วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

น่ารัก ๆ




Read more »

เรื่องย่อหนัง แฟนลั้ลลา


คุน (จตุรงค์) จะแต่งงานกับ บุษบา (โบวี่) วันที่จะไปรับชุดแต่งงาน คุนถูกจับข้อหาเป็นฆาตกรฆ่านักการเมือง จากกเจ้าบ่าวคุน เลยกลายเป็น นช.คุน แทน เจ้าพ่อดม (อุดม ชวนชื่น) กับ ลูกแจ๊ส (แจ๊ส ชวนชื่น) ผู้มีอิทธิพลนอกคุกตามราวี นช.คุน เพราะคิดว่า นช.คุนเก็บคลิปเอาไว้ ถึงขนาดสั่งย้าย นช.คุน ให้ไปอยู่แดน 8E88(แดนประหาร) เพื่อต้องการกดดันให้นช.คุน ส่งคลิปคืน แต่นช.คุน ไม่รู้เรื่อง สองพ่อลูกจึงขู่ฆ่าบุษบา

ส้ม (มารี เออเจนี) ลูกนักการเมืองที่ถูก นช.คุน ฆ่าต้องการตลิปเพื่อเปิดโปงคนร้ายตัวจริง จึงให้บอส (บอส จักรพันธ์) เพื่อนชายคนสนิท เข้าไปในคุก เพื่อไปตีสนิทกับ นช.คุน เพราะคิดว่า นช.คุน ต้องรู้เรื่องคลิป ปฏิบัติการแหกคุกเพื่อหาคลิปจึงได้เริ่มต้นขึ้น
ชื่อไทย แฟนลั้ลลา
ประเภทหนัง Comedy
ผู้กำกับ วิโรจน์ ทองชิว
ผู้แต่ง -
วันที่เข้าฉาย 17 June 2010
ความยาวหนัง -
นักแสดง โบวี่ – อัฐมา ชีวนิชพันธ์, จาตุรงค์ ม๊กจ๊ก, โน้ต เชิญยิ้ม, อุดม ชวนชื่น, แจ๊ส ชวน
Read more »

สวยเลิศเชิดโสด


ขวัญอุมา ไชยเจริญสุข นางแบบสาวสวยไฮโซที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองไทยและยังเป็นทายาทของ SUNSHINE AIRLINE บริษัทธุรกิจการบินภายในประเทศลำดับต้นๆ
ขวัญต้องมาอยู่กับ คุณพรพรรณ ผู้เป็นมารดาเพียงลำพังเผื่อที่จะมาดูแลอาการป่วยตอมใจของมารดาซึ่งป่วยตรอมใจเนื่องจาก คุณเอกสามีของเธอเสียชีวิตลงจึ่งมีแต่ จันทรา ซึ่งเป็นน้องสาวของเธอเป็นผู้ดุแลเท่านั้น ขวัญอุมาจึงดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการของสายการบินแต่เป็นเพียงในนามเท่านั้นเพราะในชีวิตจริงมี อาอมร น้องชายของพ่อดูแลกิจการแทนโดยมี วรวิทย์ และ ยลดา บุตรของอมรเป็นผู้ช่วยเท่านั้นเรื่องเกิดจากที่ขวัญอุมาไปถ่ายแบบให้กับนิตยสารชื่อดังฉบับหนึ่งที่ภูเก็ต

โดยมี คณิต กับ ภิรมย์สองหนุ่มไฮโซรวยล้นฟ้าแต่ปัญญาไม่ค่อยมีที่ต่างก็หลงใหลในตัวขวัญอุมาก็ได้ซื้อหมาชื่อชินดี้พร้อมปลอกคอเพชรหวังจะมักใจสาวขวัญอุมาแต่เจ้าหล่อนดันทำหมาหายในกองจึงเกิดเรื่องวุ่นๆขึ้นในกองถ่ายขวัญอุมาตามหาเจ้าชินดี้ไปพบในเรือสำราญที่กำลังจะล่องทะเลโดยมีธนพอินทีเรียดีไซน์ที่ยืมเรือของลูกค้ามาล่องแบบชิลด์ๆแต่กลับเป็นเรือนรกแตกเมื่อขวัญอุมาคิดว่าธนพเป็นโจรลักพาตัวขวัญอุมาจึงตีหัวธนพตกน้ำแต่ก็โดนธนพเล่นงานกลับโดยการมัดตัวเธอติดกับกระโดงเรือให้แดดเผาขวัญจึงคาดหัวธนพว่าจะเป็นศัตรูกับธนพไปตลอดชีวิตซึ่งธนพก็มีอีกอาชีพซึ่งเป็นพ่อครัวหัวป่าให้กับร้านอาหารโอชารสมีมารดาชื่อ นางพรรณีและมีน้องชายและน้องสาวชื่อ วีรเทพ และโสภาและยังมี ต้อยติ่งเป็นพนักงานจอมป่วนของร้าน

วีรเทพมีแฟนชื่อยลดาและวีรเทพจึงใช้ยลดาไตร่เต้าเป็นผู้บริหารในสายการบิน ธนพมีแฟนชื่อ พิมพ์มณีซึ่งเป็นเพื่อนกับโสภามีแม่ซึ่งชอบเล่นการพนันเป็นชีวิตจิตรใจจึงทำให้พิมพ์มณีต้องหาเงินมาให้มารดาของตัวเองเป็นการตอบแทนเพราะความกตัญญูชีวิตของพิมพ์มณีแตกต่างกับขวัญอุมามากวันหนึ่งขวัญเริ่มเบื่อกับการใช้ชีวิตที่ไร้สาระของเธอจึงอยากจะทำธุรกิจขึ้นมาสักอย่างจนมาลงตัวที่ร้านกาแฟและหมายหมั่นว่าจะทำให้เป็นร้านชื่อดัง คณิตบอกกับขวัญว่าควรจะจ้างอินทรีเรียดีไซน์มาตกแต่งร้านให้ ธนพกับขวัญอุมาต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งเรื่องวุ่นๆจึงเกิดขึ้นในระยะเวลา2เดือนทั้งคุ่จึงเรื่มไม่แน่ใจในความรู้สึกตัวเองจึงปฎิเสธความรู้สึกด้วยท่าทีไม่ถูกกันตลอกเวลาระหว่างนั้นพิมพ์มณีกำลังเดือดร้อนเนื่องจากที่นางตรึงใจติดหนี้ถึง 5 แสนบาท

จึงมีเจ้าหนี้มาถ่วงหนี้พิมพ์มณีไม่รู้จะทำไงก็ได้แต่ร้องไห้ขวัญอุมาใจดีให้เธอยืมเงินใช้หนี้ไปก่อนความรู้สึกที่พิมพ์มณีมีต่อขวัญอุมาจึงเปลี่ยนไป ในที่สุดร้านกาแฟก็เสร็จสิ้น พิมพ์มณีต้องประสบเคราะห์กรรมเป็นครั้งที่สองเมื่อต้องหาเงินก้อนโตให้มารดาใช้หนี้ไม่อย่างนั้นบ้านจะถูกยึดพิมพ์มณีจึงตัดสินใจที่จะถ่ายเปลือยพอภาพถ่ายออกมาธนพโกรธเธอมากจึงคิดว่าพิมพ์มณีไม่เหมะสมกับเขาและระหว่างนั้นมีคนคิดร้ายหวังจะยึดสมบัติของขวัญอุมาว รวิทย์กำลังวางแผนที่จะขยายสายการบินและเอาเรื่องนี้ไปเสนอให้กับพรพรรณเธอปฎิเสธงานนี้เพราะว่าสายการบินจะเหมือนครั้งก่อนที่พ่อของขวัญอุมาเคยทำเกือบจะล้มละลายเลยทำให้วรวิทย์โกรธมากจึงวางแผนให้อมรรวบรัดจันทราทำเมียแล้วให้จันทรา เซนต์ยกหุ้นให้กับวรวิทย์ วรวิทย์ก็กลายเป็นเจ้าของบริษัทโดยทันที จันทราหัวใจแทบสลายเมื่อรู้ว่าโดนหลอกใช้คุณพรพรรณถึงกับซ็อกและเสียชีวิตในเวลาต่อมาแต่

ขวัญอุมาก็มาเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลถึงกับหมดสติเมื่อเห็นสภาพแม่ของตัวเองจนเมื่อฟื้นขึ้นมาขวัญอุมาไม่สามรถจำเหตุการณ์ต่างๆได้เลย ธนพจึงประกาศว่าขวัญมณีเป็นคนรักของเธอต่อหน้านักข่าวและจันทราโดยไม่ได้หวังอะไรในตัวเธอ จันทรารู้สึกโล่งใจมากที่ขวัญอุมาได้เป็นฝั่งเป็นฝากับคนดีๆในระหว่างอยู่โรงพยาบาลธนพก็ดูแลเธอเป็นอย่างดีขวัญอุมาก็ขออนุญาตหมอและธนพมาร่วมงานสพของมารดาเธอไม่มีน้ำตาสักหยดจากเธอเพราะเธอจำอะไรไม่ได้จิงๆมีเพียงความผูกพันเท่านั้นที่ทำให้เธอรู้สึกใจหายเมื่อมองดูรูปถ่ายของมารดาในงานขวัญอุมาก็หนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปอยู่กับพิมพ์มณีเพื่อที่อยากให้ความทรงจำของเธอกลับคืนมา ธนพ ก็ออกตามหาขวัญมณีจนเจอวีรเทพยอมรับว่าตลอดมาเขาเป็นคนเลวคนหนึ่งที่หลอกยลดามาตลอดเขาจึงยื่นใบลาออกเพราะเขารู้หัวใจตัวเองและต้องการให้ยลดายกโทษและให้อภัยเขา พิมพ์มณีจึงนึกแผนการอะไรบ้างอย่างออกจึงไปยั่วยวนมอมเมาจนวรวิทย์ขาดสติ เซ็นเอกสารยกหุ้นคืนให้แก่ขวัญอุมาบัดนี้เธอได้ตอบแทนบุญคุณทุกอย่างให้แก่ธนพและขวัญอุมาเพื่อนรักที่มีน้ำใจมหาศาลให้กับเธอ

วันรุ่งขึ้นขวัญอุมากลับเข้าไปทำงานในตำแหน่งประธานบริษัท SUNSHINE AIRLINE อย่างเต็มภาคภูมิ เธอไล่วรวิทย์ออกในทันที เขาบ้าคลั่งและอาละวาดขู่จะจัดการทั้งเธอและพิมพ์มณีทันทีที่มีโอกาสและวรวิทย์กะจะมาฆ่าจันทราแต่ธนพมาเห็นก่อนจึงเข้าไปช่วยแล้วก็โดน วรวิทย์แทง วรวิทย์หนี้ไปได้ธนพถุกส่งตัวเข้าโรงพยาบาล จันทราจึงเล่าทุกอย่างให้ทุกคนฟัง แต่วรวิทย์ก็ยังคงดำเนินแผนการชั่วต่อไปโดยไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรมเขาจับตัวขวัญอุมาและพิมพ์มณีไปเผื่อแก้แค้นเขาพาทั้งคู่ไปขังไว้โดยหวังว่าจะให้ทั้งคู่อดตายวีรเทพจึงไปถามยลดาว่าวรวิทย์มีบ้านพักที่ไหนบ้างจนวีรเทพและธนพจึงตามตัวพบ ตำรวจจับตัววรวิทย์ส่วนสองสาวถุกพาส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆผ่านพ้นไปจันทราอาการดีขึ้น

และอมรก็ยื่นใบลาออกจากสายการบิน และขอโทษขวัยอุมาและจันทราแทนลูกชายตัวเอง นางตรึงใจกลับตัวเป็นคนดีและไปบวชเป็นชีพราหมณ์ และวีรเทพก็ได้บอกรักกับพิมพ์มณีและสัญญาว่าจะเป็นคนรักที่ดีของพิมพ์มณีและเป็นน้องชายที่ดีของพี่ชายอย่างธนพ ขวัญอุมาตัดสินใจจ้างผู้บริหารมืออาชืพมาช่วยบริหารโดยที่เธอยังคงถือหุ้นใหญ่และมีน้าจันทราคอยช่วยดุแลด้านการบริหารเพราะยังไงงานบริหารธุรกิจก้ไม่ใช่สิ่งที่เธอถนัดขวัญอุมากลับไปในสิ่งที่เธอรักนั่นคือร้านกาแฟที่เธอสร้างขึ้นมากับมือขวัญอุมามีความสุขที่ได้อยู่ในร้านกาแฟเล็กๆแต่อบอุ่น และรับงานเดินแบบบ้างในบางครั้ง ขวัญอุมาสาวขี้วีนคนเก่าไม่มีภาพนั้นอีกแล้วในวันนี้เธอคือขวัญอุมาสาวสวยที่น่ารัก อ่อนหวาน มีจิตใจโอบอ้อมอารีและเป็นที่รักของทุกๆคนและเธอก็กำลังจะเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของธนพผู้ชายในวันนี้ที่เธอแน่ใจว่าความรักที่มีให้แก่กันมันมากพอที่จะนำทางชีวิตให้อยู่คู่กันไปในอนาคตตราบนานเท่านาน




บทประพันธ์ :
บทโทรทัศน์ : -
กำกับการแสดง : ภวัต พนังคศิริ
ออกอากาศทุกวัน : จันทร์ - อังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

นักแสดง
รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รับบท ธนพ ลูกคนโตของนางพรรณี ชายหนุ่มหน้าตาดี นักอินทีเรียดีไซน์เนอร์ ลูกเจ้าของร้านอาหารโอชารส ทำงานทุกอย่างในร้านไม่ว่าจะเป็นคนส่งของ พ่อครัว รับรถ อยู่ใกล้ชิดแม่มากที่สุดตั้งแต่พ่อตายตอนเด็กๆ นิสัยค่อนข้างยียวนกวนประสาท ธนพไม่เคยยอมให้กับขวัญอุมาเลย แต่เขาก็เป็นคนมีความรับผิดชอบ และมีความเอาจริงเอาจังกับงาน เป็นตัวของตัวเองสูง เพราะต้องเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวหลังจากที่พ่อได้ฝากฝังเอาไว้ก่อนตาย


เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ รับบท ขวัญอุมา นางแบบสาวสวย ทายาทสกุลไชยเจริญสุข ร่ำรวย หยิ่ง เจ้าอารมณ์ เรื่องมาก ไม่ชอบสุงสิงกับพวกนางแบบด้วยกัน เป็นประธานบริษัทแต่ไม่ชอบทำงานบริษัท ถือคติร้ายมาร้ายไป แรงมาแรงไป ด้วยความที่มักจะถูกดูหมิ่นว่าเอาแต่สวยอย่างเดียว เธอจึงมีความมานะพยายามที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ความสวยที่มีมากล้นของเธอยังน้อยเกินไปกับความฉลาดและเป็นเวิร์คกิ้งเกิร์ล (แต่เธอมักจะทำไม่ค่อยได้อยู่เสมอๆ)


พศุตม์ บานแย้ม รับบท วีรเทพ น้องชายของธนพ ทำงานเป็นสจ๊วตสายการบินของขวัญอุมา ทำตัวเป็นเพลย์บอยเปลี่ยนผู้หญิงไปวันๆ จนทำให้มีปัญหาไม่ลงรอยกับพี่ชายเสมอ เพราะไม่อยากเห็นน้องชายใช้ผู้หญิงเป็นบันไดไต่เต้าเพราะความทะเยอทะยานจมไม่ลง แต่เมื่อได้คบหากับพิมพ์มณีที่ชีวิตมีแต่ความน่าสงสาร วีรเทพก็เริ่มปรับปรุงตัวเองเพื่อจะได้เป็นคนดีสำหรับพี่และพิมพ์มณี


ซาร่า เล็กจ์ รับบท พิมพ์มณี นางแบบสาวสวย เพื่อนสนิทของโสภาน้องสาวของธนพ คบหากับธนพมาตั้งแต่สมัยเรียน บุคลิกเรียบร้อยมองโลกในแง่ดี แต่ชีวิตค่อนข้างอาภัพเพราะมีแม่ที่ติดการพนัน ทำให้เธอต้องคอยหาเงินใช้หนี้ให้แม่ทุกวิถีทาง จนชีวิตเกือบจะก้าวพลาดอยู่บ่อยๆ โชคดีที่ได้ขวัญอุมามาช่วยฉุดรั้งและคอยช่วยเหลือ จนกลายเป็นเพื่อนรักกับขวัญอุมาในที่สุด


โชติกา วงศ์วิลาส รับบท ยลดา น้องสาวของวรวิทย์ ชอบทำงาน คล่องแคล่ว หลงรักวีรเทพอย่างหัวปักหัวปำ เพราะเป็นรักครั้งแรกตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ทุ่มเททุกอย่างเพื่อวีรเทพ ให้ทั้งเงินทองและหน้าที่การงาน เพื่อหวังให้วีรเทพพอใจ แต่สุดท้ายก็อกหักเมื่อเขาไม่เคยรักเธอเลย


มณีรัตน์ คำอ้วน รับบท โสภา น้องคนเล็กของธนพ อยากเป็นนางแบบหรือดารา ชอบจุ้นจ้านกับชีวิตของพี่ชายโดยเฉพาะกับเรื่องสาวๆ ของพี่ชาย ส่วนใหญ่จะสนิทกับธนพ ไม่ค่อยสนิทกับวีรเทพ


โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว รับบท วรวิทย์ ลูกพี่ลูกน้องญาติของขวัญอุมา เจ้าเล่ห์ เจ้าชู้ ชอบวางแผนการ จิตใจเหี้ยมโหด สนใจแต่เรื่องเงิน เมื่ออยากได้อะไรแล้วต้องได้ทุกอย่างมาเป็นของตัวเองโดยไม่สนใจว่าสิ่งนั้นจะถูกหรือผิด


เนาวรัตน์ ยุกตะนันทน์ รับบท พรรณี แม่ของธนพ เป็นม่ายเจ้าของร้านโอชารส อารณ์ดีไม่ค่อยเครียด เพราะอยากให้ลูกๆ มีความสุข เวลาที่มีเรื่องไม่สบายใจจึงไม่แสดงออกให้ลูกๆ เห็น มักจะเข้ามาห้ามปรามไม่ให้ธนพกับวีรเทพทะเลาะกัน และคอยเป็นกำลังให้ลูกๆ เมื่อยามที่ลูกๆ มีปัญหา


สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตต์ รับบท วิลาวัลย์ นางแบบสาวสวยเซ็ก ขี้อิจฉา คู่ปรับขาประจำกับขวัญอุมา ชอบเอาเรื่องของขวัญอุมาไปเม้าท์ในทางเสียๆ หายๆ หาเรื่องเล่นงานขวัญอุมาตลอด และร่วมมือกับวรวิทย์ในการเล่นงานขวัญอุมา เพราะเธอเป็นคู่ขาของวรวิทย์


ธงธง มกจ๊ก รับบท ต้อยติ่ง พนักงานประจำร้าน แต๋วแหวว ชอบกัดจิกธนพว่าเป็นคนรักของตัวเองอยู่เสมอ สร้างสีสรรในร้านได้เป็นอย่างดี เข้าขาเป็นประจำกับโสภา ขัดแย้งกับพรรณีเป็นประจำ แต่ไม่โดนไล่ออกเพราะอยู่มานาน


รัชนี ศิระเลิศ รับบท พรพรรณ แม่ของขวัญอุมา ร่างกายอ่อนแอเพราะตรอมใจหลังจากที่เสียสามีไป จนต้องอยู่ในการดูแลของจันทรา เธอเฝ้าหวังว่าสักวันจะได้เห็นลูกสาวโตเป็นผู้ใหญ่ สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองอย่างเข้มแข็ง แต่เมื่อวันนั้นมาถึง เธอกลับไม่ได้เห็น


โชติรส แก้วพินิจ รับบท จันทรา น้องสาวคุณพรพรรณ เรียบร้อย หัวอ่อน อยู่เป็นพยาบาลและคอยดูแลคุณพรพรรณและขวัญอุมาเสมอๆ อยู่ในโลกแคบๆ แค่ที่บ้านเท่านั้น เลยทำให้ไม่ทันความร้ายกาจของวรวิทย์และอมร จนทำให้หลงคิดไปว่าอมรรักเธอ จนยอมแต่งงานกับอมร


วรรณวิภา โยคะกุล รับบท ตรึงใจ แม่ของพิมพ์มณี ติดการพนันจนถอนตัวไม่ขึ้น และใจแคบ รีดไถเอาทุกอย่างจากลูก จนเมื่อลูกสาวต้องเจ็บปวด เธอจึงเริ่มหันกลับมาสงสารลูก และพยายามทำตัวเป็นแม่ที่ดีเพื่อลูก


ศุกล พงศทัต รับบท อมร น้องชายของคุณเอก พ่อของขวัญอุมา รักลูกยอมตามใจลูกทุกอย่าง เห็นแก่เงินและต้องการครอบครองสายการบินมาเป็นของตัวเอง จึงร่วมมือกับลูกหลอกจันทราให้หลงรัก แล้วใช้จันทราเป็นเครื่องมือ


บริบูรณ์ จันทร์เรือง รับบท คณิต เศรษฐีหนุ่มไฮโซ ลูกนายทหารใหญ่ พ่อแม่ตายทิ้งมรดกไว้เต็ม รวยอย่างเดียวสมองไม่ค่อยมี รักและเทิดทูนขวัญอุมาจนทำได้ทุกอย่างขอให้น้องขวัญสั่ง


บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ รับบท ภิรมย์ หนุ่มนักธุรกิจพ่อรวยมหาศาล เล่นหุ้นเป็นอาชีพ คู่ปรับคนสำคัญของคณิตที่เจอกันไม่ได้เป็นต้อง บลัฟกันเรื่องความรวยเพื่อเอาใจขวัญอุมา แต่สุดท้ายก็กินแห้วด้วยกันทั้งคู่ จนต้องหันมาปลอบใจกันเองและมองหน้ากันปริบๆ เริ่มสงสัยในกันเองหรือว่า...เราจะเป็นเกย์
Read more »

วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

[เรื่องย่อ]แวมไพร์ทไวไลท์ภาค 3 twilight saga: eclipse


[เรื่องย่อ]แวมไพร์ทไวไลท์ภาค 3 twilight saga: eclipse

หลังจากครอบครัวคัลเลนย้ายกลับมาอยู่ที่ฟอร์ก และความสัมพันธ์ของเบลล่ากับเอ็ดเวิร์ดกลับเหมือนเดิมพร้อม ๆ กับมิตรภาพที่ขาดหายไปของเจคอบ ซึ่งดูจะไม่เป็นที่พอใจของชาร์ลีเท่าไหร่นัก (เพราะรับไม่ได้กับสภาพของลูกสาวที่ต้องทรมานหลังจากที่เอ็ดเวิร์ดทิ้ง ไป) เบลล่าดูเหมือนจะกระวนกระวายใจไม่น้อยกับการขาดการติดต่อของเจคอบ แต่ก็ไม่อาจจะทำร้ายน้ำใจของเอ็ดเวิร์ดได้ (ประมาณว่าเลือกเอ็ดเวิร์ด แต่ก็ยังคิดถึงเจคอบ)

อลิซมองเห็นการกลับมาของวิคตอเรีย(หลังจากที่วิคตอเรียพยายามจะเข้าใกล้ เบลล่า แต่ก็ได้รับการปกป้องจากเหล่ามนุษย์หมาป่า) บวกกับเหตุฆาตกรรมหมู่ที่ซีแอตเติล , กลิ่นแปลกปลอมที่อยู่ในห้องเบลล่าและแจ็คเก็ตของเบลล่าที่หายไป การปกป้องเบลล่าเกิดขึ้นอีกครั้งจากอันตรายทั้งหลาย ซึ่งทุกคนลงความเห็นว่าน่าจะเป็นแวมไพร์เกิดใหม่ที่ ซึ่งใครล่ะที่ทำเรื่องพวกนี้ขึ้นมา ? และแน่นอนกลุ่มโวตูรีจะเข้ามาจัดการกับเหตุการณ์นี้และนั่นก็หมายถึงการที่ กลุ่มโวตูรีอ้างว่าแวะมาเยี่ยมครอบครัวคัลเลน แต่นั้นเบลล่าก็รู้ว่ามาเพื่อดูว่าเธอได้แปลงสภาพเป็นอมตะหรือยัง ความสยด สยองต้องเกิดขึ้นแน่หากกลุ่มโวตูรีมาที่ฟอร์ก การตายของพลเมืองฟอร์ก นั้นก็อาจจะรวมถึงชาร์ลีและเหล่าเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน ไหนจะรวมถึงเจคอบและเหล่ามนุษย์หมาป่าเพื่อนรักของเธออีกล่ะ

ทุกครั้งที่เอ็ดเวิร์ดออกไปล่าสัตว์ อลิซจะอยู่กับเบลล่าเสมอ (เอ็ดเวิร์ดติดสินบนรถสปอร์ดหนึ่งคัน อิจฉาค่ะ) แต่อลิซเองมักจะมีปัญหากับการมองเห็นหากมนุษย์หมาป่าอยู่ใกล้เบลล่า นั่นก็เป็นสิ่งที่เบลล่าพอใจอย่างยิ่งที่จะสามารถหนีเที่ยวกับเจคอบได้ ….เอ็ดเวิร์ดกับเจคอบก็ยอมรับแล้วว่าในใจเบลล่าไม่สามารถขาดใครคนใดคนหนึ่ง ได้ (ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเกิดจากความผิดที่เคยทิ้งเบลล่าไป ส่วนเจคอบก็พร้อมใจที่จะสู้อีกครั้งและพิสูจน์ให้เห็นว่าลึก ๆ แล้วเบลล่าก็หลงรักเขาเหมือนกัน)

การวางแผนปกป้องเบลล่าเกิดขึ้นเมื่อ อลิซมองเห็นการเดินทางมายังฟอร์ก ของแวมไพร์เกิดใหม่ ซึ่งเมื่อดูเหมือนจะสิ้นหวังในตอนแรกเพราะจำนวนของแวมไพร์เกิดใหม่มากกว่า แต่ปัญหาก็คลี่คลายไปเมื่อเหล่ามนุษย์หมาป่าพร้อมใจสู้รบร่วมกับแวมไพร์ เพื่อปกป้องเบลล่าและพลเมืองฟอร์ก......แจสเปอร์เริ่มสอนวิธีการรบกับแวม ไพร์เกิดใหม่ให้กับครอบครัวคัลเลนและเหล่าหมาป่า แน่นอนในอนาคตอาจจะไม่ดีนัก ถ้าเหล่าหมาป่าได้รู้จุดอ่อนของแวมไพร์ หากทั้งสองเผ่าพันธุ์จะต้องสู้กันขึ้นมา....

ก่อนการสู้รบจะเกิดขึ้น 1 วัน เบลล่าได้ขอร้องเอ็ดเวิร์ดและเจคอบ ให้อยู่ข้างกาย (รับไม่ได้ที่จะเห็นทั้งเจคอบและเอ็ดเวิร์ดต้องเป็นอะไรไป ถึงคำขอจะดูเหมือนการเห็นแก่ตัวก็ยอม) การปักหลัก ณ ที่ซ่อนตัวเบลล่านั้น นำมาซึ่งความทุกข์ใจแก่ทุกฝ่าย เอ็ดเวิร์ดไม่สามารถให้ความอบอุ่นกับเบลล่าได้ อุณภูมิที่หนาวเหน็บเช่นนี้นอกจากเจคอบเท่านั้นที่ทำได้ ส่วนเบลล่าเองก็ไม่อยากจะทำร้ายเอ็ดเวิร์ด แต่ด้วยสภาพร่างกายแล้วนั้นคือความจำเป็นแต่ในส่วนลึก ๆ เบลล่าก็ออกจะพอใจเช่นกัน.....การนอนละเมอ “เจคอบของฉัน” ของเบลล่ายังความพอใจมาให้เจคอบเป็นที่สุด เพราะนั้นหมายถึงว่าในใจลึก ๆ ที่เบลล่าปฎิเสธตลอดนั้นคือความจริง ......เอ็ดเวิร์ดและเจคอบเกิดการต่อสู้กันหลังออกตามเจคอบให้เบลล่า หลังจากที่เจคอบได้รับรู้ถึงข้อตกลงการแต่งงานของเบลล่าทันทีหลังเรียนจบ (เอ็ดเวิร์ดจงใจให้เจคอบได้ยินและรู้สึกผิดที่เห็นเบลล่าเสียใจ).....การ กลับมาของเจคอบและจูบแรก (ที่เบลล่าเป็นคนขอ) พร้อมกับขอคำสัญญาว่าเขาต้องกลับมาหาเธออย่างปลอดภัยก่อนที่เจคอบจะออกไปสู้ รบอีกครั้งในไม่กี่นาทีข้างหน้า

ฟากนึงคือการสู้รบกับเหล่าแวมไพร์เกิดใหม่ของครอบครัวคัลเลนและเหล่าหมา ป่า อีกฟากนึงเป็นการเผชิญหน้ากับวิคตอเรียที่มาพร้อมกับคู่รักคนใหม่ และเอ็ดเวิร์ดกับเซทธ์ หมาป่าผ่าเหล่าผู้ที่รักในตัวเอ็ดเวิร์ด เหตุการณ์นี้ได้นำมาซึ่งความกระจ่างชัดแล้วว่าแผนการทั้งหมดวิคตอเรียอยู่ เบื้องหลัง การสร้างและหลอกใช้แวมไพร์เกิดใหม่ การต่อสู้จบลงด้วยชัยชนะ แต่ที่ทำให้เบลล่าช็อกคือการได้รับข่าวร้ายเกี่ยวกับเจคอบ การต่อสู้เกิดผิดพลาด การรับเคราะห์แทนลีอาร์หมาป่าสาวคนเดียวในทีม นั่นทำให้เบลล่ารู้ใจตัวเอง และเจคอบพูดถูกทุกอย่าง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นการแต่งงานที่กำหลังจะเกิดขึ้นระหว่างเธอกับเอ็ดเวิร์ด การแปลงสภาพเป็นอมตะหลังจากนั้น การต่อสู้อาจจะเกิดขึ้นระหว่างครอบครัวคัลเลนและเหล่าหมาป่า กับการละเมิดข้อตกลง (ข้อตกลงว่าห้ามครอบครัวคัลเลนเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นแวมไพร์ ซึ่งนั้นก็รวมถึงเบลล่า) .......... เป็นไปดังที่คาดการณ์ไว้ เหล่าวูโตรีได้เดินทางเพื่อมาจัดการกับแวมไพร์เกิดใหม่ ซึ่งนำทีมโดย เจน เด็กน้อยแสนสวยที่แฝงไว้ด้วยความอำมหิตกับพรสวรรค์การสร้างความเจ็บปวด (เจน ไม่ชอบเบลล่านักเนื่องจากเธอไม่สามารถใช้พรสวรรค์ที่มีอยู่จัดการกับเบลล่า ได้ ) ดูเหมือน เจน ที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เมื่อเห็นการจัดการแวมไพร์เกิดใหม่ที่มีจำนวนมากกว่าของครอบครัวคัลเลนหลาย เท่า แน่ล่ะ! นั้นสร้างแปลกใจและระแวงถึงความสามารถของครอบครัวคัลเลนไม่น้อย และแน่นอนเรื่องนี้ก็ต้องได้รับการถ่ายทอดสู่เหล่าผู้คุมกฎโวตูรี โศกนาฎกรรมของครอบครัวคัลเลนอาจจะเกิดขึ้นในไม่ช้า เหล่าโวตูรีต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อไม่ให้อำนาจถูกสั่นคลอน เมื่อถึงเวลานั้นเบลล่าอาจจะแปรสภาพเป็นอมตะไปแล้ว หรือไม่ก็ย้ายไปจากฟอร์ก กลุ่มโวตูรีจะเอาข้ออ้างใดมากล่าวหาเพื่อจะเล่นงานครอบครัวคัลเลนได้ล่ะ ?

การบาดเจ็บในครั้งนี้ของเจคอบ สร้างความซึ้งซาบใจและลบล้างอคติของเหล่ามนุษย์หมาป่า และบิลลี่ พ่อของเจคอบ ที่มีต่อครอบครัวคัลเลน ตลอดจนชาร์ลีก็มีความรู้สึกดีเอ็ดเวิร์ดมากขึ้น.....หลังจากเหตุการณ์ครั้ง นี้จบลง เอ็ดเวิร์ดตัดสินใจเขียนจดหมายขอบคุณกับสิ่งที่ผ่านมา แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการแต่งงานและการแปลงสภาพเป็นอมตะของเบลล่าได้แต่ อย่างใด เจคอบเสียใจและรับไม่ได้ และตัดสินใจออกวิ่งไปในสภาพหมาป่าและอาจจะไม่คิดจะแปลงร่างกลับเป็นมนุษย์ อีกเลย เพื่อหลีกหนีความรู้สึกเจ็บปวดของมนุษย์.....กาลเวลาเท่านั้นที่จะสามารถ เยียวยาเจคอบได้...
Read more »

รักในม่านเมฆ


หลังจาก ภาดา อภิรักษ์ภูบาล (ธนพล นิ่มทัยสุข )จบการศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกาก็ได้เดินทางกลับประเทศไทยพร้อม โฉมพิไล (ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์)ภรรยาสาวสวย

ที่แต่งงานกัน ณ กรุงวอชิงตัน ซึ่ง คุณอัมพร มารดาของภาดาที่รู้สึกว่าลูกชายของเธอทำสิ่งนี้ไม่ถูกต้องยิ่งโดยเฉพาะไม่บอกกล่าวให้เธอรู้ก่อน แต่ด้วยความสวยงามของโฉมพิไลบวกกับพื้นฐานครอบครัวเป็นผู้ดีเก่าที่มีฐานะร่ำรวยทำให้คุณอัมพรยอมรับลูกสะใภ้คนนี้ได้ทันทีและเต็มใจมาก ซึ่งต่างจาก อำนาจ (ตระการ พันธุมเลิศรุจี ) น้องชายของคุณอัมพรที่กลับไม่พอใจและท้วงติงคุณอัมพรในเรื่องที่ภาดามีพันธะแล้ว ตามข้อตกลงของ ภูบาล (ตฤณ เศรษฐโชค)บิดาของภาดาที่เสียชีวิตไปแล้ว กับ นายวิน ศิรวิทย์ เพื่อนสนิทของภูบาล และเป็นบิดาของ วาลิกา หรือ น้องทราย ( พีชยา วัฒนามนตรี)ซึ่งพันธะนั้น เกิดจากเงินจำนวนสิบล้านบาทที่นายวินให้ภูบาลมาลงทุนทางธุรกิจที่ขาดทุนย่อยยับ ทำให้ภูบาลไม่สามารถใช้หนี้คืนได้ แต่นายวินกลับยกหนี้ให้โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าภาดาจะต้องแต่งงานกับน้องทรายซึ่งคุณอัมพรยอมรับเงื่อนไขนี้ไม่ได้ เพราะถึงแม้นายวินจะร่ำรวยถึงขั้นเศรษฐีก็ตาม แต่ก็เป็นเศรษฐีบ้านนอก ไม่มีสกุล ไม่คู่ควรกับกับสกุลเก่าแก่อย่างอภิรักษ์ภูบาล หนำซ้ำยังมีลูกสาวเป็นง่อยโปลิโออีกด้วย คุณอัมพรจึงพยายามหลีกเลี่ยงเงื่อนไขนี้มาตลอดหลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตไปแล้ว อีกทั้งพยายามที่จะไม่ยอมชดใช้หนี้สินอีกด้วย เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ภาดาไม่เคยรู้เรื่องเลยและคุณอัมพรก็มีเจตนาปิดบัง เพราะตั้งแต่นายภูบาลเสียชีวิตไปร่วมสิบกว่าปีนั้นนายวินไม่เคยมาทวงสัญญานี้เลยคุณอัมพรจึงนิ่งเฉยเสีย จนวันหนึ่งนายวินส่งข่าวว่าจะมาพบคุณอัมพรในสัปดาห์ที่จะมาถึงคุณอัมพรจึงจำเป็นต้องบอกภาดาทั้งเรื่องหนี้สินและเรื่องแต่งงานกับน้องทราย ภาดาจำน้องทรายได้ทันทีพร้อมกับมีใบหน้าอ่อนโยนเมื่อคิดถึงเด็กหญิงรูปร่างบอบบาง นัยน์ตาโศกที่เปล่งประกายระยิบระยับเมื่อพบเขา เพราะน้องทรายถือเขาเป็นพี่ชายใจดีมีเมตตาต่อเธอในทุกๆ เรื่อง น้องทรายยอมรับว่าเธอมีโลกแคบเพียงแค่รถเข็นหนึ่งคันที่พาเธอไปได้เพียงแค่อาณาเขตของบ้านบิดาเธอเท่านั้น

ความจริงแล้วน้องทรายเป็นโปลิโอมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบ ซึ่งนับจากวันนั้นมาเธอก็มีชีวิตที่เงียบเหงาอยู่กับบิดาและพี่เลี้ยงชื่อ แจ่ม ที่รักเธอยิ่งกว่าชีวิตของตนเองยิ่งนัก กับพี่ชายที่มากับลุงภูบาลเพื่อเยี่ยมบิดาและตัวเธอที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งพี่ชายคือผู้เปิดโลกกว้างให้เธอเห็นด้วยสีหน้าที่อ่อนโยนและแววตาอบอุ่นของเขานี้เองที่ทำให้ชีวิตของเธอกลับสดใสมีชีวิตชีวาพร้อมต่อสู้ต่อไป

และแล้วนายวินก็ได้มาพบกับคุณอัมพรและภาดาตามที่ได้นัดไว้แล้ว โดยคุณอัมพรมีท่าทางไม่ยอมสมาคมกับนายวิน แม้แต่จะร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน แต่นายวินกลับไม่ถือสาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับกิริยาเหล่านั้นของคุณอัมพร และเมื่อภาดากับนายวินมีโอกาสได้คุยกันตามลำพัง ภาดาจึงขอผัดผ่อนเรื่องหนี้สิน แต่นายวินกลับขอร้องให้ภาดารีบแต่งงานกับน้องทรายด้วยเหตุผลที่ทำให้ภาดาพูดไม่ออกนั่นคือ นายวินเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายคาดว่าจะมีอายุอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี ฉะนั้น ถ้าหากน้องทรายไม่รีบแต่งงานมีครอบครัวเสียก่อนเขาก็คงจะนอนตายตาไม่หลับเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงอยากฝากฝังน้องทรายไว้กับภาดา แม้ว่าการแต่งงานจะเป็นเพียงในนามนายวินก็ยอมทั้งสิ้น เพราะเขามั่นใจว่าภาดาจะดูแลน้องทรายได้เป็นอย่างดี ภาดาเฝ้าครุ่นคิดว่าจะหาทางออกอย่างไรดีที่จะปฏิเสธนายวินอย่างบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น ขณะที่คุณอัมพรเองก็คัดค้านชนิดหัวชนฝาจะไม่มีวันยอมให้ภาดาแต่งงานเป็นลูกเขยเศรษฐีบ้านนอกที่เธอประณามหยามเหยียดว่าเป็นไพร่ไม่มีสกุลรุนชาติอย่างนายวินโดยเด็ดขาด และเธอก็ยืนยันอีกด้วยว่าจะไม่ยอมเสียบ้านวัชรเวศน์เช่นกันแม้ว่าจะไม่มีเงินก้อนโตมาใช้หนี้ก็ตาม ซึ่งทางออกมีประการเดียวคือภาดาต้องหาเงินสิบล้านบาทมาใช้หนี้ให้ได้ โดยภาดาได้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทชื่อ อริน โดยให้หาคนมารับจำนองบ้านวัชรเวศน์แต่ก็ไม่สำเร็จ คุณอัมพรบอกให้ภาดาขอความช่วยเหลือจากโฉมพิไล โดยคุณอัมพรก็ไม่รู้เลยว่าครอบครัวของโฉมพิไลอันประกอบด้วย คุณนายเฉลา มารดา กับ นายเฉลิมชัย พี่ชายกำลังอยู่ในสภาพย่ำแย่กว่าครอบครัวของภาดาเสียอีกเพราะมีหนี้สินล้นพ้นตัว เนื่องจาก นายภีม บิดาเป็นนักการพนันตัวยง และสร้างหนี้สินไว้จนแม้แต่บ้านก็หลุดจำนองไปนานแล้ว เจ้าหนี้หลายรายก็คอยตามทวงหนี้อยู่ตลอดเวลาอีกด้วย อย่างไรก็ตามภาดาปฏิเสธที่จะไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากโฉมพิไลแต่ยังคงยืนยันที่จะขายบ้านวัชรเวศน์เหมือนเดิมทำให้คุณอัมพรหงุดหงิดกับข้ออ้างเรื่องเสียศักดิ์ศรีของลูกชาย ทำให้แม่ลูกต่างมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ทั้งสองต่างไม่ยอมกันและกัน แต่ในที่สุดเมื่อไม่มีหนทางอื่นใดวัชรเวศน์จึงเป็นคำตอบสุดท้ายที่จะจบปัญหานี้ได้ คุณอัมพรจึงได้เฝ้าแต่คิดถึงวันที่จะต้องออกจากคฤหาสน์ที่เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาของเธอแล้วรู้สึกใจหายทำให้ความเกลียดชังนายวินและน้องทรายเพิ่มพูนขึ้นเต็มหัวใจหาความปราณีไม่ได้อีกแล้ว

เวลาเดียวกันภาดาก็ไม่ละความพยายามที่จะหาคนมาซื้อวัชรเวศน์ต่อไป จนวันหนึ่ง คุณอัมพรได้มารู้ความจริงจากนายวินว่า นายภูบาลหมั้นหมายน้องทรายด้วยอุบะเพชรเก่าแก่ของตระกูลที่มีมูลค่ามหาศาล ถ้าภาดาไม่แต่งงานกับน้องทรายอุบะเพชรของหมั้นก็จะตกเป็นของฝ่ายหญิงตามประเพณีไทย ความจริงแล้วอุบะเพชรเส้นนี้คุณอัมพรเคยสงสัยมานานแล้วว่านายภูบาลได้เก็บซ่อนไว้ที่ไหนเพราะเธอไม่เห็นมาหลายปีแล้ว จนกระทั่งนายภูบาลเสียชีวิตเธอก็ยังค้นหาไม่พบ เธอเพิ่งมารู้ความจริงจากนายวินนี้เอง และด้วยความเสียดายทั้งบ้านและอุบะเพชรทำให้คุณอัมพรเริ่มคิดแผนการชั่วร้ายขึ้นในใจทันที แผนการชั่วร้ายนี้เริ่มต้นที่โฉมพิไลก่อน โดยคุณอัมพรเล่าเรื่องเพียงสัญญาพิสดารระหว่างเพื่อนรักสองคนคือนายภูบาลกับนายวิน โดยเธอไม่เล่าเรื่องหนี้สินแต่อย่างใดทั้งสิ้นเพราะกลัวเสียหน้า และเมื่อโฉมพิไลฟังจบเธอรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องแปลกประหลาดในความคิดของเธอ แต่นั่นยังไม่เท่าไรเธอกลับตกใจสุดขีดเมื่อได้ฟังคำพูดสุดท้ายของคุณอัมพร คือคุณอัมพรขอให้ภาดาแต่งงานกับน้องทรายเพียงในนามเป็นระยะเวลา 1 ปี เมื่อนายวินตายแล้วคุณอัมพรก็จะให้ภาดาหย่าขาดกับน้องทรายทันที คำปฏิเสธของโฉมพิไลขาดหายไปทันทีเช่นกันเมื่อคุณอัมพรวางแหวนเพชรน้ำงามมูลค่าไม่ต่ำกว่าสองล้านบาทเป็นรางวัลหากเธอตกลง ความโลภไม่เข้าใครออกใคร โฉมพิไลยินยอมกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ของเธอเป็นเวลา 1 ปี ในที่สุดภาดาแต่งงานกับน้องทราย งานแต่งงานจัดอย่างเรียบง่ายที่สุด ภาดาไม่ต้องการให้โฉมพิไลเสียใจในการแต่งงานของเขาครั้งนี้ และในคืนวันส่งตัวน้องทรายขอร้องภาดาว่าในระหว่างที่เธออยู่ในฐานะภรรยาของภาดา เธอขอให้ภาดาให้เกียรติเธอโดยไม่ติดต่อกับผู้หญิงคนอื่นๆ อย่างเปิดเผยเพราะเธอไม่อยากให้ใครมาหัวเราะเยาะเธอ ภาดานิ่งอึ้งไปทันที ภาดาเริ่มสงสัยและคิดว่าน้องทรายรู้เรื่องโฉมพิไลแล้วหรือ แต่อีกความคิดหนึ่งคัดค้านเพราะทุกคนถูกสั่งอย่างเด็ดขาดให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ แต่ทำไมน้องทรายจึงขอเช่นนี้ อย่างไรก็ตามภาดาก็รับคำขอนั้น วันเวลาผ่านไปประมาณ 4 เดือนนับจากวันแต่งงาน น้องทรายแน่ใจแล้วว่าคุณอัมพรเกลียดชังเธอมากเพียงไร โดยดูได้จากการแสดงออกอย่างชัดเจนทั้งต่อหน้าและลับหลังโดยเฉพาะคำเรียกแทนชื่อเธอว่านังง่อยทุกครั้ง ซึ่งไม่เคยปิดบังในการถนอมน้ำใจของน้องทรายเลย รวมทั้งคนใช้ต้นห้องของคุณอัมพรด้วย และที่สำคัญคือสาวใช้ประจำตัวของโฉมพิไลชื่อปลั่ง มักทำหน้าที่สอดแนมความสัมพันธ์ระหว่างภาดากับน้องทรายโดยรายงานให้โฉมพิไลรู้ทุกระยะ และมีเพียงคนเดียวที่น้องทรายเริ่มคลางแคลงและไม่เข้าใจถึงความรู้สึกของเขาคือภาดานั่นเอง เนื่องจากความนุ่มนวลอ่อนโยนที่เขาปฏิบัติต่อเธอ รวมทั้งสายตาห่วงใยที่คอยจับจ้องเธอและกิริยาท่าทีประคับประคองเอาใจใส่ต่อเธอ ทำให้น้องทรายพิศวง พร้อมกันนั้นเธอก็ต้องคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเขาห่วงใยด้วยคุณธรรมประจำใจต่อผู้หญิงพิการเช่นเธอเท่านั้นไม่มีอะไรเป็นพิเศษแต่อย่างใดทั้งสิ้น ภาดาเท่านั้นที่รู้ดีว่าหัวใจของเขากำลังหวั่นไหวต่อความงามของน้องทราย ต่อความบริสุทธิ์ในจิตใจ และต่อความอ่อนหวานน่ารักของเธอ น้องทรายเป็นเด็กสาวที่งดงามทั้งกายและจิตใจ เธอไม่เคยแสดงกิริยาไม่พอใจหรือแง่งอนตามสิทธิของภรรยาเมื่อเขากลับบ้านดึก เธอรู้จากคำบอกเล่าของเขาว่าเขาทำงานพิเศษที่บริษัท ทั้งที่ความจริงคือเขาต้องไปหาโฉมพิไลทุกวัน ทั้งที่ในจิตส่วนลึกของจิตใจนั้นเขาไม่ยอมรับกับตนเองว่าเขาคิดถึงน้องทรายอยู่เสมอแม้จะอยู่ในขณะที่เขากำลังมีความรักใคร่กับโฉมพิไลก็ตาม

วันที่ภาดาแน่ใจว่าเขารักน้องทรายคือวันที่เขาเห็น สมิต บุตรชายของ นายแพทย์สุเมธ หมอประจำตัวของน้องทรายมาเยี่ยม จริงๆ แล้วสมิตสนิทสนมกับน้องทรายมาตั้งแต่เด็ก ภาพของน้องทรายที่ตื่นเต้นยินดีเมื่อเห็นสมิตนั้นคือภาพของทั้งสองคนคุยกันอย่างร่าเริง และเหนือสิ่งอื่นใด มือทั้งสองของน้องทรายอยู่ในอุ้งมือของสมิต ความรู้สึกเริ่มหึงหวงเพิ่งเป็นที่ประจักษ์แก่เขา ณ เวลานี้ แต่เขาก็ยังอดปฏิเสธกับตนเองตลอดเวลาไม่ได้ว่าความรู้สึกเช่นนี้คือความรักแต่เป็นเพียงความสงสารเห็นใจและห่วงใยเท่านั้น แต่เวลานี้เขาตระหนักแน่ชัดแล้วว่าเขารักน้องทราย แม้ว่าเขายังเข้าใจผิดว่า เขานั้นยังคงรักโฉมพิไลอยู่เต็มหัวใจอยู่เช่นเดิม เมื่อเขาเริ่มรู้จักหัวใจตนเองเขาจึงดูแลเอาใจใส่น้องทรายมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อน้องทรายนั้นหาหลุดพ้นจากสายตาสอดรู้สอดเห็นของปลั่งสักวินาทีเดียว จึงทำให้วันหนึ่งน้องทรายต้องประจันหน้ากับโฉมพิไลที่ส่งสายตาดุดันที่จ้องหน้าเธอด้วยความอาฆาตมาดร้าย พร้อมทั้งประกาศว่าเธอคือภรรยาคนแรกของภาดา เวลาต่อมาเป็นความยากลำบากของภาดามากขึ้นนั่นคือปฏิกิริยาเฉยเมยของน้องทราย ความหึงหวงเอาเรื่องของโฉมพิไล ความจงเกลียดจงชังของคุณอัมพร การไปมาหาสู่น้องทรายบ่อยขึ้นของสมิต และเหนือสิ่งอื่นใด อรินเพื่อนรักของเขาก็มีท่าทีพึงใจน้องทรายอย่างเห็นได้ชัด สิ่งเหล่านี้ทำให้จิตใจของภาดาว้าวุ่นไม่เป็นสุข เขาจัดการอะไรไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว ไม่ได้แม้แต่จะใช้สิทธิ์ความเป็นสามีเพื่อป้องกันภรรยาจากชายอื่น ความกลัดกลุ้มเหล่านี้จึงทำให้ภาดาใช้เวลาอยู่คนเดียวตามร้านอาหาร ผับบาร์ และบ้านเพื่อน จนวันหนึ่งในบาร์แห่งหนึ่ง เขาได้ยินเสียงผู้ชายสองคนคุยกันโดยพาดพิงถึงลูกสาวเศรษฐีเมืองจันท์ที่พิการทำให้ภาดาตั้งใจฟัง เสียงหนึ่งนั้นคือสมิต อีกเสียงคือ เอกชัย ญาติห่างๆ ของสมิตที่ถามถึงคู่รักสาวน้อยที่สวยราวเทพธิดาแต่พิการ คำตอบของสมิตทำให้ภาดาต้องร้อนผ่าวไปทั้งตัวเพราะสมิตตอบว่าเขารักน้องทรายมาตั้งแต่เด็ก และขณะนี้เขาก็ยิ่งรักน้องทรายมากขึ้น น้องทรายเองก็ไม่ได้รังเกียจเขาเลย ซึ่งเขาก็ยินดีรอน้องทรายจนกว่าถึงวันที่น้องทรายเป็นอิสระ คืนนั้นภาดากลับถึงบ้านด้วยความเมามายจนแทบทรงตัวไม่อยู่ เขาเข้าไปหาน้องทรายและล่วงเกินเธอด้วยพิษรักแรงหึง แต่น้องทรายไม่ยินยอมต่อสู้จนสุดฤทธิ์จนภาดาต้องจำยอมหยุด และนับจากวันนั้นเป็นต้นมาภาดาก็กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับน้องทราย เธอไม่พูดด้วย ไม่มองหน้าเขา ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตนสำหรับเธออีกต่อไป มิหนำซ้ำยังแสดงท่าทีสนิทสนมกับสมิต อริน หรือแม้แต่เฉลิมชัยพี่ชายของโฉมพิไลที่พาตัวเข้ามาใกล้ชิดกับน้องทรายเพราะหลงรักในความสวยงามของเธอ เฉลิมชัยเองก็อดแปลกใจไม่ได้ที่อยู่ดีๆ น้องทรายที่เคยเฉยเมยจนอาจกล่าวได้ว่ารังเกียจเฉลิมชัยอย่างออกนอกหน้า แต่ตอนนี้กลับมายิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับเขาเป็นอย่างดี ภาดาเองก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเช่นกัน ดูเป็นคนเฉยเมยต่อทุกสิ่งเรียกได้ว่าไร้หัวใจ ทำให้โฉมพิไลครุ่นคิดด้วยความแค้นใจ เพราะเขาเงียบขรึม ไม่แสดงความรักกับเธอเหมือนอย่างเคย เธอรู้ว่าเป็นเพราะใครแผนการแก้แค้นจึงเกิดขึ้น โฉมพิไลรู้ว่าน้องทรายมีแมวที่เธอรักมากชื่อสีเงิน เธอจึงพาเจ้าซาตานสุนัขพันธุ์ดุของเธอไปที่บ้านวัชรเวศน์ เสียงกรีดร้องดังของเด็กสาวใช้ในบ้านทำให้แจ่มพาน้องทรายออกมาทันเห็นเจ้าซาตานกำลังขย้ำสีเงินอย่างมันเขี้ยว น้องทรายได้แต่ร้องห้ามและทำท่าจะขยับตัวลุกขึ้นไปห้ามแต่แจ่มกดบ่าของน้องทรายไว้ทัน ทั้งสองต่างมองตากัน สายตาของน้องทรายมีแต่ความแค้นใจเจ็บใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย คุณอัมพรเมื่อรู้เรื่องทั้งหมดกลับโทษและดุว่าน้องทรายที่ไม่ดูแลสีเงินให้ดีกลับปล่อยออกมาเพ่นพ่านรู้อยู่แล้วว่าสุนัขกับแมวไม่ถูกกัน แม้น้องทรายจะชี้แจงเหตุผลว่าเธอขังสีเงินไว้ในห้องนอนตลอดเวลาคุณอัมพรไม่เชื่อและหาว่าเธอโกหก น้องทรายจำต้องนิ่งทั้งที่ใจสั่นระริกด้วยความโกรธ น้องทรายตัดสินใจส่งข่าวให้นายวินเดินทางมาที่วัชรเวศน์โดยด่วน และเมื่อนายวินมาถึง เธอก็บอกความในใจว่าเธอทนไม่ไหวแล้วที่จะทำตามแผนของพ่อ เธอขอคำตอบจากพ่อว่าเหตุใดพ่อจึงส่งให้เธอเข้ามาอยู่ในบ้านที่มีแต่คนใจดำ นายวินได้แต่ตอบว่าให้น้องทรายอดทนและวันหนึ่งจะรู้ถึงเหตุผลของพ่อ เธอพูดพลางร้องไห้พลางบอกพ่อว่าเธอจะไม่ทนอีกต่อไป เธอลุกขึ้นเดินอย่างปราดเปรียวเพื่อจะออกจากห้องนอน จะไปบอกทุกคนว่าเธอไม่ได้เป็นง่อยอย่างที่ทุกคนเข้าใจ เธอหายจากโรคร้ายมานานแล้ว แต่พ่อขอให้เธอทำอย่างนี้เพื่อเหตุผลอะไรเธอก็จะไม่ขอฟังเหตุผลอีกแล้ว นายวินได้แต่ปลอบโยนและขอร้องบุตรสาวให้เชื่อพ่ออีกสักครั้งเพราะพ่อรักและหวังดีต่อลูกสาวจริงๆ ในที่สุด น้องทรายจึงต้องจำยอมอีกครั้งหนึ่ง

ต่อมาภาดาเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของน้องทรายอย่างเด่นชัดขึ้น จากเด็กสาวที่อ่อนโยน สงบเสงี่ยมเจียมตัว กลับกลายเป็นเธอแข็งแกร่งขึ้น โต้เถียงมากขึ้น เธอไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างของใครก็ตามในวัชรเวศน์ที่เกลียดชังเธออีกต่อไป เธอต่อกรกับโฉมพิไลที่คอยวนเวียนมาหาเรื่องเธออย่างสะใจ โฉมพิไลก็ไม่สามารถทำอะไรน้องทรายได้ถนัดเพราะน้องทรายมีสิทธิ์มากกว่าเพราะอยู่ในฐานะภรรยาที่ถูกกฎหมาย ส่วนคุณอัมพรเองก็ได้แต่เฝ้ามองและครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะได้อุบะเพชรคืนจากน้องทราย ซึ่งมีวิธีเดียวเท่านั้นคือทำให้น้องทรายเจ็บใจและถอยไปจากชีวิตของภาดา เพราะน้องทรายได้เคยลั่นวาจาไว้แล้วว่า วันที่เธอสิ้นสุดความเป็นภรรยาของภาดา เธอจะคืนอุบะเพชรเส้นนั้นทันที ในขณะที่น้องทรายกำลังสะใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ภาดาได้แต่เศร้าหมองใจ เพราะน้องทรายไม่เป็นน้องทรายของพี่ชายอย่างเดิมเสียแล้ว โฉมพิไลเห็นท่าทีของภาดาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขากำลังหลงรักภรรยาแต่ในนามเสียแล้ว โฉมพิไลโกรธแค้นจนแทบกระอักเป็นเลือด ท่าทียั่วยวนผูกมัดภาดาด้วยเล่ห์ของโฉมพิไลไม่มีผลอีกต่อไป ภาดาได้แต่เศร้าซึมและเงียบขรึมผิดปกติ โฉมพิไลหมดปัญญาที่จะดึงภาดากลับมาสู่อ้อมแขนของเธออย่างเก่าได้อีกแล้ว ในเวลานี้เอง บุญเทิด สามีคนแรกของโฉมพิไลที่มีมาตั้งแต่เมื่อครั้งทั้งสองเป็นวัยรุ่นใจแตกจนต่อมาเธอท้องและทำแท้งในที่สุด ในช่วงนั้นบุญเทิดยากจนจึงเป็นที่รังเกียจของครอบครัวโฉมพิไล แต่ขณะนี้บุญเทิดร่ำรวยเป็นพ่อเลี้ยงอยู่ภาคเหนือ คุณนายเฉลาจึงตื่นเต้นกับเงินและของกำนัลของบุญเทิด แม้แต่โฉมพิไลเองบุญเทิดก็ปรนเปรอด้วยเครื่องเพชรราคาแพง ดังนั้นวันหนึ่งโฉมพิไลจึงยินยอมเป็นชู้กับสามีเก่าด้วยความเต็มใจ คุณอัมพรดำเนินตามแผนที่วางไว้เพื่อจะให้น้องทรายออกไปจากวัชรเวศน์อย่างแยบยล เธอร่วมมือกับเฉลิมชัยโดยใส่ความว่าภาดาสนับสนุนให้เฉลิมชัยมาแกล้งทำเป็นรักน้องทราย แม้แต่ปลั่ง ภาดาก็จ้างให้หาเรื่องกับน้องทรายเพราะจะได้ทำให้น้องทรายออกไปจากบ้านโดยเร็ว นอกจากนี้คุณอัมพรยังพูดให้น้องทรายรู้ว่านายวินพ่อของเธอนั้นซื้อผู้ชาย คือภาดาให้แต่งงานกับเธอด้วยมูลค่าสิบล้านบาท น้องทรายตัวชาด้วยความเสียใจ เธอสั่งแจ่มให้เก็บของ ดังนั้นเมื่อภาดากลับจากทำงานในวันหนึ่งจึงพบว่าน้องทรายและแจ่มกลับไปบ้านเมืองจันทบุรีแล้วพร้อมกับทิ้งใบหย่าไว้ให้เขาและจดหมายลาที่ปราศจากเยื่อใย เมื่อภาดาตามไปหา
เธอที่เมืองจันท์เขาก็ต้องตกใจที่เห็นเธอเดินได้อย่างปราดเปรียวไม่มีเค้าของคนพิการมาแต่เด็กใดๆ เลย เขาได้รับรู้ความจริงจากเธอว่าเธอหายจากเป็นง่อยโปลิโอมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบแล้ว แต่ที่ทำเช่นนี้เพราะเป็นแผนของพ่อเธอที่ต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจที่เขาจะรักดูแลเธอตลอดไปตามที่ได้สัญญาไว้หรือไม่ พร้อมกันนั้นเธอก็แจ้งข่าวให้เขารู้อีกด้วยว่าเธอได้หมั้นกับสมิตเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เขาต้องซมซานกลับกรุงเทพฯ ทันที แต่ก่อนที่จะกลับ เขาได้แสดงความยินดีกับน้องทรายพร้อมกับบอกความจริงที่เขาอยากบอกเธอมานานแล้วว่าเขารักเธอ เคราะห์กรรมที่โหมเข้ามาหาภาดายังไม่หมดสิ้น เพราะในไม่ช้าเขาก็ได้รู้ความจริงว่าโฉมพิไลเป็นชู้กับบุญเทิด ภาดารู้ความจริงนี้ก็ด้วยนัยน์ตาของตนเอง นั่นคือเขาสะกดรอยตามโฉมพิไลไปยังบ้านในสวนลึกที่บุญเทิดใช้เป็นรังรักกับเธอ เขาทนฟังเสียงบาดใจไม่ได้จึงบุกเข้าไปในขณะที่สองคนกำลังระเริงรักต่อกัน ขณะเดียวกันก็ได้เกิดการชกต่อยของชายทั้งสอง ภาดาเจ็บหนักไม่แพ้บุญเทิด เขากลับบ้านกลับห้องนอนที่ปราศจากเงาของน้องทราย ความเสียใจยิ่งทับทวีคูณขึ้นเมื่อตระหนักดีว่าบัดนี้ทุกอย่างได้พังทลายไปสิ้น เขาได้ปล่อยให้ดวงแก้วล้ำค่าในมือหลุดไปเป็นสมบัติของชายอื่นเสียแล้ว วันต่อมาทุกคนในบ้านวัชรเวศน์ต้องจ้าละหวั่นหาตัวภาดา เขาหายไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมๆ กับมีข่าวซุบซิบในสังคมว่าโฉมพิไลไปฮันนิมูนที่ญี่ปุ่นพร้อมกับบุญเทิด

ณ เมืองจันทบุรีในอีกสามเดือนข้างหน้า สมิตจะต้องเตรียมตัวไปหาลูกค้าที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขณะเดียวกันข่าวเรื่องภาดาหายตัวไปได้มาถึงเมืองจันท์โดยน้องทรายรับรู้ข่าวนี้อย่างสงบนิ่ง เก็บความห่วงใยไว้ในใจอย่างมิดชิด สามเดือนผ่านไปสมิตเดินทางไปประจวบคิรีขันธ์ แต่วันหนึ่งเมื่อน้องทรายกลับมาจากข้างนอกบ้านพบแจ่มทำหน้าตาแปลกๆ รออยู่หน้าบ้าน เธอจึงเกิดความสังหรณ์ใจ พอเดินเข้าไปภายในบ้านน้องทรายพบภาดาอยู่ในสภาพทรุดโทรม ผอมซูบเพราะป่วยหนักด้วยไข้ป่าผสมมาเลเรีย ภาดากระซิบบอกน้องทรายว่าเขาอยากพบน้องทรายมากเพื่อขอโทษในเรื่องราวทั้งหมดก่อนตาย น้องทรายกอดพี่ชายของเธอไว้ในอ้อมแขนและบอกความในใจที่เก็บไว้มานานว่าถ้าพี่ชายตายก็เท่ากับน้องทรายไม่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้แล้วเช่นกัน แล้วจากนั้นน้องทรายก็รีบพาภาดาไปโรงพยาบาลทันที เธอกำชับหมอว่าให้รักษาภาดาจนสุดความสามารถ

วันเวลาผ่านไป อาการของภาดาดีขึ้นอย่างช้าๆ น้องทรายไม่เป็นอันทำอะไรนอกจากเฝ้าอยู่ข้างเตียงของภาดาพร่ำรำพันให้เขาหาย ภาดาทำท่าเหมือนได้ยินคำพูดของเธอ เขาจึงพึมพำเสียงแหบแห้งเกือบไม่เป็นคำว่าเขารักน้องทรายแต่น้องทรายไม่รักเขา เธอรักสมิตและเกลียดพี่ชายของเธอ น้องทรายซบหน้าสะอื้นกับอกของภาดากระซิบว่าน้องทรายไม่ได้รักสมิตและน้องทรายไม่ได้เกลียด พี่ชาย เสียงนั้นแม้จะเป็นเสียงกระซิบแต่มันดังกึกก้องในโสตประสาทของชายที่กำลังจะก้าวเข้าไปในห้องนั้น สมิต กาญจนรัตน์นั่นเอง รุ่งขึ้นคุณอัมพรมาถึงจันทบุรีเพื่อขอโทษคุณวินและน้องทราย พร้อมทั้งขอร้องคุณวินให้ช่วยภาดาด้วย ถ้าภาดาผิดหวังจากน้องทรายในครั้งนี้เธอเกรงว่าภาดาอาจจะไม่รอดชีวิตเพราะไม่มีกำลังใจเหลืออยู่เลย คุณวินแม้จะเห็นใจแต่คำตอบก็คือจนใจเหลือเกินเพราะน้องทรายหมั้นกับสมิตแล้ว และพร้อมกันนี้คุณวินเองก็สารภาพว่าตนก็วางแผนเรื่องเจ็บป่วยเช่นกัน คุณอัมพรไม่มีทางเลือกต้องพาภาดากลับกรุงเทพฯ น้องทรายเฝ้าดูการจากไปของภาดาด้วยหัวใจแตกสลายพร้อมกับภาพสุดท้ายที่เธอจะได้เห็น และการจากครั้งนี้คงเป็นการจากชั่วชีวิตถ้านายวินจะไม่ส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้เธอ จดหมายจากสมิต กาญจนรัตน์ถึงน้องทราย ผู้เป็นสุดที่รัก ในจดหมายนั้นได้เขียนบอกว่าเขาได้จากเมืองไทยไปแล้วเพราะเขารู้ว่าคนที่น้องทรายรัก คือภาดา เขาจึงตัดสินใจคืนน้องทรายให้ภาดา เพราะเขารักเธอมากเกินกว่าจะทนเห็นเธอเป็นทุกข์ได้ จดหมายฉบับนั้นร่วงหล่นจากมือน้องทรายขณะที่เธอโลดแล่นลงจากบ้านเพื่อไปหยุดรถที่จะพาภาดาให้จากเธอไปชั่วนิรันดร และเป็นเวลาเดียวกันกับที่ชายหนุ่มรีบลงจากรถวิ่งเข้ามาสวมกอดหญิงสาวที่ยืนน้ำตาไหลรินด้วยความสุข

ในม่านเมฆที่เคยขวางกั้นบดบังชีวิตและความรักของทั้งสองได้สลายลงแล้ว



บทประพันธ์ : บุษยมาส
บทโทรทัศน์ : นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
กำกับการแสดง : วัชรา สังข์สุวรรณ
ผู้ผลิต : ดีด้า วีดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
ออกอากาศทุกวัน : ศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7 สี

นักแสดง
ธนพล นิ่มทัยสุข >>> ภาดา
พีชญา วัฒนามนตรี (มีน) >>> วาลิกา หรือ น้องทราย
ตะวัน จารุจินดา >>> อริน
กฤษณกันท์ มณีผกาพันธ์ >>> สมิต กาญจนรัตน์
รพีภัทร เอกพันธ์กุล >>> เฉลิมชัย
ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์ >>> โฉมพิไล
มณีนุช เสมรสุต >>> อัมพร
ไพโรจน์ สังวริบุตร >>> วิน ศิรวิทย์
ตระการ พันธ์ธุมเลิศรุจี >>> อำนาจ
เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ >>> อำนาจ
ปนัดดา โกมารทัต >>> เฉลา
จตุรวิทย์ คชน่วม >>> บุญเทิด
พงษ์ประยูร ราชอาภัย >>> นายแพทย์สุเมธ
ตฤณ เศรษฐโชค >>> ภูบาล
วชิรา เพิ่มสุริยา >>> แจ่ม
น้ำทิพย์ เสียมทอง >>> ปลั่ง
พจนีย์ ใยละออ >>> เอียด
สุรจิต บุญญานนท์ >>> แผ้ว
Read more »

เรื่องย่อละคร สามหัวใจ


โฉม เป็นนักศึกษาพยาบาลปีสุดท้ายต้องไปอยู่หอพักเพื่อหลีกเลี่ยง นายกำพล พ่อบุญธรรมที่ติดการพนันและพยายามจะข่มขืนเธอ
ส่วนคุณอารีย์แม่ซึ่งรับเธอมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม คุณอารีย์สุขภาพไม่ค่อยดีโฉมจึงหวังว่าเรียนจบจะได้มารักษาพยาบาล แต่แล้วคุณอารีย์ก็เสียชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุโฉมต้องย้ายกลับมาอยู่บ้านกับพ่อใจบาป

ชัช เป็นนักเรียนโรงเรียนช่างกลหลังจากรับทำงานพิเศษจากอู่รถ และกำลังกลับบ้านพอดีพบโฉมวิ่งเสื้อผ้าหลุดลุ่ยออกมาจากบ้าน ชัชจึงช่วยโฉมพาซ้อนมอไซด์หนีไปต่อหน้านายกำพล ชัชจึงพาโฉมไปไว้ที่บ้านแม่ชื่นเช้าวันรุ่งขึ้นโฉมแอบเห็นผู้ชายสองคนนั่งกินข้าวกับแม่ชื่นอยู่จึงถามชัชว่าใคร ชัชเลยบอกว่าเป็นพี่ชายคนแรกชื่อ ชาญ เพิ่งสอบเป็นทนายได้ ส่วนคนรองเป็นนักมวยชื่อ ชาย ขนาดที่นายกำพลกำลังเปิดบ่อนอยู่ที่บ้านชัชจึงอาสาไปเอาเสื้อผ้าให้ที่บ้านพอดีตำรวจเข้ามาพอดีชัชจึงแต่งเป็นหญิงจึงรอดจากตำรวจมาได้วันต่อมาแม่ชื่นกำลังทำขนมไทยอยู่เกิดน้ำร้อนลวกโฉมเห็นจึงเข้าไปช่วยแล้วโฉมจึงเล่าเรื่องของตนให้แม่ชื่นฟังแม่ชื่นจึงให้โฉมช่วยขายขนมหน้าบ้านแทน

ชายพี่ชายของชัชกำลังซ้อมมวยอย่างหนักกับครูแน่เป็นครูมวยและแล้ว พิภพ ทนายคนหนึ่งก็นำหนังสือมายื่นต่อครูแนบว่าที่ดินจะถูกยึดครูแนบจึงของผ่อนผันไปก่อนให้ผ่านพ้นชกมวยไปก่อน และแล้ววันชกมวยก็มาถึงชายชนะน็อกจึงนำเงินมาต่อดอกที่ดินให้ครูแนบได้สำเร็จ แม่ชื่นบอกใครต่อใครว่าโฉมเป็นหลานสาวที่มาจากต่างจังหวัดเพื่อที่จะมาเรียนพยาบาลจึงมี เอม ซึ่งเป็นทอมลูกสาว คุณอิ่ม กระเทยเจ้าของเกสท์เฮาส์ริมน้ำมาเฝ้าจีบโฉมทุกวัน เมื่อนายกำพลรู้ที่อยู่โฉมจึงนำตำรวจไปจับชัชแต่ชาญรู้กฎหมายจึงช่วยชัชไว้ได้
นายพิภพเห็นชาญมีความรู้ความสามารถจึงชวนชาญไปทำงานด้วยกันจึงพาชาญไปแนะนำให้กับ คุณนายพวงแก้มและลูกสาวชื่อ พิมพรรณ เมื่อชาญว่าความชนะคดีมรดก ทำให้สำนักงานได้รับส่วนแบ่งจากคดี พิมพรรณจึงซื้อรถใหม่ชาญขับ แม่ชื่นเลยบอกให้ไปรับไปส่งโฉมแทนที่ชัชทำให้ชัชรู้สึกเจ็บปวด มากชัชจึงไปแข่งเต้นบีบอยจนได้รางงวัล จึงเอาเงินไปให้โฉมแต่โฉมกับเอาเงินไปทำบุญบ้านเด็กกำพร้าแล้วชัชพาโฉมไปเที่ยวงานในค่ำวันนั้นอย่างมีความสุขทำให้ชาญไปรับโฉมที่โรงเรียนไม่เจอและแล้วก็เกิดเรื่องเมื่อโฉมถูกลวนลามชัชถูกโดนรุมพอดีที่ชาญมาช่วยได้ทันและพาโฉมมาส่งบ้าน

ส่วนชัชนอนให้น้ำเกลืออยู่ที่โรงพยาบาลโดยมีเอมดูแลแล้ว ชาญถือโอกาสมอมเหล้าโฉมแล้วพาเข้ามานรูดพอดีเป็นเวลาที่ชัชกับเอมอาการดีขึ้นออกจากโรงพยาบาลพอดีจึงเข้ามาช่วยโฉมทันเวลา ชัชโกรธชาญมากจึงจะพาโฉมหนีแต่แม่ชื่นดันมาล้มหัวฟาดพื้นเสียก่อนโฉมจึงต้องคอยดูแลแม่ชื่น และแล้วการชกครั้งสำคัญที่มีการเดิมพันเป็นที่ดินของครูแนบแต่ก่อนค่ำก่อนวันชกชายได้เห็นชาญมอบแหวนให้โฉมและโฉมก็รับแหวนจากชาญด้วยความยินดีทำให้ชาญไม่มีกำลังใจในการชกจึงถูกแชมป์จากเมืองกรุงถลุงจนยับเยิน ชายไม่มีหน้ากลับไปพบใครครูแนบจึงชวนชายไปอยู่ด้วยกันที่ ฝาง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับลูกสาวครูเนบที่เป็นใบ้ชื่อ นันทา ที่เมืองฝาง ครูแนบและนันทาได้ไปทำงานที่สวนดอกไม้ของป้าเนียร น้องสาวครูแนบแล้วชายก็ไดไปทำงานที่ สวนส้มธนาธร ของพ่อเลี้ยง ธนาธร เพื่อนเก่าของครูมีลุกสาวชื่อ คุณทิพยาซึ่งเป็นภรรยาของ ศักดา

ชายรู้มาว่าคุณทิพยาเป็นน้องสาวของเทพฤทธิ์เจ้าของค่ายมวยใหญ่ชายจึงมีโอกาสได้ขึ้นชกอีกครั้งแล้วก็ชนะทำให้ชายได้ความนิยมกลับคืนมาชายจึงกลับมาบ้านท่ามกลางความยินดีของทุกคนและเมื่อรู้ว่าโฉมไม่ได้รับหมั้นกับชาญชายจึงใกล้ชิดกับโฉมอย่างคนรัก ชาญเห็นภาพบาดตาจึงหนีไปกินเหล้าแล้วถูกพิมพรรณมอมเหล้าและยั่วยวนจนได้ชาญเป็นสามีและย้ายมาอยู่กับเธอที่บ้านสวนและเทพฤทธิ์กับนายบัชญาก็ได้จัดมวยขึ้นอีกครั้งเพื่อที่จะให้สิงหราชแก้มือแล้วชายก็โดนวางยาจึงทำให้แพ้ในครั้งนี้ พอชัชได้รู้ความจริงจึงบุคบ้านไปทำร้ายศักดิ์ดาจึงถูกนายศักดิ์ดายิงตายแม่ชื่นเสียใจล้มป่วยลงด้วยโรคหัวใจอย่างรุนแรงคุณทิพยาพยายามหย่าขาดจากศักดิ์ดา

ศักดิ์ดาจึงเรียกร้องเงิน 80 ล้านและพยายามฆ่าคุณทิพยาแต่คุนทิพยาก็ลอดมาได้แต่อัมพาตไปทั้งตัว ส่วนพิมพรรณก็มาเป็นชู้กับศักดิ์ต่อมาพิมพรรณรู้ว่าศักดิ์ดาไม่จิงใจแล้วกินเหล้าเมามายเหมือนคนเสียสติ พ่อเลี้ยงจึงจ้างพิภพฟ้องนายศักดิ์ดาที่วางยาชายตอนชกมวย พี่ชายของคุณทิพยาทนเห็นน้องสาวลำบากไม่ไหวจึงให้ชายไปช่วยน้องออกมาคุณทิพยาจึงได้ยิงนายศักดิ์ดาตาย ชายเห็นจึงรีบคว้าปืนมามาถือไว้ขณะที่ตำรวจมาเห็นพอดีชายถูกจับตัวถูกตัดสินประหารชีวิต แม่ชื่นรู้ข่าวจึงช็อคตายชาญตัดสินใจยืนอุทรณ์สู้คดีให้ชาย คุณทิพยาสารภาพเองว่าตนเป็นคนยิงนายศักดิ์ตายเองและเปิดโปรงความชั่วอะไรบ้างโดยมีนายกำพลเป็นพยานหักหลังนายบัญชา ศาลเลยตัดสิ้นสั่งจำคุกชายแค่ 2 ปี ฐานบุกรุกและทำร้ายร่างกายตำรวจจับนายบัญชาในความผิดหลายอย่างนายพิภพสำนึกผิดเลยฆ่าตัวตายส่วนชาญก็ถูกพิมพรรณยิงตาย

หนึ่งปีต่อมา ชายได้รับอภัยโทษกลับมาที่บ้านพบว่าบ้านได้รับเป็น ศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กทั้งหลายต่างเรียกโฉมว่าแม่ และโฉมยังคงคอยชายอยู่เสมอ แม้เธอจะเคยได้ชื่อว่าเป็นหญิงที่มี “สามหัวใจ”ก็ตาม



บทประพันธ์ : -
บทโทรทัศน์ : -
กำกับการแสดง : พิศาล อัครเศรณี
ออกอากาศทุกวัน : ศุกร์ เวลา 20.15น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

นักแสดง
วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย แสดงเป็น ชาญ พี่คนโตใหญ่สง่างาม-ท่าทางวางภูมิ จบกฎหมาย เป็นทนายความมีไหวพริบ ทันคน ฉลาดคิด-ฉลาดพูด ช่างหาเหตุผลหักล้างคิดลึกซึ้ง มีแววเจ้าเล่ห์ ชอบเอาชนะ กลัวความพ่ายแพ้ เอาตัวรอด ดูภายนอกเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่ในใจจริงมีคุณธรรม


ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แสดงเป็น ชาย น้องชายของชาญ อายุน้อยกว่าประมาณ 2 ปี หน้าตา-ความฉลาด-ความสง่างามเป็นรองชาญ เป็นนักมวยฝีมือดี รูปร่างแข็งแกร่ง แต่ใจอ่อนไหว เสียสละ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ปกตินิ่มนวล ชอบการครัวการฝีมือและดนตรี ช่างคิดในแง่ลบ จริงใจ ไม่ทันคน


อเล็กซ์ เรนเดลล์ แสดงเป็น ชัช นักเรียนช่างกลปีสุดท้าย เป็นน้องของชาญและชาย วัยรุ่น-ปราดเปรียว อารมณ์ร้อน ชอบโวยวาย พูดไม่คิด ไม่ไว้หน้าไม่รอบคอบ น้อยใจง่าย ร้องไห้ง่าย ชอบใช้กำลังมากกว่าเหตุผล ตัดสินใจเร็ว ชอบเต้นบีบอย ขี่มอเตอร์ไซด์เก่งไม่กลัวใคร มีเรื่องชกต่อยบ่อยๆ ปากกับใจตรงกัน ไม่คิดมาก ไม่เจ้าเล่ห์


ณปภา ตันตระกูล แสดงเป็น โฉม นักเรียนพยาบาลปีสุดท้าย ขาวสวย มีเสน่ห์เวลายิ้ม รูปร่างดี หน้าตาไทย ออกแววซื่อ จริงใจ ไม่เจ้าเล่ห์ ไม่ยั่วยวน มารยาทเรียบร้อย จิตใจบริสุทธิ์ พูดดี ช่างเอาใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ กตัญญูรู้คุณ ไม่เอาเปรียบ ทำงานครัวคล่อง เป็นเด็กกำพร้า มีเบื้องหลังที่น่าสงสาร อ่อนไหวง่าย ใจน้อย ไม่ค่อยมีไหวพริบ มองคนในแง่ดี


เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์ แสดงเป็น ทิพยา น้องสาวเทพฤทธิ์ เรียนบริหารการจัดการ จบมาจากเมืองนอก สวยเท่ห์ สง่าทันสมัยเฉียบขาด หลงรักชาย ดูแลกิจการไร่ส้มคอกม้า เครื่องบินเล็กที่ อ.ฝาง


ชาลิสา บุญครองทรัพย์ แสดงเป็น พิมพรรณ ลูกสาวพิภพ นักเรียนนอก เอาแต่ใจตัวเอง ชอบดูถูกคน เจ้าชู้สวยเฉี่ยว ยั่วยวน ขี้หึง


ปรเมศวร์ สิงห์โพธิ์ แสดงเป็น เทพฤทธิ์ ลูกชายธนาธร พี่ชายทิพยา เจ้าของค่ายมวยใหญ่ มีใจเป็นธรรม มีนักมวยมากมายในค่าย


นาถยา แดงบุหงา แสดงเป็น ชื่น แม่ของ ชาญ/ชาย/ชัช มีจิตใจดีงาม มีเหตุผล ขี้สงสารคนอื่น รักลูกชายทั้งสามมากและเอ็นดูโฉม ทำขนมไทยโบราณ ขายส่งและขายหน้าบ้าน


ชลิต เฟื่องอารมย์ แสดงเป็น อิ่ม กระเทยรุ่นใหญ่ พ่อของเอม เจ้าของเกสท์เฮ้าส์ ปากร้ายใจดี ชอบสอดรู้สอดเห็นไปทุกเรื่อง รักและกลัวลูก


โกวิทย์ วัฒนกุล แสดงเป็น แนบ นักมวยเก่า รักในศิลปะมวยไทย เปิดค่ายมวยเล็ก ๆ ชื่อไทรงาม มีจิตใจที่ดี ครูสอนมวยให้ชาย


ปจิตรา ภรณ์เจริญ แสดงเป็น เอม ลูกสาวอิ่ม ถูกพ่อปลูกฝังให้เป็นทอม เพราะกลัวจะใจแตก จึงติดมาถึงปัจจุบัน คล่องแคล่ว ปราดเปรียว
Read more »

 
Powered by MBA