคือตะวันจึงคัดค้านไม่ให้ไอ้โหดเอาตัวตะวันไป ไอ้โหดไม่ยอมอินตาจำต้องฆ่าไอ้โหดเพื่อปกป้องยอแสงหรือตะวันลูกสาวของเขา

ศักดิ์รพีขอบคุณอินตาที่ช่วยยอแสง อินตาหลอกว่าชื่ออินแต่ไม่ยอมบอกความจริงอะไรเพราะอยากให้ยอแสงได้อยู่อย่าง สบาย ศักดิ์รพีสัญญาว่าหากอินตาพ้นโทษกลับมาอีกครั้งเขายินดีช่วยเหลืออินตา ทุกอย่าง

ยอแสงเคยดูแลคุณใหญ่เมื่อครั้งมาหาศักดิ์รพีแล้วเกิดหน้ามืด พอยอแสงไม่สบายคุณใหญ่จึงมาอยู่ดูแลยอแสงบ้างทำให้ยอแสงซาบซึ้งในความกรุณา และความอบอุ่นที่คุณใหญ่มีให้

ศักดิ์รพีจะไปเรียนต่อเมืองนอกจึงฝากฝังยอแสงกับเอี้ยงไว้กับคุณใหญ่ คุณใหญ่เต็มใจรับฝากเพราะอยากได้ยอแสงมาอยู่ด้วย แต่ยอแสงไม่อยากไปเพราะรู้ดีว่ามีใครอีกหลายคนในคฤหาสน์เรือนแพต้องไม่พอใจ ยอแสงน้อยใจศักดิ์รพีว่าจะทิ้งเธอไป ศักดิ์รพีจึงปรับความเข้าใจกับยอแสง คุณใหญ่ก็คอยเกลี้ยกล่อมจนยอแสงใจอ่อนยอมย้ายเข้าไปอยู่กับคุณใหญ่แต่โดยดี

นายแก่น มาขอพบคุณใหญ่อีกครั้ง เขาเล่าเรื่องนางสายที่เสียสติพายเรือเรียกหาตะวันจนเรือชนคอนกรีต สายตกน้ำจมหายไปไม่รู้ชะตากรรม

วันเดินทางของศักดิ์รพี ยอแสงไม่กล้าเจอหน้าศักดิ์รพีเพราะกลัวจะทำใจไม่ได้ พร้อมมิตรร้องไห้และสารภาพความในใจกับศักดิ์รพีวันนั้นว่าเธอรักเขามานาน แล้ว ศักดิ์รพีได้แต่นิ่งเงียบแบ่งรับแบ่งสู้ก่อนออกเดินทาง

เมื่อเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์เรือนแพ ยอแสงกับเอี้ยงถูกนเรนทร์ พร้อมมิตร จิตรใส กลั่นแกล้งสารพัด โดยมีพริ้มเพราเป็นคนให้ท้ายแต่ทั้งคู่ก็พยายามอดทนเพราะเห็นแก่ความดีของ คุณใหญ่ ยิ่งนานวันคฤหาสน์เรือนแพก็มีแต่เรื่องวุ่นวาย ทะเลาะเบาะแว้ง โดยมีพริ้มเพราเป็นคนอยู่เบื้องหลังทั้งหมด

หกปีผ่านไป เด็กทุกคนในเรือนแพเริ่มโตเป็นหนุ่มเป็นสาว พร้อมมิตรได้ทำงานในบริษัทใหญ่โตมีชื่อ จิตรใสและนเรนทร์ยังคงเรียนซ้ำชั้นอยู่ระดับมัธยม เอี้ยงหรือนพดลสอบเข้านายร้อยตำรวจได้ ส่วนตะวันเรียนอักษรศาสตร์หวังจบมาเป็นอาจารย์สอนหนังสือเหมือนอาจารย์ละออ ที่เคยอบรมสั่งสอนเธอ

ศักดิ์รพีส่งชุดนอนสีชมพูกับจดหมายเป็นของขวัญให้ยอแสง ส่วนคุณใหญ่มอบห้องนอนของดวงพรที่คุณใหญ่แสนหวงให้ยอแสงเป็นรางวัลสร้างความ อิจฉาริษยาให้กับคนในคฤหาสน์เป็นอย่างมาก จนพร้อมมิตรแอบเอามีดกรีดชุดนอนของยอแสงทิ้งและขโมยจดหมายของศักดิ์รพีไป ทำลาย

นพดลมาเยี่ยมคุณใหญ่ที่เรือนแพและออกไปพายเรือเล่นกับยอแสง ยอแสงคิดจะบอกความจริงกับคุณใหญ่เรื่องตัวเองคือเด็กตะวันแต่นพดลห้ามไว้ อยากรอให้เขาเรียนจบนายร้อยเสียก่อน

ในงานเลี้ยงวันเกิดพร้อมมิตร ยอแสงเอาชุดนอนที่ถูกกรีดมอบให้พร้อมมิตรเป็นของขวัญ พร้อมมิตรโกรธมากแต่ก็เก็บชุดนอนไว้เพื่อหาทางเอาคืนยอแสง นพดลออกไปส่งเพื่อน ๆ ของพร้อมมิตรถูกนเรนทร์พาเพื่อนมารุมทำร้าย อินตาเพิ่งพ้นโทษออกมาช่วยเหลือเอี้ยง แล้วจากไปโดยที่เอี้ยงยังไม่ทันได้ถามชื่อ

ยอแสงกับเพื่อนรักชื่อ ใจบุญ ไปเดินซื้อของด้วยกันเจอกับนพดลและธาดาโดยบังเอิญ ทั้งสี่นั่งพูดคุยกันจนรู้ว่าธาดาใกล้จะเรียนจบแพทย์แล้ว นพดลแอบชอบใจบุญแต่แรกเห็นออกตัวขอไปส่งใจบุญ ธาดาจึงได้โอกาสไปส่งยอแสงกลับบ้าน เขาพูดความรู้สึกในใจเป็นนัยกับยอแสง แต่ยอแสงไม่ได้สนใจ

จิตรใสยุคุณใหญ่ว่ายอแสงไปเที่ยวกับผู้ชาย ตอนแรกคุณใหญ่โกรธยอแสงแต่พอรู้ความจริงจึงทำโทษจิตรใส คุณใหญ่พูดเป็นนัยกับยอแสงขอให้อย่าเพิ่งรักใครเพราะยอแสงอาจเจอใครอีกคนที่ ดีกว่าธาดา

ศักดิ์รพีเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ยอแสงติดสอบหวังจะตามไปงานเลี้ยงต้อนรับตอนกลางคืน แต่สุดท้ายยอแสงก็ไม่เข้าไปเพราะไม่อยากทำให้ใครหลายคนไม่พอใจ ขากลับยอแสงเจออินตามาหาศักดิ์รพีแต่ไม่กล้าเข้าไปในงานเช่นกัน ทั้งคู่จึงตัดสินใจกลับ สภาพคนจรจัดของอินตาทำให้ยอแสงจำไม่ได้แม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่ายอแสงถูกเลี้ยงดูอย่างดี อินตาจึงไม่ยอมเปิดเผยตัวเองให้ยอแสงรู้

ศักดิ์รพีน้อยใจเรื่องยอแสงไม่ยอมมาหาทั้งที่ยอแสงคือคนที่เขาอยากเจอมากที่ สุด คุณใหญ่เป็นคนไกล่เกลี่ยให้ศักดิ์รพีกับยอแสงปรับความเข้าใจกัน เมื่อพบกันอีกครั้งศักดิ์รพีถึงกับตะลึงในความสวยน่ารักของยอแสง เขามอบของขวัญเป็นนาฬิกาเรือนทองให้ยอแสงแต่น้ำเสียงและท่าทางกลับดูเหิน ห่างออกไป ยิ่งเห็นยอแสงสนิทสนมกับธาดายิ่งทำให้เขาไม่พอใจ ทำตัวเย็นชาใส่ ยอแสงมากขึ้น ยอแสงทั้งงอนทั้งน้อยใจไม่รู้ว่าศักดิ์รพีเป็นอะไรกันแน่

พิสัย กับก๊วนเพื่อนมาเยี่ยมบ้านศักดิ์รพีถูกใจในความสวยของยอแสงจึงเอ่ยปากขอยอ แสงกับศักดิ์รพี ศักดิ์รพีไม่พอใจรู้ว่าพิสัยเป็นคนเจ้าชู้ ควงสาวไม่ซ้ำหน้าจึงคัดค้านเต็มที่ พิสัยก็ไม่ลดละพาพ่อไปขอหมั้นยอแสงถึงคฤหาสน์เรือนแพ คุณใหญ่เล่าเรื่องพิสัยมาขอหมั้นให้ยอแสงฟัง ยอแสงปฏิเสธขอให้คุณใหญ่ช่วยบอกปัดแทน

คุณใหญ่เรียกทนายมาทำพินัยกรรมของตัวเอง พริ้มเพรากับนเรนทร์แอบฟังทำให้รู้ว่าคุณใหญ่คิดยกสมบัติส่วนตัวทั้งหมดให้ ยอแสง นเรนทร์โกรธคิดกำจัดยอแสงจึงจ้างโตฉุดยอแสงไปข่มขืนโชคดีอินตามาช่วยไว้ทัน โตหนีรอดไปได้ ยอแสงรู้ดีว่านเรนทร์กับพริ้มเพราเป็นคนวางแผนทำร้ายตนแต่ไม่อยากเอาเรื่อง จึงทำเป็นพูดกระทบให้ทั้งสองรู้สึกตัวและสำนึก

นเรนทร์ลาออกจากโรงเรียนเพราะมีเรื่องจนชกหน้าครู เขาขอร้องให้ศักดิ์รพีฝากฝังงานให้ทั้งที่ตัวเขายังเรียนไม่จบ ศักดิ์รพีฝากฝังให้นเรนทร์ทำงานกับบริษัทเพื่อนที่เดียวกับที่ฝากฝังอินตา ให้ทำงานเป็นภารโรงอยู่โรงเรียน เข้าทำงานวันแรกนเรนทร์จัดงานเลี้ยงต้อนรับให้ตัวเองจนเมามาย เอะอะ อินตาเข้าไปห้ามจึงถูกนเรนทร์เตะ อินตายกมือไหว้ขอโทษนเรนทร์ แล้วซมซานกลับบ้านนอนร้องไห้ที่ต้องยกมือไหว้ลูกตัวเอง

ศักดิ์รพีอ่านพินัยกรรมแล้วไม่เห็นด้วย เพราะคุณใหญ่ตั้งใจเขียนพินัยกรรมให้ยอแสงอยู่ในความดูแลของศักดิ์รพีตลอดไป ไม่ว่าจะแต่งงานกับเขาหรือแต่งกับคนอื่นก็ตาม คุณใหญ่ยืนยันในสติสัมปชัญญะของตัวเองว่าทำไปเพราะต้องการแบบนั้นจริง

พร้อมมิตรคอยใกล้ชิดศักดิ์รพีแต่ชายหนุ่มไม่สนใจ พร้อมมิตรจึงออกปากห้ามศักดิ์รพียุ่งกับยอแสงไม่งั้นจะทำร้ายยอแสงยิ่งทำให้ ศักดิ์รพีไม่พอใจพร้อมมิตรมากขึ้น

ธาดาบอกรักยอแสง แต่ยอแสงปฏิเสธเป็นนัยทำให้ธาดาทึกทักเอาเองว่ายอแสงรักเขา

นเรนทร์เมาจนถูกโจร 2 คน ปล้น อินตาเข้ามาช่วยนเรนทร์จึงพาอินตามาฝากตัวกับคุณใหญ่เพราะเห็นว่าอินตาไม่มีบ้านอยู่

ยอแสงกับศักดิ์รพีมักไม่เข้าใจกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งยอแสงเองก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร พร้อมมิตรมีปากเสียงกับยอแสงเพราะความหึงหวงศักดิ์รพี แต่แท้จริงแล้วพร้อมมิตรรักศักดิ์รพีที่ทรัพย์สินมากกว่า

ยอแสงคิดไม่ตกเรื่องศักดิ์รพี ไม่เข้าใจหัวใจตัวเอง ระหว่างเดินเล่นริมน้ำเจอจิตรใสออกไปกับ ภิรมย์ เพื่อนชายคนสนิทของจิตรใสทำให้รู้ว่าจิตรใสกำลังถูกภิรมย์หลอก หญิงสาวหาทางช่วยจิตรใสแต่ก็คิดไม่ออกว่าจะทำยังไง

พิสัยคอยวนมาหายอแสงสร้างความรำคาญให้ยอแสงมาก ศักดิ์รพีบอกให้ยอแสงเลิกคบกับธาดาโดยให้เหตุผลว่าธาดาจะทำให้ยอแสงตกต่ำ เพราะบ้านกำลังจะถูกยึดอาจเรียนไม่จบ ยอแสงขอให้ศักดิ์รพีช่วยธาดาแต่เขาปฏิเสธ ยอแสงเสียใจที่ศักดิ์รพีกลายเป็นคนแล้งน้ำใจไปแล้ว

จิตรใสไปเจอภิรมย์ตามนัดแต่ความจริงเธอถูกหลอกมาปล้ำ ยอแสงแอบตามมาจึงเข้าไปช่วย แต่จิตรใสกลัวเรื่องถึงหูคุณใหญ่จึงให้ภิรมย์กับเพื่อนปลุกปล้ำยอแสงแทน อินตาแอบตามมาช่วยเหลือยอแสงไว้ได้

คุณใหญ่คาดคั้นถามความจริงจากยอแสงเรื่องที่หายไปทั้งคืน ยอแสงไม่ยอมบอกเพราะกลัวจิตรใสเดือดร้อนทำให้คุณใหญ่ยิ่งเข้าใจผิดคิดว่ายอ แสงแอบไปอยู่กับผู้ชายจริง อินตาพาคุณใหญ่ไปเจอภิรมย์ให้สารภาพเรื่องทั้งหมด เมื่อรู้ความจริงคุณใหญ่จึงยิ่งรักยอแสงมากขึ้น

ศักดิ์รพีเอาโฉนดที่ดินมายกให้ ธำรง พ่อของธาดาโดยมีข้อแม้ว่าธาดาต้องเลิกยุ่งเกี่ยวกับยอแสง ธำรงดูออกว่าศักดิ์รพีรักยอแสงและโกรธที่โดนดูถูกแนะนำให้ศักดิ์รพีใช้วิธี อื่น ส่วนเขาจะไม่ยอมให้ธาดาขวางทางเจริญของยอแสงเช่นกัน

ชัยยุทธ เพื่อนของนเรนทร์มาติดพันพริ้มเพราเพราะคิดว่ามรดกที่เป็นของนเรนทร์จะเป็น ของพริ้มเพราด้วย ซ้อนไม่พอใจทะเลาะกับพริ้มเพราเจ็บใจตัวเองที่เป็นคนโง่ยอมให้พริ้มเพราหลอก ตลอดมาจึงเอาแต่ดื่มเหล้าดับทุกข์

ยอแสงมาเที่ยวบางแสนกับคุณใหญ่ ศักดิ์รพี พร้อมมิตร จิตรใส นเรนทร์ ระหว่างเดินเล่นในสวนมะพร้าวยอแสงเจอนางสายเข้าโดยบังเอิญ ยอแสงร้องไห้โฮด้วยความดีใจและตกใจเมื่อรู้ว่าแม่เป็นบ้าเธอรีบไปบอกคุณใหญ่ คุณใหญ่ฉุกคิดได้ว่าอาจเป็นนางสายที่เธอต้องการตัวจึงยอมไปพบแต่ต้องผิดหวัง เพราะสายหนีไปอีกแล้ว

ยอแสงเศร้าเรื่องแม่ แต่ศักดิ์รพีเข้าใจผิดคิดว่ายอแสงคิดถึงธาดา ยอแสงน้อยเนื้อต่ำใจจึงมีปากเสียงกับศักดิ์รพี พร้อมมิตรแอบฟังอยู่เข้ามาเตือนศักดิ์รพี ศักดิ์รพีไม่ชอบให้พร้อมมิตรแสดงตัวเป็นเจ้าของเขาจึงออกปากไล่ด้วยความ รำคาญ

พร้อมมิตรเสียหน้าโกรธมากโทษว่าความผิดเกิดจากยอแสงคนเดียว นเรนทร์เห็นยอแสงเดินเล่นชายหาดคนเดียวจึงลากไปปลุกปล้ำ ธาดาที่มาติดต่อธุระกับพ่อเห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยจึงต่อสู้กับนเรนทร์ สุดท้ายศักดิ์รพีเข้ามาสั่งให้ยอแสงเตรียมตัวกลับบ้านและชำระความด้วยการตบ หน้านเรนทร์หลายที

ยอแสงไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิดนับวันศักดิ์รพีถึงยิ่งเหินห่าง ยอแสงเศร้าปรับทุกข์กับอินตาว่าอยากหนีไปจากเรือนแพ อินตาให้กำลังใจขอให้ยอแสงสู้ต่อไป ซ้อนเมาเหล้า ร้องโวยวายออกมาจากบ้านว่าวิญญาณท่านต้นกับดวงพรมาหาเกือบจะเล่าความจริงให้ ยอแสงฟัง แต่ถูกอินตาชกจนสลบไปเสียก่อน

พริ้มเพราลักลอบได้เสียกับชัยยุทธบ่อยครั้งจนตั้งท้อง นเรนทร์ออกปากเตือนพริ้มเพราให้อยู่ห่างจากชัยยุทธเพราะมีเมียแล้วแถมยังมี แต่ตัวหวังจะเกาะพริ้มเพรากิน พริ้มเพราตกใจไม่รู้จะทำยังไงกับเด็กในท้อง

ยอแสงรู้เรื่องจากคุณใหญ่ว่าศักดิ์รพีกำลังสร้างโรงเรียนในฝันให้เธอ ยังไม่ทันที่เธอจะขอบคุณศักดิ์รพีกลับเอาแหวนเพชรมาให้บอกว่าเป็นของหมั้น ของยอแสงกับธาดา ยอแสงโกรธไม่พอใจจึงเอาหินทุบแหวนจนพัง ทั้งสองทะเลาะกันระหว่างทางขับรถกลับ ยอแสงเจอสายเร่ร่อนอยู่ สายเห็นยอแสงก็วิ่งหนี ยอแสงวิ่งตามสะดุดล้มหัวฟาดพื้นสลบไป

ศักดิ์รพีพายอแสงมานอนพักที่บ้าน ยอแสงรู้สึกตัวแล้วแต่แกล้งหลับเพื่อลองใจศักดิ์รพี ชายหนุ่มเฝ้าดูแลยอแสงเป็นอย่างดีก่อนออกจากห้องไป

ธาดามารอพบศักดิ์รพีเข้าใจผิดคิดว่าศักดิ์รพีข่มเหงยอแสงด้วยการปลุกปล้ำจน ยอแสงสลบไป ศักดิ์รพีต่อยธาดาเพราะไม่ชอบให้ใครดูถูก ธาดาจะสู้ยอแสงรีบออกมาห้ามทัพยืนยันว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ท่าทางปกป้องศักดิ์รพีกลายๆ ทำให้ธาดามั่นใจว่ายอแสงตัดสินใจเลือกศักดิ์รพีแล้ว

เมื่อยอแสงต้องพักอยู่บ้านศักดิ์รพี จิตรใส นเรนทร์จึงนินทาว่ายอแสงคงมีอะไรกับศักดิ์รพีแล้ว พร้อมมิตรเอาปืนไปจ่อยอแสงด้วยความหึงแต่ยอแสงไม่กลัวแสดงความบริสุทธิ์ใจ ทุกอย่างจนพร้อมมิตรเริ่มใจอ่อนยอมรับยอแสงมากขึ้น

พริ้มเพราขอร้องให้ซ้อนเป็นพ่อของเด็กในท้อง แต่ซ้อนไม่ยอมรับแถมด่ากลับพริ้มเพราว่ากรรมกำลังสนองคนชั่ว ซ้อนบอกจะไม่ยอมโง่และช่วยเหลือพริ้มเพราอีกต่อไป ทั้งสองทะเลาะกันจนนเรนทร์แอบได้ยินว่าเขาไม่ใช่ลูกของท่านต้น

นเรนทร์มาคาดคั้นเอาความจริงกับซ้อนที่ยังคงไม่สร่างเมา ซ้อนไม่ยอมบอกจึงถูก นเรนทร์ซ้อม อินตาเข้ามาห้ามถูกนเรนทร์ด่าอย่างหยาบคาย อินตาไล่นเรนทร์ออกไปก่อนเหลืออด ขอร้องให้ซ้อนปิดปากตัวเองอย่าเพิ่งบอกว่าลูกท่านต้นคือใครเพื่อความปลอดภัย ของทายาทที่แท้จริง

คุณใหญ่ยอมพูดแค่นเรนทร์ไม่ใช่ลูกท่านต้น นเรนทร์แค้นมากอาฆาตทุกคนที่จะมาแย่งสมบัติของบ้านนี้ เขาถามความจริงจากพริ้มเพราจึงรู้ว่าพริ้มเพรา ซ้อน ละม่อมรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี

ละม่อมถูกฆ่าตาย ซ้อนกับพริ้มเพรามั่นใจว่าเป็นฝีมือนเรนทร์จึงคิดหนีไปหลบอยู่ที่อื่นสัก ระยะ ซ้อนเข้าไปสารภาพเรื่องสลับลูกกับคุณใหญ่แต่คุณใหญ่รู้เรื่องมานานแล้วแค่ ไม่อยากพูดเท่านั้น

นเรนทร์มาดักรอซ้อนอยู่ในห้อง แทงซ้อนไม่นับจนตายคาที่ อินตาเข้ามาแย่งมีดจาก นเรนทร์บอกจะรับผิดแทนแล้วล่อตำรวจให้วิ่งตาม

คุณใหญ่ตัดสินใจเปิดพินัยกรรมก่อนกำหนดเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายอีก ต่อไป นเรนทร์มั่นใจว่าจะได้มรดกทั้งหมดแต่เมื่ออินตาปรากฏตัวขึ้นหลังจากโกนหนวด เคราแล้วความจริงทุกอย่างจึงถูกเปิดเผย ยอแสงคือตะวันทายาทที่แท้จริงของท่านต้นกับดวงพร นเรนทร์คลั่งแค้นควักปืนมายิงทุกคน ศักดิ์รพีกับอินตาช่วยกันจับตัวนเรนทร์ ตำรวจมาถึงจึงลากตัวนเรนทร์ไปดำเนินคดี

ยอแสง หรือ ตะวัน ได้ขยับฐานะเป็นเจ้าของคฤหาสน์เรือนแพที่แท้จริง ศักดิ์รพียังคงวางมาดไม่เลิก ยอแสงดัดนิสัยด้วยการแกล้งงอน ศักดิ์รพีจึงต้องรีบเข้าไปง้อและเปิดเผยความในใจของตน

ในที่สุดความรักและความอบอุ่นที่ขาดหายไปจากคฤหาสน์เรือนแพก็ได้กลับคืนมาอีกครั้ง
Read more »

รักซ่อนรส


วันออกอากาศ วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์
ช่องที่ออกอากาศ 7
วันที่เริ่มออกอากาศ 26 กุมภาพันธ์ 2553
เวลาออกอากาศ 20:25 - 22:25 น.

กำกับโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ประพันธ์โดย

บทประพันธ์ กุสุมา สินสุข, บทโทรทัศน์ ธนินทร อุชุภาพ, กฤติญา สัมฤทธิ์ประสงค์
นำแสดงโดย
ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ ... พรวุฒิ หรือ คุณตั้ม
สาวิกา ไชยเดช ... ฟ้าใส
วรรษมน แซตั้ง ... ฝนทิพย์
ธีร์ วณิชนันทธาดา ... อธิป
ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล ... ชฎาฉัตร
นวลปรางค์ ตรีชิต ... สมร
วลินทิพย์ สุวรรณมงคล ... สาลิกา

ผู้สร้าง กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ณ ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง แกงป่าถูกวางตรงหน้าฟ้าใส (สาวิกา ไชยเดช) เธอตักแกงขึ้นดมและรู้ได้ทันทีว่าพ่อครัวลืมใส่กระชาย ฟ้าใสหวังดีเพียงแค่อยากเตือนพนักงานเสิร์ฟให้บอกพ่อครัว แต่สุชิน (ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม) พ่อครัวเผอิญออกมาได้ยิน และโกรธจัดที่ถูกเด็กสอน โวยวายตะเพิดใส่ฟ้าใส บังเอิญเจ้าของร้านมาตรวจเยี่ยมร้านพอดีรู้ว่าพ่อครัวสะเพร่าจึงไล่พ่อครัว ออกจากงาน ฟ้าใสรู้สึกผิดที่ตัวเองเป็นสาเหตุแต่ไม่มีเวลาไล่ตามไปขอโทษสุชินเพราะต้อง รีบไปเข้าเรียนทำอาหารวันแรก ทำให้สุชินผูกใจเจ็บกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ฟ้าใสมีความใฝ่ฝันอยากเป็นเชฟอาหารไทย ด้วยพรสวรรค์ที่ติดตัวมาประกอบกับคลุกคลีอยู่กับธุรกิจการส่งออกวัตถุดิบและ เครื่องเทศอาหารไทยของอาทิตย์ซึ่งเป็นบิดา ทำให้ฟ้าใสรอบรู้ด้านเครื่องเทศ แต่อรุณ (เดือนเต็ม สาลิตุล) ผู้เป็นย่าต่อต้านความฝันของฟ้าใสชนิดสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะย่าอรุณเจ็บช้ำกับอดีตสมัยที่เคยเป็นต้นห้องทำครัวอยู่ในวัง แต่โดนใส่ร้ายว่าใส่สมุนไพรบางตัวที่เป็นอันตรายทำให้เจ้านายในวังล้มป่วย ย่าอรุณถูกไล่ออกจากวังจึงเสียใจอย่างหนักเลิกทำอาหารตั้งแต่บัดนั้น แต่ฟ้าใสก็ยังดื้อรั้นแอบมาสมัครเรียนจนได้ ความหวังของฟ้าใสล้มเหลวเพราะย่าอรุณตามมาลากหลานสาวกลับบ้าน ขณะกำลังโดนย่าลงโทษ ทั้งคู่ก็ได้รับข่าวร้ายว่า บริษัทส่งออกของอาทิตย์ถูกบริษัทหลักทรัพย์ของอมรา (ประถมาภรณ์ รัตนภักดี) ใช้ เล่ห์กลเข้าฮุบกิจการ จนอาทิตย์บิดาของฟ้าใสรับสภาพล้มละลายไม่ได้ตัดสินใจแขวนคอตาย การตายของอาทิตย์เปลี่ยนแปลงชีวิตฟ้าใสจากคนมีอันจะกินกลายเป็นยาจกไปในพริบ ตา แถมย่าอรุณยังล้มป่วยเพราะสูญเสียลูกชายสุดที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ ฟ้าใสต้องพาย่าไปเช่าบ้านถูกๆ อยู่ และรับภาระเป็นหัวหน้าครอบครัวเลี้ยงดูย่า กับน้องอีกสองคน คือฝนทิพย์ (วรรษมน แซ่ตั้ง) และด.ช.เมฆ (รจนกร อยู่หน้า) ทั้งๆที่ตัวเองมีอายุเพียงแค่ 17 ปี เท่านั้น เธอจึงต้องไปรับจ้างปอกมะพร้าวกะทิในตลาด ฟ้าใสกัดฟันสู้อย่างไม่ยอมแพ้

นายอำนาจ (สมภพ เบญจาธิกุล) มหาเศรษฐี เจ้าของธุรกิจไฟแนนซ์ ประกาศวางมือทางธุรกิจ แล้วยกกิจการให้อยู่ในความดูแลของอมรากับอุไร หลานสาว ซึ่งอยู่ในวัยสาวใหญ่ ยังไม่ได้แต่งงานเพราะอำนาจกีดกัน เนื่องจากคิดว่าผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตของหลานสาว มีแต่หวังปลอกลอกเอาสมบัติมากกว่าจะรักด้วยความจริงใจ สาเหตุอีกประการหนึ่งก็คืออารีย์ (ปภัสรา เตชะไพบูลย์) หลานสาวอีกคนหนึ่งของอำนาจ เคยถูกผู้ชายทิ้งกระทั่งอารีย์ต้องเลี้ยงลูกแต่เพียงลำพัง ลูกสาวของอารีย์ชื่อชฎาฉัตร (ชวัลกร วรรธนพิสิฐกุล) เรียนอยู่ที่ต่างประเทศ ขณะที่อยู่ต่างประเทศชฎาฉัตรเคยผูกพันกับ พรวุฒิหรือคุณตั้ม (ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) ทายาท นักธุรกิจร้อยล้าน แต่คุณตั้มสำเร็จการศึกษาก่อน และต้องรีบกลับมาช่วยกอบกู้บริษัทเลิศรส ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารแบบเฟรนไชน์ ของครอบครัว ที่กำลังประสบกับภาวะวิกฤตเพราะคนไทยหันไปนิยมกินอาหารต่างชาติ โดยมีพรฤดี (มาริสา อานิต้า) พี่ สาวคอยช่วยอีกแรง พนักงานของร้านอาหารเลิศรสหลายสาขาพากันลาออกไปสมัครงานกับร้านอาหารทั้ง ญี่ปุ่นและอิตาเลี่ยน ทำให้คุณตั้มต้องรีบประกาศรับคนด่วน เหมือนพรหมลิขิตชักพาให้คุณตั้มกับฟ้าใสต้องโคจรมาพบกัน เมื่อเกิดปัญหามะพร้าวขาดตลาด พ่อค้าที่คอยจัดส่งกะทิให้กับร้านอาหารเลิศรสต้องไปตระเวนซื้อกะทิจากตลาด ทั่วไป ร้านขายกะทิที่ฟ้าใสรับจ้างทำงานอยู่จึงให้ฟ้าใสนำกะทิไปส่งที่ร้านอาหาร เลิศรสสาขาหนึ่ง ทำให้ฟ้าใสรู้ข่าวการรับสมัครงานของบริษัทเลิศรส จึงรีบสมัครเป็นพนักงานในตำแหน่งผู้ช่วยเชฟ ซึ่งจะต้องเข้าไปฝึกงานในบริษัทแม่ แต่โชคร้ายเมื่อเธอได้เข้าไปทำงาน กลับต้องไปเจอกับสุชินที่เคยถูกไล่ออกจากงานเพราะฟ้าใส สุชินมีหน้าที่ดูแลเด็กฝึกงาน เขาจำฟ้าใสได้อย่างแม่นยำ จึงคอยกลั่นแกล้งฟ้าใสให้ทำงานปัดกวาดเช็ดถู ล้างห้องน้ำ ไม่ให้ฟ้าใสได้มีโอกาสฝึกทำอาหารเลย

ด้านชฎาฉัตรทนอยู่ที่ต่างประเทศคนเดียวไม่ได้ จึงเดินทางกลับมาเงียบๆ โดยไม่มีปริญญาติดตัวมาเลย อำนาจโกรธมาก กดดันชฎาฉัตรไปช่วยงานที่บริษัท เพราะวิตกว่าชฎาฉัตรจะพลาดพลั้งอย่างมารดาและอาจเสียคน ชฎาฉัตรแม้จะยอมไปทำงาน แต่ก็ไปวางท่าหยิ่งผยองถือตัวว่าเป็นผู้ดีมีระดับเหนือพนักงาน คุณตั้มต้องการปรับปรุงด้านรสชาติอาหารโดยการคัดเลือกเครื่องเทศที่มีคุณภาพ มากขึ้น ทำให้เขานึกถึงอาทิตย์เพื่อนสนิทของบิดาที่เคยมีบุญคุณช่วยเหลือบิดาของคุณ ตั้มในสมัยเริ่มทำธุรกิจร้านอาหาร คุณตั้มอยากติดต่อซื้อเครื่องเทศจากอาทิตย์ แต่พรฤดีบอกว่าอาทิตย์

เสียชีวิตไปแล้ว คุณตั้มเป็นห่วงครอบครัวของอาทิตย์ จึงแวะไปที่บ้านเดิมของฟ้าใส ปรากฏว่าบ้านหลังนั้นตกเป็นของครอบครัวอมราเสียแล้ว คุณตั้มออกตามหาครอบครัวฟ้าใสโดยไม่รู้เลยว่าเด็กสาวที่ทำขยะหกใส่หัวเขาใน บริษัทโดยไม่ตั้งใจ ที่แท้ก็คือฟ้าใสคนที่เขาตามหานั่นเอง

พนักงานฝึกงานหลายคนถูกส่งตัวไปทำงานที่ร้านอาหารตามสาขาต่างๆ เหลือเพียงฟ้าใสที่สุชินไม่ให้ผ่านงาน ฟ้าใสถูกให้ออก ก่อนไปฟ้าใสแอบทำข้าวผัดสูตรชาววังที่ย่าเคยทำให้กินตอนเด็กที่ตัวเองแอบจำ สูตรมา จัดใส่กล่องสวยงามให้แม่บ้านเป็นการตอบแทนน้ำใจที่คอยช่วยเหลือฟ้าใสมาตลอด ที่ฝึกงาน ข้าวผัดกล่องนั้นได้ถูกแม่บ้านนำไปเสิร์ฟให้คุณตั้มกิน คุณตั้มรู้สึกคุ้นรสชาติข้าวผัดที่ย่าอรุณเคยทำให้กิน รีบให้คนตามหาคนทำ จนได้พบกับฟ้าใสในที่สุด คุณตั้มให้การช่วยเหลือครอบครัวของฟ้าใสด้วยการให้มาอยู่ตึกแถวริมถนนที่ตน ซื้อทิ้งไว้ ย่าอรุณห่วงหลานทั้งสามเลยออกไปรับจ้างทำงานหนักจนป่วยหนัก ฟ้าใสจึงออกอุบายบอกย่าอรุณว่าเธอจะแต่งงานกับเศรษฐี จะได้ไม่ลำบากเพื่อให้ย่าสบายใจ แต่อรุณไม่เชื่อให้ฟ้าใสพาคนรักมาพบ ฟ้าใสตัดสินใจบากหน้าไปหาคุณตั้ม เพื่อขอร้องให้มาช่วยเล่นละครรับปากกับย่าที่กำลังเจ็บหนักใกล้ตาย เพื่อให้ย่าตายอย่างสงบ

ฟ้าใสเข้าไปพบคุณตั้มในคฤหาสน์ ขณะที่เขากำลังจัดงานปาร์ตี้ มีเพื่อนฝูงทั้งหญิงชายล้วนแต่เป็นผู้ลากมากดีมีฐานะ รวมทั้งคุณชฎาฉัตร ฟ้าใสโดนหัวเราะเยาะ ถูกมองว่าเป็นผู้หญิงชั้นต่ำไม่มีความละอาย ถึงขนาดมาขอให้ผู้ชายที่ไม่เคยรักกันมาก่อนให้มาแต่งงานด้วย ฟ้าใสอธิบายว่าเธอทำเพียงเพื่อจะให้ย่าที่เจ็บป่วยสบายใจ ชั่วคราวเท่านั้น และเธอก็คิดว่าไม่ช้าย่าก็จะตาย และทุกอย่างก็จะสิ้นสุดลง แต่ชฎาฉัตรไม่ยอม ซ้ำยังประณามและดูถูกฟ้าใส รวมทั้งเพื่อนคนอื่นๆ เช่นเทียนสี (แพร มายาไอดอล) หรือ อำพล (กฤตนาถ พัฒนถาบุตร) กลับนึกสนุกล้อเลียนฟ้าใสเป็นที่สนุกสนาน ฟ้าใสรู้สึกละอายและผิดหวัง จึงกลับไปหาย่า ตั้งใจจะบอกความจริง แต่คุณตั้มกลับบอกฟ้าใสว่าเขาจะไปพบย่าของฟ้าใส และไปบอกย่าตามที่ฟ้าใสขอร้อง เพราะเขาเห็นใจฟ้าใสและสงสารย่า อยากให้กำลังใจคนแก่ที่ใกล้ตาย ทำให้ชฎาฉัตรโกรธมาก เธอคิดว่าฟ้าใสวางแผนกับย่าเพื่อหลอกลวงคุณตั้มให้แต่งงานด้วย จึงขอตามไปดูว่าสิ่งที่ฟ้าใสพูดมาเป็นความจริงหรือไม่ แต่คุณตั้มไม่อนุญาต และขู่ชฎาฉัตรกับเพื่อนๆ ว่าหากทุกคนไปวุ่นวายขัดขวางเรื่องนี้ เขาจะเลิกคบทันที

ย่ามีความสุขขึ้นเมื่อเห็นกับตาว่าคุณตั้ม ชายหนุ่มที่ย่าเคยเห็นว่าเป็นลูกชายคนเดียวของเศรษฐีใกล้บ้านของย่ามารัก หลานสาวจริงๆ จากนั้นย่าอรุณก็แข็งแรงขึ้นอย่างกับปาฏิหาริย์และคุณตั้มกับฟ้าใสก็เลยต้อง เล่นละครเป็นคนรักกันต่อมาอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ชฎาฉัตรยิ่งเชื่อว่า ทั้งหมดเป็นแผนของฟ้าใส และพยายามโน้มน้าวให้คุณตั้มเชื่อว่าฟ้าใสเป็น 18 มงกุฎ แต่คุณตั้มไม่สนใจ แถมยังรับปากที่จะส่งเสียฝนทิพย์และดช.เมฆให้เรียนจนจบอีกด้วย แต่ได้รับการปฏิเสธจากฟ้าใส เพราะเธอไม่ต้องการสูญเสียศักดิ์ศรีที่เป็นสิ่งเดียวที่เธอมีอยู่ในตอนนี้ คุณตั้มจึงให้ฟ้าใสไปเป็นผู้ช่วยเชฟในร้านอาหารเลิศรสในห้างใหญ่ พรฤดีขัดขวางเพราะกลัวว่าน้องชายจะไปหลงรักฟ้าใสซึ่งต่างฐานะกัน การได้ชฎาฉัตรมาเป็นน้องสะใภ้น่าจะเกิดประโยชน์ต่อธุรกิจมากกว่า แต่พรฤดีก็ไม่อยากหักหาญน้องชายเสียทีเดียว จึงเสนอให้ฟ้าใสเป็นแค่เด็กเสิร์ฟแล้วค่อยไต่เต้าไปเป็นผู้ช่วยเชฟ ชฎาฉัตรรู้ข่าวโกรธมากตามไปราวีฟ้าใสแต่ก็ทำอะไรฟ้าใสไม่ได้ จึงพาลไปอาละวาดกับคนในบ้านตัวเองแทน เริ่มต้นจากการทวงสิทธิ์ของอารีย์ในกองมรดก จนอมรากับอุไรต้องแบ่งบริษัทที่ยึดมาจากพ่อของฟ้าใสให้ชฎาฉัตรดูแล แต่ชฎาฉัตรเอาแต่ตามหึงหวงฟ้าใส จนกิจการขาดทุน เมื่อถูกอำนาจตำหนิ ชฎาฉัตรก็หันไปหาเรื่องกับสาริกา ลูกของสำรวยคนใช้ในบ้าน ทำให้สาริกาไม่พอใจ คิดเอาชนะชฎาฉัตรด้วยการตั้งใจเรียนหนังสือและทำงานปรนนิบัติอำนาจ เพื่อให้อำนาจเอ็นดูและให้เห็นว่าเธอนั้นมีความรู้เหนือกว่าชฎาฉัตร จนอำนาจเอ็นดูถึงกับจะยกสมบัติส่วนหนึ่งให้ สาริกา

ที่เลิศรสพนักงานเสิร์ฟไม่ค่อยใส่ใจงานด้านบริการทำให้ยอดขายตก แต่ฟ้าใสช่วยกู้สถานการณ์ตั้งใจเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าพร้อมแนะนำคุณประโยชน์ ของอาหารไทยแต่ละประเภทให้ลูกค้าฟัง จนลูกค้าพากันชื่นชอบเรียกหาแต่ฟ้าใส ฟ้าใสจึงโดนเพื่อนพนักงานหมั่นไส้ลากไปรุมตบตี อธิป (ธีร์ วณิชนันทธาดา) เพื่อน สมัยเรียนที่หลงรักฟ้าใสอยู่ ตามมาช่วยได้ทันเวลาพาฟ้าใสส่งโรงพยาบาล คุณตั้มรู้เรื่องโกรธมากจะไล่พนักงานพวกนั้นออกและจับส่งตำรวจ แต่ฟ้าใสกลับบอกว่าตัวเองถูกอันธพาลทำร้ายไม่เกี่ยวกับเพื่อนพนักงานเลย ทำให้เพื่อนพนักงานสำนึกผิดหันมาทำดีกับฟ้าใส ชฎาฉัตรยังคอยตามราวีกลั่นแกล้งฟ้าใสไม่เลิกรา ด้านพรฤดีเริ่มรู้สึกเห็นใจและมองเห็นความดีงามในตัวของฟ้าใส เด็กสาวที่เธอมองว่าฐานะต่ำชั้น แต่กลับมีนิสัยดีกว่าชฎาฉัตรที่ถือตัวเป็นผู้ดีหลายเท่านัก

พยัคฆ์ (นพพล พิทักษ์โล่พานิช) หุ้นส่วนบริษัทคุณตั้ม เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แสดงท่าทีว่าชอบพรฤดี แต่เธอทำเป็นไม่สนใจ ขณะที่คุณตั้มต้องการให้พี่สาวมีครอบครัว จึงเปิดทางให้พยัคฆ์ได้เข้ามาใกล้ชิดกับพรฤดีตลอดเวลา พรฤดีเริ่มใจอ่อน แต่ก็ยังไว้ฟอร์มไม่ยอมรับปากแต่งงานกับพยัคฆ์ ธุรกิจร้านอาหารของคุณตั้มประสบปัญหาใหญ่อีกครั้ง เพราะสุชินขโมยสูตรอาหารไทยเมนูใหม่ ซึ่งเป็นสูตรผสมระหว่างอาหารไทยกับอาหารฝรั่งไปขายให้กับบริษัทเฟรนไชน์เปิด ใหม่ ซึ่งคุณตั้มไม่รู้เจ้าของบริษัทที่ชิงสูตรไปนั้นก็คือพยัคฆ์นั่นเอง ลูกค้าของเลิศรสโดนแย่งไปหมดสถานการณ์จวนเจียนเจ๊ง แต่ฟ้าใสอ้อนวอนให้ย่าอรุณช่วยสอนสูตรการทำอาหารตำรับชาววังขนานแท้ให้เพื่อ ช่วยเหลือคุณตั้ม ย่าอรุณทนเห็นความทุกข์ใจของหลานไม่ไหว จึงยอมสอนฟ้าใส คุณตั้มกับฟ้าใสช่วยกันพลิกฟื้นฐานะของบริษัทจนเพิ่มยอดขายถล่มทลาย ฟ้าใสกลายเป็นที่ยอมรับของเชฟทุกคนได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นเชฟที่มีอายุน้อย ที่สุดของบริษัท แถมยังได้รับรางวัลเชฟหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากสถาบันอาหารไทยสู่ครัวโลก

ชฎาฉัตรริษยาฟ้าใสหนักขึ้น ด้วยความกลุ้มใจจึงไปหาเทียนสีกับอำพล ซึ่งเป็นคู่รักกัน ชฎาฉัตรลักลอบได้เสียกับอำพล ขณะเดียวกันก็ยังเฟลิตกับผู้ชายมากหน้าหลายตา ชฎาฉัตร ออกเที่ยวกลางคืนทุกวัน จนพบกับพยัคฆ์ที่ไปนั่งกินเหล้ากับลูกค้าในบาร์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว พยัคฆ์ช่วยชฎาฉัตรแก้ปัญหาเรื่องบริษัท ที่สุดชฎาฉัตรก็ได้เสียกับพยัคฆ์ และตั้งท้องขณะเดียวกันพรฤดีก็ตัดสินใจรับปากแต่งงานกับพยัคฆ์ พยัคฆ์จึงขอให้ชฎาฉัตรไปทำแท้งเสีย ประจวบกับอำนาจประกาศยอมรับสาริกาเป็นบุตรบุญธรรม ชฎาฉัตรเสียหน้าอย่างที่สุด เธอคิดกลับมาหาคุณตั้ม และเริ่มดำเนินแผนการที่จะทำให้คุณตั้มแตกกับฟ้าใส โดยใช้อธิปเป็นเครื่องมือ แผนของชฎาฉัตรสำเร็จ คุณตั้มหึงฟ้าใสกับอธิปจนทะเลาะกันรุนแรง และมีท่าทีว่าจะกลับมาสนิทกับชฎาฉัตรเป็นการประชด ชฎาฉัตรเห็นว่าได้ที่พึ่ง จึงปฏิเสธเงินของพยัคฆ์ โชคร้ายที่การพบกันครั้งสุดท้ายของพยัคฆ์และชฎาฉัตรรู้ถึงหูพรฤดี พรฤดีเสียใจมากยื่นคำขาดล้มเลิกการแต่งงาน

พยัคฆ์โกรธมาก เพราะการที่เขาแต่งงานกับพรฤดีครั้งนี้ เพราะต้องการจะเข้าฮุบกิจการของพรฤดี พยัคฆ์จึงโทรแบล็คเมล์อำนาจให้ขายหุ้นให้ตัวเองในราคาถูก ไม่งั้นจะแฉเรื่องที่ชฎาฉัตรท้องกับตน อำนาจเสียใจมากจนหัวใจวายตาย สาริกาบุกไปตามชฎาฉัตรขณะกำลังจะมอมยาคุณตั้ม และประณามว่าชฎาฉัตรเป็นคนทำให้ทวดตาย คุณตั้มตกใจมากที่รู้ความจริงว่าพยัคฆ์เป็นคนเลว และคิดร้ายกับครอบครัวตนเองมาตั้งแต่ต้น ส่วนชฎาฉัตรก็ตามไปเอาเรื่องพยัคฆ์ แต่ถูกพยัคฆ์ทำร้ายจนตกบันไดแท้งลูก พยัคฆ์นึกว่าชฎาฉัตรเสียชีวิต จึงให้คนเอาร่างของชฎาฉัตรไปทิ้งที่ชานเมือง

ฟ้าใสโดนย่าบังคับให้ลาออกจากร้านอาหารเลิศรสเพราะรู้ความจริงว่าฟ้าใสกับ คุณตั้มร่วมกันโกหกเรื่องเป็นแฟนกัน ย่าอรุณโกรธคุณตั้มมาก พาหลานๆ ย้ายไปอยู่ชานเมือง เปิดร้านขายข้าวแกงเล็กๆ พออยู่พอกิน ฟ้าใสได้พบชฎาฉัตรโดยบังเอิญจึงช่วยชฎาฉัตรไว้ ที่บ้านของฟ้าใสนี่เองที่ทำให้ชฎาฉัตรรู้ตัวว่าคนจนที่ตัวเองรังเกียจ กลับมีจิตใจอันงดงาม ไม่เหมือนกับตัวเองที่หลงคิดว่าสูงส่งมาตลอดแต่กลับทำเรื่องน่าละอายสารพัด ชฎาฉัตรขอโทษฟ้าใสและรับปากว่าจะคืนบริษัทที่อมรายึดมาคืนให้แก่ฟ้าใส ส่วนฟ้าใสนั้นสงสารและเห็นใจชฎาฉัตรมาก เมื่อคุณตั้มตามมาปรับความเข้าใจ จึงแกล้งโกหกคุณตั้มว่าตนแต่งงานกับอธิปแล้ว ทั้งๆ ที่ความจริงอธิปย้ายมาอยู่บ้านฟ้าใสเพราะแต่งงานกับฝนทิพย์ ฟ้าใสต้องการให้คุณตั้มลงเอยกับชฎาฉัตร แต่ชฎาฉัตรสำนึกตัวแล้ว จึงไม่คิดจะกลับไปหาคุณตั้มอีก คิดแต่ว่าจะกลับมาแก้แค้นพยัคฆ์แทน

ชฎาฉัตรนัดพยัคฆ์เจรจาโอนหุ้นของอำนาจคืนให้ตน ไม่งั้นจะแฉเรื่องที่พยัคฆ์พยายามฆ่าตนกับตำรวจ พยัคฆ์แกล้งตกลงพาชฎาฉัตรไปเอาเอกสารและจะฆ่าปิดปาก แต่คุณตั้มพาตำรวจตามมาช่วยไว้ได้ทัน เพราะฟ้าใสแอบรู้ว่าชฎาฉัตรนัดกับพยัคฆ์ จึงบอกให้คุณตั้มรู้ พยัคฆ์ถูกจับ คุณตั้มซื้อหุ้นของอำนาจคืนให้ชฎาฉัตร และรีบกลับไปหาฟ้าใส แต่ปรากฏว่าฟ้าใสพาครอบครัวย้ายหนีไปแล้ว คุณตั้มออกตามฟ้าใสจนพบและขอฟ้าใสแต่งงาน เพราะเขาตระหนักแล้วว่าฟ้าใสคือผู้ดีที่ถูกตีตราด้วยความดีงาม

คุณตั้มขอหมั้นฟ้าใสด้วยสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฟ้าใส นั่นคือบ้านเก่าที่ถูกอมรายึดไป ซึ่งฟ้าใสไม่รู้เลยว่าคุณตั้มซื้อเก็บไว้นานแล้ว ฟ้าใสและทุกคนมีความสุขมากที่ได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง
Read more »

เลื่อมพรายลายรัก


วันออกอากาศ วันพุธ วันพฤหัส
ช่องที่ออกอากาศ 3
วันที่เริ่มออกอากาศ 18 มีนาคม 2553
เวลาออกอากาศ 20:20 - 22:30 น.

กำกับโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ประพันธ์โดย

บทประพันธ์ ดวงตะวัน, บทโทรทัศน์ SANCTUARY
นำแสดงโดย
วิทยา วสุไกรไพศาล ... แสนยากร
ศรีริต้า เจนเซ่น ... ญาณิน (นิกกี้)
ชไมพร จตุรภุช ... นิมมาน
ดารัณ บุญยศักดิ์ ... ฆรณี
ศรัณยู ประชากริช ... เริงฤทธา
พริมรตา เดชอุดม ... รังสิมา
ดิลก ทองวัฒนา ... กัมปนาท
วรวุฒิ นิยมทรัพย์ ... บันลือ
เจนสุดา ปานโต ... แป้งร่ำ
ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ ... เรวัต
พศิน เรืองวุฒิ ... ทม
สุเมธ องอาจ ... เนืองนิตย์
ภูดิศ สุริยวงศ์ ... โดม
กานต์ อรุณเรืองสวัสดิ์ ... ตอย
ลิลลี่ แม็คกร๊าธ ... เดียร์
อณูวรรณ ปรีญานนท์ ... กอบัว
ชาตรี ชมพู ... ลุงเอก
ปาริชาต รักมาก ... ป้าอุษา

ผู้สร้าง บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
เรื่องราวความขัดแย้งระหว่างสองตระกูล รังสฤษฎ์ และ จักราวุธ ที่ห้ำหั่นกันในเชิงธุรกิจและเรื่องส่วนตัวเร้นลับที่เกี่ยวพันสองตระกูลเข้าด้วยกัน รังสฤษฎ์ประกอบด้วย กัมปนาท พี่ชายใหญ่ที่มีอำนาจเหนือทุกคน มี บันลือ น้องชายเป็นมือขวาช่วยดูแลกิจการ และ แสนยากร ลูกชายคนเดียวเป็นมือซ้าย และยังมีน้องสาวสุดท้องคือฆรณี ทำหน้าที่แม่บ้านของครอบครัว นิมมาน สาวใหญ่คือผู้นำของจักราวุธ ตามมาด้วย เนืองนิตย์ และ นิจศีล น้องชายที่ช่วยบริหารงานตระกูล
เรื่องราวขัดแย้งปะทุขึ้น เมื่อน้องคนเล็กของทั้งสองตระกูลคือ นิจศีลและฆรณีแอบรักและมีความสัมพันธ์กัน จนเกิดทายาทเป็น เริงฤทธา เด็กหนุ่มที่เติบโตโดยไม่ได้รับความรักจากนิจศีลเลย นิจศีลถูกนิมมานพี่สาวบังคับให้ทิ้งทั้งฆรณีและลูกชายไปต่างประเทศ และไปได้ภรรยาใหม่เป็นหญิงอเมริกัน ให้กำเนิดทายาทเป็นสาวสวยอย่าง ญาณิน (นิกกี้) สร้างความด่างพร้อยให้กับฆรณีและตระกูลรังสฤษฎ์เป็นอย่างยิ่ง
แสนยากรต้องเข้าไกล่เกลี่ยการพิพาทของฆรณีและนิจศีล เมื่อฆรณีคาดคั้นเรื่องพินัยกรรมที่นิจศีลจะต้องแบ่งให้เริงฤทธาลูกชายของเธอ ไม่ใช่ให้นิกกี้แต่เพียงผู้เดียว จนทำให้นิจศีลที่ป่วยกระเสาะกระแสะขาดใจตายกะทันหัน สร้างความเจ็บปวดให้นิมมานอย่างที่สุดที่ต้องเสียน้องชายที่รักไป ในช่วงงานศพของนิจศีล นิกกี้กลับมาเมืองไทย และซ่อนตัวอยู่กับ แป้ง เพื่อนหญิงจอมเปรี้ยวในผับที่ข้าวสาร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เธอพบแสนยากรเข้าโดยบังเอิญ และพาเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องเพราะเธอสาดน้ำเขาจนเปียกปอน เหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายทั้งคู่จนหมดสติ และจัดฉากให้ทั้งคู่นอนเปลือยอยู่ด้วยกัน
ทั้งสองตื่นขึ้น กล่าวหาซึ่งกันและกันว่าเป็นตัวการ แต่แล้วก็ต้องสงบศึกเมื่อพบหลักฐานของคนร้าย เป็นกระดุมสูทสลักอักษรตัว R ตกอยู่ ซึ่งแสนยากรรู้ทันทีว่านั่นคือกระดุมประจำตระกูลรังสฤษฎ์ของตน และชี้ชัดว่าคนร้ายคือผู้ชาย แสนยากรพบกับนิกกี้อีกครั้งในงานศพของนิจศีล เขาถึงรู้ว่าเธอคือนิกกี้ ลูกสาวของนิจศีลนั่นเอง นิกกี้แสดงตัวต่อหน้าครอบครัวจักราวุธของตนโดยไม่เกรงกลัวการวางอำนาจของนิมมานป้าใหญ่ ที่พยายามบังคับเธอในทุกเรื่อง
เรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นอีก เมื่อภาพเปลือยของแสนยากรและนิกกี้ถูกสอดอยู่ในหนังสืองานศพที่แจกในงานทุกเล่ม สร้างความอับอายให้แก่ทั้งสองตระกูลเป็นอย่างยิ่ง มีเพียงนิกกี้และเริงฤทธาเท่านั้นที่ไม่ยี่หระ กลับเห็นเป็นเรื่องเซ็กซี่ขำๆ แสนยากรรับไม่ได้กับความเป็นสาวหัวนอกของนิกกี้ และเริ่มจะเชื่อว่าเธอคือคนวางแผนเรื่องน่าอายนี้ทั้งหมด
นิมมานสอบสวนนิกกี้ว่าไปหลับนอนกับแสนยากรได้อย่างไร นิกกี้ไม่เปิดเผยความจริงที่ตนถูกทำร้าย และรับสมอ้างว่าหลับนอนกับแสนยากรจริงๆ สร้างความโกรธให้นิมมานอย่างที่สุดสั่งให้นิกกี้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านรังสฤษฎ์ โดยมีทั้งเนืองนิตย์ที่คอยดูแลนิกกี้อย่างดี แต่กับหนุ่มรูปงามอย่าง เรวัต พ่อบ้านและเลขาประจำตัวนิมมาน นิกกี้รู้สึกว่ามีเลศนัยบางอย่างซ่อนอยู่
แสนยากรยืนยันกับนิกกี้ว่าจะต้องสืบเรื่องทั้งหมดให้ได้ นิกกี้เสนอให้แสนยากรมาเป็นแฟนเธอสักเดือนหนึ่ง หลอกคนทั้งสองตระกูล เพื่อเธอและเขาจะได้เข้านอกออกในทั้งบ้านและออฟฟิศจักราวุธ และรังสฤษฎ์ได้ แสนยากรไม่ยอมเพราะเขามีคู่ใจอยู่แล้วคือ รังสิมา แต่นิกกี้ก็ยังตื๊อ และให้บอกความจริงรังสิมาไป แสนยากรไม่เล่นด้วย
นิกกี้ขออนุญาตนิมมานเปิดบ้านพักตากอากาศของจักราวุธที่หัวหิน นิมมานคิดแผนให้นิกกี้พบกับแสน และเมื่อทั้งคู่เมาหลับไป นิมมานจึงให้เรวัติจัดการจับนิกกี้และแสนแก้ผ้านอนด้วยกันและถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่าแสนข่มขืนนิกกี้ หากรังสฤษฎ์จะทำการฟ้องร้อง เริง ตอย เดียร์ และรังสิมาคิดแกล้งนิกกี้จึงจับไปปล่อยไว้ที่เกาะร้างเป็นจังหวะที่นิกกี้ถูกคนร้ายตามฆ่า และแสนตามมาช่วยนิกกี้ไว้ได้ทัน นิกกี้ล้มป่วยและได้แสนคอยดูแล นิมมานสั่งสมุนให้ซ้อมแสนอาการสาหัสและถ่ายคลิปไว้โชว์ให้กัมปนาทดูในคืนที่ทั้งคู่เต้นรำด้วยกัน และบอกว่านี่คือการแก้แค้นที่กัมปนาทเคยส่งคนมาซ้อมนิจศีลอาการปางตายที่บ้านหลังนี้เช่นกัน
และในงานเปิดตัวนิกกี้ทายาทคนเดียวของจักราวุธนิกกี้และแสนที่ตกลงจะร่วมมือกันเพื่อตามสืบคนร้ายที่คิดจะทำลายคนของสองตระกูล นิกกี้และแสนจึงประกาศตัวเป็นแฟนกันท่ามกลางแขกเหรื่อ แต่นิมมานและกัมปนาทไม่เชื่อนิกกี้จึงโน้มคอแสนมาจูบเพื่อความสมจริง ทุกคนถึงกับตกตะลึงแต่คนที่เจ็บปวดที่สุดคือรังสิมา แม้ว่าแสนยากรจะอธิบายความจริงว่าเขากับนิกกี้แกล้งคบกัน แต่รังสิมาก็ยอมรับไม่ได้ เธอเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองกลายเป็นสาวเปรี้ยวมั่นใจ และในจังหวะนี้เริงฤทธาก็ได้เข้ามาใกล้ชิดเริงปลอบโยนเธอ และทั้งสองเริ่มมีใจให้กัน
แสนยากรเริ่มกบฏกับครอบครัว เพราะเขารับไม่ได้กับเกมสกปรกที่พ่อใช้เล่นงานจักราวุธ เขาพา นิกกี้เข้ามาในที่ทำงานและที่บ้าน ท่ามกลางความไม่พอใจของกัมปนาท บันลือ และฆรณีนิกกี้สงสัยท่าทีของบันลือ เพราะเคยเห็นบันลือแอบติดต่อกับเรวัตอย่างลับๆ ล่อๆ นิกกี้แอบเข้าไปสืบค้นในห้องบันลือ บันลือจับได้ แสนยากรต้องแก้สถานการณ์ให้นิกกี้เอาตัวรอดมาได้ และในที่สุดนิกกี้และแสนยากรก็ได้รู้ว่าเรวัติและบันลือแอบมีความสัมพันธ์กันในฐานะคู่รัก
ความใกล้ชิดระหว่างแสนกับนิกกี้ ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความเปราะบางของนิกกี้ว่าโหยหาความรักจากพ่อที่ไม่เคยใกล้ชิดดูแลเธอ แสนเริ่มหวั่นไหวในตัวเองขึ้นจริงๆ แล้ว แสนยากรรู้สึกว่าวิถีชีวิตของเขาที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบเริ่มเปลี่ยนไป เขาสนุกที่ได้ไปผจญภัยกับ นิกกี้ สนุกที่ได้เห็นโดมลูกน้องคู่ใจและแป้งทะเลาะกันแต่ก็จีบกันไปตลอดทาง เขารู้สึกมีอิสระและหาความสุขกับชีวิตได้มากขึ้นเพราะนิกกี้แท้ๆ
กัมปนาทเริ่มรับรู้ถึงความสัมพันธ์อย่างลับ ๆ ระหว่างบันลือและเรวัติ กัมปนาทสั่งให้บันลือเลิกคบกับเรวัติเพราะอับอายที่มีน้องชายเป็นเกย์ แต่ทั้งคู่ยังยืนยันที่จะคบกันต่อไป กัมปนาทสั่งลูกน้องมาจัดการเรวัติอาการปางตายแต่บันลือเข้ามาห้ามเลยถูกซ้อมอาการหนักทั้งคู่ เหตุการณ์นี้ทำให้บันลือและเรวัติตัดสินใจจะอยู่กันอย่างเปิดเผยและประกาศตัวเป็นอิสระไม่เชื่อฟังคำสั่งกัมปนาทอีกต่อไป
เริงเริ่มคิดทำร้านอาหารเพื่อให้รังสิมารู้ว่าตัวเองมีความสามารถ โดยฆรณีขอร้องให้แสนยากรช่วยเหลือเรื่องเงิน แสนไม่ให้ฆรณีบอกเริงว่าเป็นเงินของตนเพราะเริงไม่ค่อยชอบแสน แต่ก็ทำท่าจะเจ๊งเพราะไม่มีแม่ครัว ในที่สุดแสนยากรจึงขอให้แป้งและโดมเข้ามาช่วยด้านอาหารและการบริหาร ร้านเริ่มจะขายดีลูกค้าเยอะขึ้น ด้านรังสิมาก็เริ่มรู้สึกดีกับเริงมากขึ้นเรื่อย ๆแสนและนิกกี้สืบเรื่องราวความรักระหว่างฆรณีและนิจศีลรวมถึงแพทริเซียแม่ของนิกกี้ ที่ดูจะมีเงื่อนงำเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นิกกี้ตามเนืองนิตย์มาที่บ้านพักปราณบุรีและได้เห็นรูปแพทริเซีย นิกกี้และเนืองนิตย์มากมาย แต่กลับไม่พบรูปนิจศีลเลยแม้แต่รูปเดียว ทำให้ทุกคนเริ่มสงสัยแต่เนืองนิตย์กลับไม่ยอมพูดอะไร และไล่ทุกคนกลับ
แสนและรังสิมาปรับความเข้าใจกันและยอมรับความรู้สึกของตนเองที่มีต่อนิกกี้และเริง ทั้งสองคนจึงเป็นอิสระจากกัน รังสิมาเริ่มเข้ามาช่วยแสนในการสืบหาความจริงเรื่องกระดุมตัว Rและก่อนที่รังสิมาจะบอกกับนิกกี้ว่าเห็นทมเป็นคนเก็บกระดุมได้ในงานศพ รังสิมาก็ถูกทมจับโยนใส่รถที่นิกกี้ขับมาอย่างเร็ว ทำให้รังสิมาอาการสาหัส สร้างความแค้นให้เริงเป็นอย่างมาก นิกกี้จึงเสมือนคนที่ถูกใส่ร้ายหาว่าหึงรังสิมาจนคิดอยากจะฆ่าเธอ
นิกกี้แอบเข้าไปค้นห้องของเนืองนิตย์เพื่อหาหลักฐานเรื่องนิจศีลกับแพทริเซียอีกครั้งแต่ถูกเนืองนิตย์จับได้และในที่สุดเนืองนิตย์ก็สารภาพความจริงว่าตัวเองเป็นพ่อที่แท้จริงของนิกกี้ ส่วนนิจศีลยอมรับสมอ้างเพื่อแก้แค้นนิมมานที่เข้ามาบงการชีวิตของทุกคน เพราะแท้จริงแล้วนิจศีลเป็นหมันไม่สามารถมีลูกได้ นิมมานเข้ามาได้ยินความจริงทั้งหมดก็เสียใจมาก
ทมพยายามจะฆ่าปิดปากรังสิมาแต่ฆรณีก็มาห้ามไว้เพราะรู้ว่ารังสิมาคือคนที่เริงรัก ทมและฆรณีเริ่มจนมุมมากขึ้นเมื่อเริงเข้ามาเห็นทั้งคู่นอนอยู่ด้วยกันบนเตียง เริงรับไม่ได้ที่แม่มีความสัมพันธ์กับคนขับรถจึงทำร้ายทมจนน่วม ในที่สุดฆรณีก็ทนไม่ได้พูดความจริงออกมาว่าทมคือพ่อของเริง เริงเสียใจมากที่รู้ความจริงจะไปบอกกัมปนาทแต่ทมก็ใช้ขวดตีหัวเริงจนหมดสติไป
ทมและฆรณีจะตามไปจัดการกับนิกกี้บังคับให้นิกกี้เขียนจดหมายลาตายและยกสมบัติให้กับเริง นิกกี้พยายามบอกความจริงเรื่องพินัยกรรมของนิจศีลและยืนยันว่านิจศีลไม่ใช่พ่อของตนและนิจศีลรักฆรณีคนเดียวตลอดมาไม่เคยแต่งงานกับผู้หญิงอื่นเลย แสนเข้ามาช่วยนิกกี้และให้ฆรณีและทมสารภาพความจริงทั้งหมด แต่จังหวะนั้นนิมมานเข้ามาเจอจะเรียกตำรวจแต่ทมและฆรณีก็จับนิกกี้เป็นตัวประกันและลักพาตัวนิกกี้ไปที่บ้านจักราวุธหัวหิน เพื่อถามความจริงเรื่องนิจศีลอีกครั้ง นิกกี้บอกสาเหตุที่นิจศีลทิ้งฆรณีไปเพราะนิจศีลรู้ว่าฆรณีทรยศท้องกับคนอื่นทั้ง ๆ ที่นิจศีลเป็นหมัน
กัมปนาทและนิมมานตามมาและให้ฆรณีสารภาพว่าท้องกับใคร ฆรณีบอกว่าท้องกับทมเพราะถูกข่มขืน เมื่อความจริงถูกเปิดเผย ทมจึงฉวยโอกาสจับนิมมานเป็นตัวประกันแต่เรวัติเข้ามาช่วยนิมมานไว้จนถูกยิงตาย ก่อนที่ทมจะหนีไปได้ท่ามกลางความเสียใจของนิมมานและบันลือที่เรวัติต้องมาตาย
นิมมานได้บทเรียนจากการสูญเสียเรวัติจึงขอร้องให้นิกกี้ยอมรับว่าเนืองนิตย์เป็นพ่อ ส่วนฆรณีได้พาเริงไปพบกับทมและขอร้องให้เริงยอมรับว่าทมคือพ่อและเรียกพ่อสักครั้ง เริงยอมรับแต่โดยดีก่อนที่จะรู้ว่ามันคือการพบกันครั้งสุดท้าย เพราะทมได้ยิงตัวตายส่วนฆรณีกินยาตาย เริงเสียใจกับการสูญเสียพ่อและแม่แต่ก็ได้รังสิมาที่คอยเป็นกำลังใจให้ตลอดมา
กัมปนาทและนิมมานได้บทเรียนจากการแก้แค้นกันนำมาแต่ความสูญเสียจึงให้เก็บอัฐิของฆรณีไว้ที่เดียวกับนิจศีล ก่อนที่ทั้งสองตระกูลตกลงสงบศึกและยุติความแค้นทั้งหมด เริงฤทธาขอบคุณแสนยากรเมื่อรู้ว่าเขาคือผู้หวังดี และออกเงินทุนร้านของเริงทั้งหมด เริงจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับรังสิมา กัมปนาทและนิมมานหันมาปรองดองกัน และทำท่าว่าจะเริ่มโครงการใหม่ๆ ร่วมกัน
แสนยากรและนิกกี้กลับไปเล่นสงกรานต์ที่ข้าวสารในปีต่อมาอย่างแสนสุข ......
พูดคุยเกี่ยวกับละครในเว็บบอร์ด
Read more »

 
Powered by MBA