วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

มณีแดนสรวง


รัศมิชโลธร หรือ ชิโล เป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เธอเป็นนางฟ้ารุ่นเด็กที่ยังต้องเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ในโลกมนุษย์และสวรรค์อีกมาก แม้จะเป็นธิดาหัวแก้วหัวแหวนของ เทพบิดา หนึ่งในสามสิบสองเทพผู้เป็นใหญ่แห่งดาวดึงส์ แต่รัศมิชโลธรก็ต้องไปเรียนหนังสือเหมือนกับเทพบุตรและเทพนารีองค์อื่น ๆ เธอมีเพื่อนสนิทเป็นเทพบุตรหนุ่มรูปงามชื่อว่า อุ้มสม ทั้งคู่ชอบชวนกันเล่นสนุก แกล้งเทพนารี เทพบุตรองค์อื่นๆ อยู่เป็นอาจิณ จนพระอาจารย์ต่างพากันเบื่อหน่าย แต่ไม่มีใครกล้าทำอะไรรัศมิชโลธร เพราะพ่อของเธอเป็นเทพที่มีอำนาจสูง วันหนึ่งหลังจากเรียนวิชาพรหมลิขิตเสร็จเรียบร้อย รัศมิชโลธรนึกสนุก ชวนอุ้มสม-เทพบุตรผู้เป็นเพื่อนสนิท แอบเข้าไปในห้องของพระอาจารย์เพื่อดูสมุดพรหมลิขิต แอบดูเนื้อคู่ของพวกมนุษย์ด้วยความซุกซน

"อยากรู้นักว่าทำไมอาจารย์ถึงรู้ ว่าใครเป็นคู่กับใคร" รัศมิชโลธรบอกเพื่อน "ต้องมีบอกไว้ในสมุดปกหนังเล่มนั้นแน่ ๆ " สมุดเล่มนั้นวางอยู่บนโต๊ะกลางห้อง รัศมิชโลธรและอุ้มสมเหลียวซ้ายแลขวาเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีผู้ใดเห็น จากนั้นเทพทั้งสองก็ไปเปิดสมุดดูด้วยความตื่นเต้น ในสมุดเล่มนั้นจารึกชื่อผู้คนไว้มากมาย หลาย ๆ ชื่อมีเส้นใยบาง ๆ โยงเข้าหากัน นั่นคือสมุดที่บอกให้รู้ว่าใครเป็นคู่แท้กับใครนั่นเอง

รัศมิชโลธรพบด้วยความบังเอิญว่า มีหญิงชายคู่หนึ่งกำลังจะแต่งงานกัน โดยที่จริงแล้วเขาทั้งสองไม่ใช่คู่แท้กัน นางฟ้าจอมซนเลยคิดว่าไม่ควรปล่อยให้คนทั้งสองได้แต่งงานกันไป เพราะอีกไม่นานก็จะต้องหย่ากันอยู่ดี ดังนั้นเธอเลยชวนอุ้มสมให้ลงไปล่มงานวิวาห์ของชายหญิงคู่นี้ด้วยกัน โดยรัศมิชโลธรจำแลงกายเป็นหญิงสาวสวย เข้าไปตะโกนในงานวิวาห์คัดค้านการแต่งงานระหว่างของ ร.ต.อ. ดรัณ และ สิริสุดา จนทำให้งานล่มไปในที่สุด "แต่งไม่ได้ ฉันขอคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้" รัศมิชโลธรในร่างจำแลงตะโกนกลางโบสถ์ ท่ามกลางความตกตะลึงของแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน "เพราะฉันกับเจ้าบ่าวเป็นกิ๊กกัน"

อันที่จริงดรัณและสิริสุดาไม่ควรจะได้แต่งงานกันแต่แรกแล้ว เพราะดรัณเป็นนายตำรวจแห่งกองปราบปรามคดีพิเศษ ส่วนสิริสุดานอกจากเป็นนางแบบชื่อดังแล้ว เธอยังเป็นลูกสาวของ เจ้าพ่อทองทิว อีกด้วย พ่อของสิริสุดาเป็นเศรษฐีใหญ่ มีธุรกิจบ้านจัดสรรบังหน้า แต่เบื้องหลังมีธุรกิจที่ผิดกฎหมายมากมาย

การที่ดรัณและสิริสุดาได้มาพบกัน เป็นเพราะ ผู้การดำเกิง หัวหน้าหน่วยสืบสวนพิเศษของกรมตำรวจ ต้องการล้วงความลับของนายทองทิว เพราะมีข่าวว่าเขากำลังจะส่งหญิงสาวจำนวนมากไปขายให้กับเศรษฐีทางตะวันออกกลาง ผู้การดำเกิงเลยส่งให้ชายหนุ่มมาตีสนิทกับสิริสุดา เพื่อสืบความเคลื่อนไหวของเจ้าพ่อทองทิว สืบไปสืบมากลายเป็นว่าดรัณเกิดหลงรักสิริสุดาขึ้นมาจริง ๆ ถึงขั้นขอแต่งงาน


หลังจากทดสอบดรัณอยู่นานจนแน่ใจแล้วว่า ดรัณไม่ได้เปลี่ยนใจไปเข้าข้างกับนายทองทิว ผู้การดำเกิงจึงอนุญาตให้เขาแต่งงานได้ เพราะมั่นใจว่าดรัณเป็นผู้ใหญ่พอที่จะแยกแยะงานและเรื่องส่วนตัวออกจากกันได้ ส่วนเจ้าพ่อทองทิวอนุญาตให้สิริสุดาแต่งงานกับตำรวจ ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบเลยสักนิด เป็นเพราะเขาอยากให้ทุกอย่างดูแนบเนียน เขาคิดว่าถ้ามีลูกเขยเป็นตำรวจ เรื่องที่สังคมครหานินทาเรื่องผิดกฎหมายของเขาคงจะหมดไปเสียที เพราะถ้าเขาทำธุรกิจผิดกฎหมายจริง ๆ ล่ะก็ คงไม่ยอมให้ลูกสาวคนเดียวแต่งงานกับตำรวจแน่ ๆ

เป็นอันว่างานวิวาห์ของดรัณและสิริสุดาก็ล่มไปตามแผนของรัศมิชโลธร ท่ามกลางความสงสัยของ ร.ต.อ. สการ หรือแซมมี่ เพื่อนสนิทของเจ้าบ่าว และ เอิงเอย เพื่อนเจ้าสาว ในวันงานหลังจากรัศมิชโลธรตะโกนคำว่า "แต่งไม่ได้" เสร็จก็วิ่งหนีออกจากโบสถ์ไป โดยมีสการวิ่งไล่ตามไปติด ๆ แต่แล้วเธอก็กลับหายตัววับไปต่อหน้าต่อตาของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ไร้ร่องรอย สร้างความประหลาดใจให้กับสการยิ่งนัก

สการเป็นนายตำรวจหนุ่มหล่อ ปีที่ผ่านมาเขาเคยช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกพ่อเลี้ยงจับไปขาย ปกป้องจนหญิงสาวผู้นั้นปลอดภัย เขาจึงได้รับการโหวตจากสภาสตรีให้เป็นแมนออฟเดอะเยียร์ ตอกย้ำความฮ็อตของเขาให้มากขึ้นไปอีก สการมีแฟนเป็นนักข่าวสาวชื่อ มัดหมี่ มัดหมี่เป็นคนจุ้นจ้าน ขี้หึง ชอบเข้ามาวุ่นวายกับสการบ่อย ๆ จนทำให้หลายครั้งสการเสียงานเพราะความวุ่นวายของมัดหมี่ เมื่อเกิดเหตุการณ์กิ๊กมาถล่มงานวิวาห์ของดรัณ สามสาวคือสิริสุดา เอิงเอย และมัดหมี่ จึงรวมตัวกันเพื่อสืบหาหญิงสาวลึกลับคนนั้นให้จงได้

สการกับดรัณเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน เขารู้ว่าก่อนมาคบกับสิริสุดา ดรัณเป็นหนุ่มหล่อจอมเจ้าชู้ มีกิ๊กเล็กกิ๊กน้อยมากมาย แต่สการไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน เลยสงสัยว่าเธอเป็นใครมาจากไหนกันแน่ เมื่อไปดูภาพในกล้องวงจรปิด ก็พบว่าภาพงานวิวาห์ปกติมาตลอดจนกระทั่งรัศมิชโลธรมาปรากฏตัว กล้องก็สว่างวาบจนจับภาพอะไรไม่ได้ ภาพที่บรรดาแขกเหรื่อถ่ายเอาไว้ก็ไม่มีใครจับภาพของรัศมิชโลธรได้สักคนเดียว เจ้าพ่อทองทิวโกรธมากที่ลูกสาวถูกหักหน้า จึงใช้สมุนไปจับดรัณมาซ้อมอย่างเหี้ยมโหด สิริสุดาใจแข็งไม่ยอมไปเยี่ยม เพราะเธอยังไม่หายโกรธเขาที่ฉีกหน้าหล่อนกลางงานวิวาห์

รัศมิชโลธรและอุ้มสมกลับไปยังดาวดึงส์ด้วยความรื่นเริง เพราะทำสำเร็จตามแผนการ แต่สิ่งที่เธอทำลงไปนั้นผิดกฎสวรรค์อย่างร้ายแรง เทพบิดาโกรธมากที่ลูกสาวใช้อำนาจทิพย์ไปเปลี่ยนชะตากรรมของมนุษย์ รัศมิชโลธรจึงถูกเทพบิดาลงโทษด้วยการส่งตัวลงมาเป็นมนุษย์เดินดินที่ไม่มีอำนาจวิเศษใด ๆ ส่วนอุ้มสมถูกสาปลงมาเป็นนกแก้วพูดได้ เทพบิดาจะคืนความเป็นทิพย์ให้รัศมิชโลธรและอุ้มสมก็ต่อเมื่อ เทพบุตรและเทพธิดาทั้งสองหาทางทำให้ดรัณและสิริสุดากลับมาแต่งงานกันได้เหมือนเดิม จึงจะได้รับอภัยและสามารถกลับไปอยู่สวรรค์ได้อีกครั้งหนึ่ง

เทพมารดา และ รัศมิพรรณราย สงสารน้องสาวมาก จึงพยายามอ้อนวอนเทพบิดาให้ยกโทษให้รัศมิชโลธร แต่เทพบิดาไม่ตกลง เพราะสิ่งที่รัศมิชโลธรทำลงไปในครั้งนี้รุนแรงเกินกว่าจะให้อภัยได้ เธอต้องถูกลงโทษเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างแก่เทพนารีและเทพบุตรองค์อื่น ๆ แต่ด้วยความที่เป็นลูกรัก ไม่เคยถูกลงโทษสถานหนักเช่นนี้มาก่อน เทพบิดาเลยใจอ่อน ยอมมอบพรวิเศษสามประการให้รัศมิชโลธรสำหรับไว้ใช้ในยามคับขัน แต่มีข้อจำกัดว่าพรทั้งสามข้อ ห้ามใช้เพื่อทำให้ดรัณกลับมาคืนดีกับสิริสุดา ชายหญิงสองคนนั้นต้องกลับมาคืนดีกันด้วยความยินยอมพร้อมใจของตัวเองเท่านั้น

รัศมิชโลธรและอุ้มสมถูกส่งมายังโลกมนุษย์พร้อมกับดาวหาง ทุกอย่างอยู่ในสายตาของ อสุเรศ อสูรร้าย พร้อมด้วย อัคราสูร และ จิตราสูร ผู้เป็นบริวาร อสุเรศกับรัศมิชโลธรเคยเป็นคู่กรณีกันมาก่อน สมัยที่รัศมิชโลธรเป็นนางฟ้า เธอเคยแอบจำแลงกายเป็นมนุษย์ลงมาเที่ยวเล่นในโลก และถูกอสุเรศซึ่งแปลงกายเป็นมนุษย์ขึ้นมาเที่ยวเล่นบนโลกลวนลามเอา เธอโกรธอสูรร้ายมากที่ไม่เจียมตัว บังอาจมายุ่งวุ่นวายกับเทพนารีไฮโซอย่างเธอ ก็เลยสำแดงอิทธิฤทธิ์กล้อนผมอสุเรศเสียจนศีรษะล้าน เป็นที่อับอายแก่อสูรทั้งหลาย อสุเรศจึงผูกใจเจ็บตั้งแต่นั้นมา เขาตั้งใจว่าจะหาโอกาสแก้แค้นรัศมิชโลธรให้ได้ในวันหนึ่ง

โอกาสนั้นมาถึงอสุเรศเร็วเกินคาด อสูรหนุ่มเห็นรัศมิชโลธรถูกสาปเป็นมนุษย์ หมดสิ้นสภาพความเป็นทิพย์ จึงวางแผนกับลูกสมุนจะจับตัวเธอไปเป็นเมียและกักขังไว้ที่พิภพอสูรให้จงได้ อสุเรศเป็นลูกชายของจอมอสูร มีนางอสูรสาว ๆ เป็นเมียมากมายอยู่แล้ว เมียเอกของอสุเรศก็คือ นางราคะ นางโทสะ และ นางโมหะ สามพี่น้องผู้ร้ายกาจ

รัศมิชโลธรได้มาอยู่คอนโดหรูที่เทพบิดาเตรียมไว้ให้ เธอต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ ต้องทำกับข้าว ซักผ้า หุงหาอาหารด้วยตนเอง ไม่มีภาวะอิ่มทิพย์เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป อุ้มสมเองก็ต้องเรียนรู้การเป็นนกแก้วพูดได้ พร้อมกันนั้นทั้งสองก็ต้องช่วยกันหาวิธีการให้ดรัณและสิริสุดากลับมาคืนดีกันให้ได้ ช่างบังเอิญอย่างมากมาย ที่ห้องพักของรัศมิชโลธรอยู่ชั้นเดียวกับห้องพักของสการโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่เคยรู้มาก่อน

ชโลธร หรือรัศมิชโลธร เริ่มสนิทกับ คุณนารี มารดาของสการ เพราะมีห้องอยู่ตรงข้ามกัน คุณนารีอยากมีลูกสาว พอเห็นรัศมิชโลธรก็ชอบใจ เพราะหน้าตาเหมือนกับ หนูสโรชา ลูกสาวคนแรกของเธอที่เสียขีวิตไปเพราะจมน้ำตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ

วันหนึ่งรัศมิชโลธรและคุณนารีไปเดินซื้อของด้วยกันที่ซูเปอร์มาเก็ตใกล้บ้าน จิตราสูรซึ่งเฝ้าแอบมองรัศมิชโลธรอยู่ตลอดเวลา สบโอกาสเหมาะจึงแปลงร่างเป็นคนมาฉุดตัวรัศมิชโลธร เพื่อพาเธอไปให้เจ้านาย แต่เรื่องราวกลับโกลาหลเพราะสิริสุดาและเอิงเอยบังเอิญผ่านมาพอดี เธอจำได้ว่ารัศมิชโลธรก็คือผู้หญิงที่บุกไปล่มงานวิวาห์ของเธอ สิริสุดาและเอิงเอยจึงพยายามจะเข้าไปพูดกับรัศมิชโลธรให้รู้เรื่องว่าเธอคือใคร เป็นกิ๊กกับดรัณตั้งแต่เมื่อไหร่ และมาล่มงานวิวาห์ของสิริสุดาทำไม

จิตราสูรกำลังกระชากแขนรัศมิชโลธร พยายามจะพาตัวไปก็พอดีกับที่สิริสุดาและเอิงเอยวิ่งเข้ามาขัดจังหวะโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งหมดยืนยื้อยุดฉุดกระชากกันที่กลางถนนนั่นเอง คุณนารีเห็นเหตุการณ์ไม่เข้าที ก็พยายามจะเข้ามาช่วยรัศมิชโลธร คุณนารีถูกจิตราสูรผลักจนเสียหลักล้มลงไปบนถนนที่มีรถบรรทุกวิ่งมาด้วยความเร็ว แต่แล้วก่อนที่รถบรรทุกจะวิ่งมาทับร่างของคุณนารีจนแหลกเหลวนั้น รัศมิชโลธรตัดสินใจใช้พรข้อแรกช่วยเหลือคุณนารีจนปลอดภัย

จิตราสูรบาดเจ็บกลับไปพิภพอสูร ทำให้อสุเรศแค้นรัศมิชโลธรกว่าเก่า เขาสั่งให้สมุนทุกคนลงมือด้วยความรอบคอบ เพราะรัศมิชโลธรยังมีของดีคุ้มครองกายอยู่ ส่วนสิริสุดาและเอิงเอยกลับไปด้วยความงง ๆ เพราะอำนาจของเวทมนตร์ทำให้สองสาวลืมว่าเกิดอะไรขึ้น และพวกเธอมายืนอยู่กลางถนนได้อย่างไร

รัศมิพรรณรายรู้เรื่องที่อสูรร้ายจะมาจับตัวน้องสาวก็เลยร้อนใจ แอบเทพบิดาลงมาหาน้องที่คอนโด เธอนำสร้อยที่ทำมาจากแก้วสัตตพิธรัตนะจากดาวดึงส์ลงมาให้รัศมิชโลธรสวมติดกายเอาไว้ อำนาจของแก้วมณีจะทำให้อสูรร้ายไม่กล้าเข้าใกล้รัศมิชโลธร ก่อนจะกลับสวรรค์รัศมิพรรณรายยังขีดเส้นทิพย์ล้อมรอบห้องพักของน้องสาวเอาไว้ เส้นทิพย์นี้มีอำนาจสูง อสูรร้ายไม่สามารถก้าวข้ามเข้ามาได้ ตราบใดที่รัศมิชโลธรอยู่ภายในห้อง อสูรร้ายจะไม่สามารถทำอันตรายเธอได้เลย

หลังจากคุณนารีบาดเจ็บ สการและดรัณจึงได้รู้ความจริงว่า เพื่อนบ้านคนสวย ใจดี แสนน่ารักที่คุณนารีพูดถึงบ่อย ๆ ที่จริงแล้วก็คือสาวน้อยสิบแปดมงกุฎ คนเดียวกับที่ไปล่มงานวิวาห์ของ ดรัณนั่นเอง สการคิดว่าถ้าไม่ใช่พวกสิบแปดมงกุฎชอบหลอกเงินผู้ชาย รัศมิชโลธรก็อาจจะเป็นเพียงเด็กสาวใจแตก เป็นเมียน้อยเสี่ย ไม่อย่างงั้นเธอไม่น่ามีเงินซื้อคอนโดหรูหราอยู่ได้แน่ ๆ เขาพยายามสอบถาม หากรัศมิชโลธรไม่รู้จะสารภาพว่าอย่างไร สการไปที่สำนักงานคอนโดก็พบว่าบัตรประชาชนของรัศมิชโลธรเป็นบัตรประชาชนปลอม ในบัตรประชาชนเธอใช้ชื่อว่า "น.ส. ชโลธร ณ แดนสรวง"

ณ แดนสรวง สการทำหน้าเหรอหรา เพราะไม่เคยได้ยินนามสกุลนี้มาก่อน เธอให้ ตรีชฎา เลขาร่างอ้วนลองค้นหาในฐานข้อมูลประชากรก็ไม่พบชื่อและนามสกุลนี้ "คนเถื่อนแน่ ๆ " ตรีชฎาจีบปากจีบคอ "อาจจะเป็นเจ้ามาจากทางเหนือ พวกเชียงตุง ไทใหญ่ หนีเข้าเมืองมาก็ได้นะ นามสกุลถึงไม่มีในระบบประชากรของบ้านเรา แถมฟังดูแปลกแบบนี้" สการว่า "เป็นไปได้ว่ะแซมมี่" ดรัณเห็นด้วยกับเพื่อน "มิน่าล่ะ ผิวของเธอถึงขาวผ่อง สวยยังกับทองทา"

สการพยายามคาดคั้นเอาความจริงกับรัศมิชโลธรว่าเธอคือใครกันแน่ รัศมิชโลธรจึงตัดสินใจสารภาพความจริงให้สการฟังว่า เธอไม่ใช่สิบแปดมงกุฎ ไม่ใช่เจ้าไทใหญ่หนีเข้าเมืองมา แต่เป็นนางฟ้ามาจากดาวดึงส์ต่างหาก และที่เธอลงมาล่มวิวาห์ของดรัณ เพราะเห็นจากสมุดเนื้อคู่ว่าเขากับสิริสุดาไม่ใช่เนื้อคู่กัน เธอหวังว่าสการจะยอมเชื่อแล้วยอมช่วยเธอ ทำให้ดรัณกับสิริสุดากลับมาคืนดีกัน เธอและอุ้มสมจะได้กลับสวรรค์เสียที แต่รัศมิชโลธรคิดผิด เพราะนอกจากสการไม่เชื่อแล้ว เขายังคิดว่าเธอเพี้ยนไปอีกต่างหาก ตั้งแต่นั้นมาสการและรัศมิชโลธรก็ทำตัวเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาโดยตลอด

มีเพียงคุณนารีเท่านั้นที่เชื่อรัศมิชโลธร วันหนึ่งที่สการออกไปทำงาน เธอกับรัศมิชโลธรตัดสินใจไปหาสิริสุดา เพื่อพูดให้เธอผู้นั้นเข้าใจ รัศมิชโลธรเชื่อว่า หากสิริสุดาเข้าใจว่าเธอกับดรัณไม่มีอะไรกัน สิริสุดาก็จะยอมกลับไปแต่งงานกับดรัณ และเธอกับอุ้มสมก็จะได้กลับสวรรค์เสียที แต่แล้วเรื่องราวก็กลับยุ่งเหยิงเกินคาด เพราะอัคราสูรสมุนของอสุเรศเฝ้าสะกดรอยตามรัศมิชโลธรมาโดยตลอด มันปลอมตัวเป็นลุงคนขับแท็กซี่รับคุณนารี อุ้มสม และรัศมิชโลธรขึ้นรถไป

แต่แทนที่จะขับตรงไปตามทางที่คุณนารีบอก มันกลับพุ่งพารัศมิชโลธรลงไปยังพิภพอสูรที่อยู่ต่ำจากโลกมนุษย์ลงไป รัศมิชโลธรเห็นผิดท่า จึงพยายามต่อสู้กับอัคราสูร อัคราสูรไม่สามารถแตะต้องตัวรัศมิชโลธรได้ เพราะเธอมีสร้อยสัตตพิธรัตนะคุ้มครองกายอยู่ มันจึงจับตัวอุ้มสมไปแทน อัคราสูรสั่งให้รัศมิชโลธรถอดสร้อย ไม่เช่นนั้นมันจะฆ่าอุ้มสมเสีย แต่อุ้มสมยอมตาย ไม่ยอมให้รัศมิชโลธรถอดสร้อย แล้วในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานนั่นเอง รัศมิชโลธรก็ตัดสินใจใช้พรวิเศษข้อที่สองช่วยชีวิตของอุ้มสมเอาไว้ได้ อัคราสูรบาดเจ็บกลับไปยังพิภพอสูร ขณะที่คุณนารีได้เห็นกับตาว่ารัศมิชโลธรคือเทพนารีจริง ๆ

สิริสุดากลุ้มใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะใจจริงแล้วเธอยังรักดรัณอยู่ เอิงเอยเห็นเพื่อนเป็นทุกข์ เลยพาเพื่อนไปหาเทพธิดาตาทิพย์เพื่อดูดวง "แม่นมากนะยะหล่อน" เอิงเอยคอนเฟิร์ม "ยังกะตาเห็น ใคร ๆ เลยเรียกว่าเทพธิดาตาทิพย์ไง"

ปกติแล้วสิริสุดาไม่ค่อยเชื่อเรื่องหมอดู แต่ก็ยอมตามเอิงเอยไป เพราะดีกว่าอยู่เปล่า ๆ เทพธิดาตาทิพย์เพ่งดูสิริสุดาแล้วถึงกับอึ้งกิมกี่ เธอเห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นในงานแต่งงานของสิริสุดา พยายามองก็เห็นรัศมิชโลธรแว๊บ ๆ แต่เมื่อพยายามเพ่งมองให้ละเอียดก็กลับไม่เห็นอะไร นอกจากรัศมีกระจ่างสว่างตา "นังผู้หญิงคนนั้นต้องเล่นของแน่ ๆ ชั้นถึงมองหน้ามันไม่เห็น หน็อยแน่ะ"

เทพธิดาตาทิพย์คิดว่ารัศมิชโลธรมีของดีคุ้มครอง ทำให้ตาทิพย์ของเธอมองอะไรไม่เห็น และของดีที่ว่านั่นก็คือสร้อยที่รัศมิชโลธรสวมอยู่นั่นเอง เทพธิดาจึงแนะนำให้สิริสุดาทำลายสร้อยของรัศมิชโลธรทิ้งไปเสียถ้าหากว่ามีโอกาส "สร้อยนั่นมีเวทมนตร์ทำให้ผู้ชายลุ่มหลง จงหาโอกาสทำลายมันทิ้งไป แล้วผู้ชายของเธอก็จะกลับมาหา"

ดรัณเริ่มสนใจว่ารัศมิชโลธรเป็นคนแปลก เขาพยายามแวะมาหาเธออีกหลายครั้ง แต่ทุกครั้งสการจะคอยขัดขวางเสมอ จนมัดหมี่แฟนสาวเข้าใจผิด คิดว่าสการตกหลุมรักรัศมิชโลธร เธอไม่พอใจรัศมิชโลธรมาก พยายามหาทางกลั่นแกล้งทุกวิถีทาง

ในวันลอยกระทง ผู้การดำเกิงรู้มาว่านายทองทิวกำลังจะขนย้ายผู้หญิงจำนวนมาก โดยเอาผู้หญิงขังในตู้คอนเทนเนอร์ แล้วเอาขึ้นเรือไป ผู้การต้องการส่งสายลับผู้หญิงเข้าไปเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงพวกนั้น แต่บังเอิญสายลับที่ทำงานให้กับหน่วยคดีพิเศษมานานถูกนายทองทิวจับได้และฆ่าทิ้งไป ผู้การดำเกิงจำเป็นต้องหาผู้หญิงสักหนึ่งมาทำงานนี้แทน "แต่เธอคนนั้นจะต้องเก่งพอจะหนีเอาตัวรอดได้" ผู้การบอกกับสการและดรัณ สการนึกถึงรัศมิชโลธรขึ้นมาทันที เพราะเธอคนนั้นเก่งฉกาจ สามารถหายตัวไปได้ต่อหน้าต่อตาของเขา เธอต้องเอาตัวรอดได้แน่ เขาจึงเสนอรัศมิชโลธร และผู้การดำเกิงก็ตกลงทันที

สการกลับมาบอกรัศมิชโลธร อธิบายให้เธอฟังว่าเขาทำงานอะไรอยู่ เขามีข้อแลกเปลี่ยนว่า ถ้ารัศมิชโลธรทำงานสำเร็จ เขาจะทำบัตรประชาชนที่ถูกต้องให้กับเธอ ยอมเชื่อว่าเธอมาจากดาวดึงส์ และจะช่วยให้ดรัณและสิริสุดามาคืนดีกัน รัศมิชโลธรรู้สึกทึ่งในงานที่สการทำ เธอตัดสินใจจะช่วยเขา ไม่ใช่เพราะต้องการจะให้เขาเชื่อว่าเธอเป็นนางฟ้า แต่เป็นเพราะเธออยากช่วยชีวิตผู้หญิงมากมายที่ถูกหลอกไปขายต่างประเทศมากกว่า

ขณะที่ทางโลกกำลังเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ดอกแคฝอยในดินแดนอสูรก็เริ่มเบ่งบาน บอกให้รู้ว่าถึงวาระของเทวาสุรสงคราม ที่เทวดาและอสูรกำลังจะสู้รบกันอีกครั้ง อสุเรศเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะจับตัวรัศมิชโลธรในตอนนี้ เพราะเทพบิดาของเธอจะต้องไม่มีเวลามาช่วยได้แน่ ๆ แต่ปัญหาใหญ่คือ สร้อยสัตตพิธรัตนะที่รัศมิชโลธรสวมอยู่ เมื่อเธอมีสร้อยนั้น อสุเรศและบรรดาอสูรจะไม่สามารถเข้าใกล้ได้เลย นางราคะ โทสะ และโมหะสามพี่น้องจึงอาสาช่วยอสุเรศ โดยการเข้าสิงมัดหมี่ สิริสุดา และเอิงเอย ใช้มนุษย์ทั้งสามต่อกรกับรัศมิชลธรแทนพวกตน

ถึงวันที่นายทองทิวส่งผู้หญิงไปขาย รัศมิชโลธรไปที่ท่าเรือตามแผนของสการและดรัณ สร้างความปั่นป่วนจนกระทั่งคนร้ายเกิดความสับสน ตำรวจที่ซ่อนตัวอยู่เปิดฉากยิงต่อสู้ ขณะเดียวกันสิริสุดา เอิงเอย และมัดหมี่ก็โผล่มาพอดี ทำให้เกิดผิดแผน เรื่องราววุ่นวายหนักกว่าเก่า สิริสุดาที่ถูกนางโทสะครอบงำ โกรธจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ ตบตีกับรัศมิชโลธร กระชากสร้อยสัตตพิธรัตนะขาด และโยนทิ้งไปในทะเล

สมุนของเจ้าพ่อทองทิวต่อสู้จนแพ้สการและดรัณ พวกมันตัดสินใจจุดชนวนระเบิดเพื่อสังหารให้ทุกคนตายไปพร้อม ๆ กัน เป็นจังหวะเดียวกับที่อสุเรศปรากฏตัวขึ้น และกำลังจะฉุดตัวรัศมิชโลธรไป รัศมิชโลธรเห็นสิริสุดา ดรัณ และสการตกอยู่ในอันตราย จึงตัดสินใจใช้พรวิเศษข้อสุดท้ายช่วยเหลือสการ ดรัณ และสิริสุดา แทนที่จะใช้ให้ตัวเองปลอดภัยจากอสุเรศ ผลก็คือ สการ สิริสุดา และดรัณปลอดภัย แต่รัศมิชโลธรถูกอสูรร้ายจับตัวไปในที่สุด...

คราวนี้ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายใด ๆ อีกแล้ว เพราะทั้งสการ สิริสุดา และดรัณ ต่างเห็นอำนาจทิพย์ของรัศมิชโลธรกับตาของตนเอง พวกเขาเชื่อแล้วว่าเธอเป็นนางฟ้ามาจากแดนสรวงจริง ๆ แต่ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เทวดากับอสูรกำลังจะรบกัน อสุเรศจึงไม่สามารถพารัศมิชโลธรกลับไปยังพิภพอสูรได้ เพราะจอมอสูรจะต้องโกรธมาก เพราะเขามีหน้าที่ต้องช่วยทัพอสูรรบกับเทวดา แต่กลับมามัวห่วงเรื่องผู้หญิง อสุเรศเลยตัดสินใจพารัศมิชโลธรไปซ่อนตัวอยู่ที่ป่าหิมพานต์ก่อน รอจนกว่าเทวาสุรสงครามจะสิ้นสุด จึงค่อยพารัศมิชโลธรกลับไปยังพิภพอสูรอีกครั้ง

ในที่สุดสการก็รู้ว่ารัศมิชโลธรเป็นนางฟ้าจริงๆ เขาเสียใจและกลุ้มใจมากไม่รู้ว่าเธอหายตัวไปไหน สการ ดรัณ เอิงเอย และสิริสุดา บากหน้ากลับไปหาเทพธิดาตาทิพย์ขอให้เธอช่วย เทพธิดาใช้พลังตาทิพย์เพ่งมองจนรู้ว่ารัศมิชโลธรอยู่ที่ป่าหิมพานต์ สการไม่รู่ว่ามนุษย์จะเดินทางไปหิมพานต์ได้อย่างไร รัศมิพรรณรายรู้ข่าวน้องสาวถูกอสุเรศจับตัวไปก็ร้อนใจลงมายังโลกมนุษย์ ช่วงเกิดสงครามระหว่างเทวดาและอสูร เทพทั้งหลายไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปไหนมาไหนได้โดยอิสระ รัศมิพรรณรายจึงไม่สามารถไปช่วยน้องได้ สการอาสาขอไปช่วยรัศมิชโลธรด้วยตัวเอง รัศมิพรรณรายตกลงใจส่งสการไปที่หิมพานต์ในที่สุด

หิมพานต์เป็นดินแดนกว้างใหญ่ สการไม่รู้เลยว่าจะตามหารัศมิชโลธรได้ที่ไหน เขาคิดว่าเขาจะใช้หัวใจรักของเขาตามหาเธอให้พบ โชคดีตอนที่สการมาถึงหิมพานต์ เขาช่วยลูกครุฑตนหนึ่งไว้โดยบังเอิญ ลูกครุฑชื่อ ตรัสวิน กำลังจะถูกนาคจับกิน เมื่อสการช่วยเหลือเอาไว้ ลูกครุฑเลยสัญญาว่าจะช่วยสการเป็นการตอบแทน เขาพาสการออกตามหารัศมิชโลธรไปยังดินแดนต่าง ๆ สการช่วยเหลือวิทยาธรตนหนึ่งเอาไว้โดยบังเอิญ วิทยาธรตนนั้นเลยให้อาวุธสการมาสำหรับต่อสู้ป้องกันตัว พร้อมกับบอกว่ามีแมงมุมประหลาดมาปรากฏกายอยู่ในดินแดนของพวกกินรี ขอให้สการไปช่วยหน่อย

ตอนแรกสการก็อิดออด เพราะเขาใจจดจ่อกับการช่วยเหลือรัศมิชโลธรเท่านั้น แต่ด้วยความที่ใจอ่อน เขาเลยตัดสินใจไปช่วยพวกกินรีจากแมงมุมปีศาจที่ชักใยอยู่หน้าถ้ำแห่งหนึ่ง สการต่อสู้กับแมงมุมร้ายโดยใช้พระขรรค์ที่ได้จากวิทยาธรจนเอาชนะแมงมุมร้ายได้ในที่สุด ขณะจะเดินกลับออกไป สการได้ยินเหมือนเสียงของใครร้องไห้ดังมาจากถ้ำ เมื่อเข้าไปดูก็ไม่พบอะไรนอกจากลูกหว้าขนาดใหญ่บนต้น เขามั่นใจว่าเสียงคนร้องไห้ดังมาจากในนั้น จึงปีนขึ้นไปใช้พระขรรค์ตัดลูกหว้าตกลงมา เมื่อลูกหว้าแตกออก ก็ปรากฏว่ารัศมิชโลธรถูกจับขังอยู่ในนั้นนั่นเอง และแมงมุมร้ายที่ชักใยอยู่หน้าถ้ำก็คือสมุนอสูรของอสุเรศ

อสุเรศและบริวารอสูรถูกจอมอสูรกักบริเวณ เพราะเที่ยวไปก่อความเดือดร้อนจนเกือบจะเกิดเรื่องใหญ่ อสุเรศหมดโอกาสที่จะมารังควานรัศมิชโลธรอีกต่อไป และตรัสวินก็ช่วยให้รัศมิชโลธรและสการเดินทางกลับโลกมนุษย์ได้ในที่สุด

ระหว่างเกิดเหตุร้ายกับเจ้าพ่อทองทิว สิริสุดาถึงกับช็อค ไม่คิดว่าเบื้องหลังของพ่อจะมีอาชีพค้ามนุษย์ เธอรู้สึกเสียใจที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นายทองทิวหนีออกนอกประเทศ ทิ้งให้สิริสุดาต้องตอบคำถามสื่อและหนังสือพิมพ์ สิริสุดาเฟดตัวหายไปจากวงสังคม บรรดาเพื่อนฝูงที่เคยคบหารวมทั้งมัดหมี่ต่างพากันตีตัวออกห่าง สิริสุดาได้เห็นธาตุแท้ของมนุษย์ ในขณะเดียวกันดรัณก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี จนทั้งสองเข้าใจกัน และกลับมาแต่งงานกันในที่สุด โดยความยินยอมพร้อมใจของทั้งสองคน ไม่มีใครบังคับ

เทพบิดาทราบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ได้เห็นจิตใจอันงดงามของรัศมิชโลธรที่ใช้พรวิเศษไปในการช่วยเหลือผู้อื่นทุกครั้ง แทนที่จะเป็นตนเอง อีกทั้งดรัณและสิริสุดาได้กลับมาคืนดีกันเรียบร้อยแล้ว ท่านจึงถอนคำสาปให้กับรัศมิชโลธร และอนุญาตให้เธอและอุ้มสมกลับสวรรค์ได้ แต่มาถึงตอนนี้เธอกลับไม่อยากกลับสวรรค์เสียแล้ว รัศมิชโลธรเพิ่งรู้ตัวว่า ที่จริงแล้วเธอรักสการ และสการก็รักเธอมาก รัศมิชโลธรตัดสินใจไม่กลับดาวดึงส์ แต่ขออนุญาตเทพบิดาใช้ชีวิตเหมือนมนุษย์อยู่กับสการ ดูแลกันและกัน ต่างชวนกันทำความดีและช่วยเหลือสังคมจนสุดความสามารถ

ตอนแรกเทพบิดาไม่เห็นด้วย หากรัศมิพรรณรายและเทพมารดาช่วยกันขอร้องจนเทพบิดาใจอ่อนและเห็นใจรัศมิชโลธรในที่สุด อุ้มสมกลับไปที่ดาวดึงส์เพียงผู้เดียว เขามีโอกาสได้เห็นสมุดพรหมลิขิตแล้วก็ต้องประหลาดใจ ที่ได้เห็นว่าสการและรัศมิชโลธรเป็นคู่แท้กันมาหลายชาติภพแล้ว เวลาในโลกมนุษย์ ๑๐๐ ปี เท่ากับเวลาสวรรค์ไม่กี่นาที รัศมิชโลธรหวังว่าเมื่อเธอและสการหมดอายุขัยในโลกมนุษย์แล้ว ทั้งสองก็จะได้กลับไปที่ดาวดึงส์ด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง ติดตามชม ละครมณีแดนสรวง ได้ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.30 น. - 20.00 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครมณีแดนสรวง เริ่มตอนแรกศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม 2555

รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร มณีแดนสรวง

พศุตม์ บานแย้ม รับบท สการ ใน ละคร มณีแดนสรวง
ซาร่า เล็กจ์ รับบท รัศมิชโลธร ใน ละคร มณีแดนสรวง
รณเดช วงศาโรจน์ รับบท ดรัณ ใน ละคร มณีแดนสรวง
ภัทราดา ยอดประสิทธิ์ รับบท สิริสุดา ใน ละคร มณีแดนสรวง
มณีรัตน์ คำอ้วน รับบท เอิงเอย ใน ละคร มณีแดนสรวง
บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ รับบท อุ้มสม ใน ละคร มณีแดนสรวง
อุทุมพร ศิลาพันธ์ รับบท นารี ใน ละคร มณีแดนสรวง
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี รับบท ทองทิว ใน ละคร มณีแดนสรวง
สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย รับบท มัดหมี่ ใน ละคร มณีแดนสรวง
ธนานน ตั้งไพบูลย์ รับบท อสุเรศ ใน ละคร มณีแดนสรวง
เฉลิมพร ทิฆัมพรธีรวงศ์ รับบท จิตราสูร ใน ละคร มณีแดนสรวง
กรกฎ ธนภัทร รับบท อัคราสูร ใน ละคร มณีแดนสรวง
ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม รับบท ดำเกิง ใน ละคร มณีแดนสรวง
ศิรินุช เพ็ชรอุไร รับบท ตรีชฎา ใน ละคร มณีแดนสรวง
ศิรประภา สุขดำรงค์ รับบท รัศมิพรรณราย ใน ละคร มณีแดนสรวง
กฤศภูดิศ สุริยวงศ์ รับบท รุจน์ ใน ละคร มณีแดนสรวง
ทูน หิรัญทรัพย์ รับบท เทพบิดา ใน ละคร มณีแดนสรวง
โอลิเวอร์ บีเวอร์ รับบท ชี้คอาเหม็ด ใน ละคร มณีแดนสรวง
มินทิรา งามทรัพย์มณี รับบท นางราคะ ใน ละคร มณีแดนสรวง
มนัสวี กฤตานุกูลย์ รับบท นางโทสะ ใน ละคร มณีแดนสรวง
ลิลลี่ แม็คกร๊าธ รับบท นางโมหะ ใน ละคร มณีแดนสรวง
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ รับบท เทพธิดาตาทิพย์ ใน ละคร มณีแดนสรวง
ด.ช. ชินพรรธน์ กิติชัยวรางค์กูร รับบท ตรัสวิน ใน ละคร มณีแดนสรวง
Read more »

รักเกิดในตลาดสด


ตลาด...เคยเป็นสังคมสงบสุขเล็ก ๆ ถึงผู้คนจะพลุกพล่านแต่ก็อบอุ่น จนถึงวันนี้ด้วยพิษเศรษฐกิจและการเปลี่ยนไปของสังคมเมือง ห้างสรรพสินค้าเข้ามามีบทบาทต่อคนมากขึ้น ทำให้ตลาด...ที่เคยรุ่งเรืองต้องกลับซบเซาลง แต่ผู้คนในตลาดแห่งนี้ก็ยังคงยึดอาชีพเดิมไม่เปลี่ยน แม้ยอดขายรายวันและลูกค้าประจำจะหดหาย แต่เสียงหัวใจของผู้คนในที่แห่งนี้ก็ยังเต้นต่อไป

ต๋อง นักศึกษาหนุ่มผู้เต็มไปด้วยความฝันและจินตนาการ ต้องมารับหน้าที่ขายผักแทนพี่สะใภ้ที่ท้องแก่ใกล้คลอด ต๋องคิดหาวิธีเรียกลูกค้าตามประสาคนมีความคิดแหวกแปลกแนวไม่เหมือนชาวบ้าน ทั้งเล่นกีต้าร์ ร้องเพลง แหล่เรียกลูกค้า รวมไปถึงเลียนเสียงคนดังผ่านไมค์ดึงดูดลูกค้าให้มาเข้าร้าน ทำให้ตลาดที่ซบเซาดูมีสีสันมากขึ้น และด้วยความเป็นคนช่างพูดช่างคุยทำให้เป็นที่สนิทสนมของคนในตลาดได้อย่างรวดเร็ว

แต่วิธีการแปลกประหลาดของต๋องไม่ได้มีไว้แค่ดึงดูดลูกค้าเท่านั้น แต่ลุกลามไปถึงขั้นจีบกิมลั้ง สาวหมวยสวยหวาน แม่ค้าร้านขายปลาฝั่งตรงข้าม จนสร้างความไม่พอใจให้กับ กิมฮวย แม่ของกิมลั้ง ทำให้มีปากเสียงกันเป็นประจำ กิมลั้งแม้จะเก็บอาการทำเป็นไม่สนใจต๋อง แต่นานไปก็มีอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คล้อยตามไปด้วย จนถึงขั้นพูดคุยต่อปากต่อคำกันไป จนกิมฮวยอยากจะสั่งห้ามกิมลั้งมาขายของ ติดแต่ว่าไม่มีใครมาผลัดเปลี่ยน ลำพังจะพึ่ง กิมแช ลูกสาวอีกคนที่เอาแต่กินกับนอนก็พึ่งไม่ได้

ที่สำคัญกิมฮวยต้องการให้กิมลั้งได้มาพบเจอกับจาตุรงค์ ลูกชายเต๊กไฮ้ เจ้าของร้านขายหมูที่เธอหมายมั่นที่จะให้ทั้งสองตกล่องปล่องชิ้นเป็นทองแผ่นเดียวกัน จาตุรงค์เองก็แอบชอบกิมลั้งอยู่แล้วทุกอย่างเหมือนจะลงตัว แต่ติดที่กิมลั้งไม่ถูกชะตากับจาตุรงค์ เพราะแอบเห็นจาตุรงค์นัดเพื่อนเที่ยวสำมะเลเทเมา ไม่ได้เอาการเอางาน เหมือนกับภาพที่สร้างไว้ให้กิมฮวยได้เห็น


ต๋องมุ่งหน้าตามจีบกิมลั้งโดยมี เลื่อน เด็กเข็นของในตลาดที่ชื่นชมบูชาต๋องคอยเป็นพ่อสื่อส่งของให้กิมลั้ง และยังได้กิมแชน้องสาวกิมลั้งมาช่วยเชียร์อีกแรง เหตุที่กิมแชสนับสนุนต๋องเพราะเธอเองหลงกรี๊ดมาดเกาหลีของ จาตุรงค์ และคิดว่าถ้ากิมลั้งลงเอยกับต๋อง จาตุรงค์ก็คงอกหักแล้วมาซับน้ำตากับอกหนา ๆ ของเธอ

แต่ทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะติดที่กิมฮวยคอยส่งส่วยเปิดทางรักให้จาตุรงค์ให้ได้ไปไหนมาไหนกับกิมลั้งบ่อย ๆ ซึ่งเป็นเรื่องเด็ดขาดยากที่จะทัดทาน แต่คนจะรักกันกำแพงขวางกั้นก็พังได้ ต๋องเองก็ขึ้นชื่อเรื่องจอมวางแผนแอบแยกจาตุรงค์กับกิมลั้งแบบหักครึ่งทาง ทำให้เขากับกิมลั้งได้มีเวลาศึกษาดูใจกันมากขึ้น

ต๋องได้คุยฟุ้งโครงการตลาดในฝันให้กิมลั้งฟัง ว่าถ้าทุกคนในตลาดร่วมมือกันทำตลาดในฝันทั้งตบแต่งแผงให้มีสีสันเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งการแต่งตัวของพ่อค้า แม่ค้า มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม รวมถึงการละเล่นที่ดึงดูด มีกิจกรรมทุกวันหยุด รับรองว่าคนต้องมาตลาดมากขึ้น และรายได้ที่หดหายก็จะกลับมาเป็นกอบเป็นกำ กิมลั้งดูตื่นเต้นกับไอเดียของต๋องและพร้อมที่จะร่วมมือผลักดันให้ตลาดในฝันเป็นความจริง

และคนแรกที่ต๋องได้เสนอไอเดียนี้ก็คือ คุณนายสดศรี คุณนายเจ้าของตลาดจอมงก ซึ่งก็ได้รับคำด่ากลับมาเป็นรางวัล แต่ต๋องไม่ยอมแพ้ทำใบปลิวแจกพร้อมกับภาพกราฟฟิคจากคอมพิวเตอร์ให้คนในตลาดได้เห็น แต่กลับกลายเป็นเรื่องเพ้อเจ้อเสียเวลาทำมาหากินของทุกคน ทำให้ต๋องต้องหาวิธีเกลี่ยกล่อมวิธีใหม่ให้ทุกคนคล้อยตามให้ได้ กิมลั้งเห็นใจต๋องจึงมาช่วยสนับสนุนอย่างออกหน้า ทำให้จาตุรงค์ไม่พอใจ พาพวกมาหาเรื่องต๋องจนมีเรื่องชกต่อยกัน

กิมฮวยรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุมด่าต๋องที่ทำร้ายว่าที่ลูกเขยสุดที่รัก ทั้งที่ต๋องพยายามอธิบายว่าเขาไม่ได้เป็นคนหาเรื่องแต่กิมฮวยก็ไม่ฟัง ปรามาสต๋องว่าเป็นพวกนักเลงหัวไม้ดีแต่เพ้อเจ้อ อย่าทำเจ๋อมาเสนอตัวกับลูกสาวเธอเลย ต๋องเลือดขึ้นหน้าจึงประกาศท้ากิมฮวยว่าถ้าเขาทำให้ตลาดนี้กลับมาคึกคักขายดีและโด่งดังอีกครั้ง จะยอมให้เขาคบหากับกิมลั้งมั้ย กิมฮวยรับปากอย่างไม่ต้องคิดเพราะมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์ว่าคนอย่างต๋องไม่มีทางทำได้แน่ ๆ พร้อมทั้งต่อรองว่าถ้าทำไม่สำเร็จต๋องต้องเลิกยุ่งกับกิมลั้ง และหายหน้ากลับถิ่นฐานไปไม่ต้องอยู่ให้รำคาญตาด้วย

ต๋องเริ่มหาวิธีใหม่ เดินสายคลุกวงในไปทีละแผงทั้ง ป้าพิณ ร้านข้าวแกง ที่ไม่เคยยุ่งสุงสิงกับใครนอกจาก เขียวหวาน ลูกจ้างชาวพม่าที่เป็นเหมือนญาติคนเดียว คำมูล พ่อค้าส้มตำชาวอีสานผู้ต้องการสละโสด ชมพู่เจ้าของร้านเสริมสวยผู้คลั่งไคล้ในชายหนุ่ม แม่ค้าแผงต่าง ๆ รวมถึง ลุงชวนชม เจ้าของโรงหนังที่เป็นที่หวาดกลัวของคนในตลาด เพราะต๋องมองว่าโรงหนังคือจุดบันเทิงแรกที่เขาจะใช้ในการเอาชนะใจคนอื่น ๆ แต่เหนือกว่านั้นเขาต้องเอาชนะใจลุงชวนชมก่อน แนวร่วมที่เห็นด้วยกับต๋องนอกจากเลื่อน กิมลั้ง และกิมแชแล้ว ก็ยังมี คิตตี้ หรือ สมคิด กระเทยร้านดอกไม้ที่แอบรักต๋องแบบทุ่มเทแน่แท้ แต่ไม่กล้าแสดงออก

เมื่อต๋องเดินหน้าสัมผัสความจริง รายละเอียดของแต่ละคนทำให้เห็นว่าสิ่งที่เขาคิดไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่มีใครสนใจความคิดของต๋อง แม้กระทั่ง ประชา พี่ชายแท้ ๆ ของต๋อง ก็ด่าว่าต๋องจนหมดความมั่นใจ ยิ่งแผงหมูของพ่อจาตุรงค์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ใครจะเข้าร่วมอุดมการณ์กับศัตรูหัวใจของลูกชายเขา ร้านของกิมฮวยก็คงยากเย็นด้วยเหตุผลเดียวกัน คิตตี้จึงเสนอความคิดว่า คนที่มีอิทธิพลต่อความคิดของคนในตลาดอีกคนที่มีน้ำหนักในการพูดก็คือ จะเด็ด เจ้าของร่างทรงเจ้าพ่อสิงโตทอง ที่ทุกคนในตลาดศรัทธานับถือ แม้จะเป็นหนทางที่เป็นไปได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างใจ เพราะจะเด็ดเกลียดต๋องเข้าไส้ เพราะต๋องเคยทำทะลึ่งไปจับผิดเจ้าพ่อร่างทรง ทำให้ทุกอย่างดูจะมืดมนไปเสียหมด

แต่ด้วยกำลังใจจากกิมลั้ง ทำให้ต๋องค่อย ๆ เข้าไปทำความรู้จักพูดคุยกับคนในตลาดมากขึ้น จนทำให้ได้เรียนรู้ชีวิตของแต่ละคน และเห็นปมปัญหาที่แตกต่างของผู้คนในตลาด ต๋องเริ่มจริงจังและมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของแต่ละคน จนเป็นความผูกพันและเข้าใจชีวิตมากขึ้น ต๋องทุ่มเทที่จะสานต่อโครงการให้สำเร็จเพื่อช่วยเหลือทุกคน ถึงขนาดรับข้อเสนอยอมเป็นคู่เดทของ ณดา ลูกสาวเจ้าของตลาดที่แอบชอบเขาอยู่ เพื่อให้ช่วยเกลี้ยกล่อมคุณนายให้ออกกฎสั่งบังคับให้ทุกคนทำตาม จนกิมลั้งหึงและเลิกพูดกับต๋องไปพักใหญ่ และการช่วยไขปัญหาบวกคำปรึกษาต่าง ๆ ของต๋องทำให้ได้ใจใครหลายคนในตลาด จนลองเชื่อใจทำตามต๋องดูสักครั้ง

เมื่อจาตุรงค์เห็นว่าต๋องเริ่มที่จะเดินหน้าโครงการตลาดในฝันและเป็นไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะงานเลี้ยงฉลองตลาดที่ต๋องเป็นโต้โผได้รับความร่วมมือจากผู้คนและร้านค้าต่าง ๆ มีหนังฉายฟรี มีออกร้าน มีการแสดง และสามารถดึงคนมาเที่ยวตลาดได้มาก จึงพาพรรคพวกมาก่อเรื่องทำให้งานของต๋องพังยับ และรุนแรงถึงกับสร้างสถานการณ์ให้ไฟไหม้โรงหนังเพื่อโยนให้เป็นความสะเพร่าของต๋อง ต๋องเสียใจ ท้อใจ จนหมดกำลังใจหนีหายกลับบ้าน

กิมลั้งกับเลื่อนจึงแอบไปตามหาต๋องถึงบ้านที่อัมพวา จนได้รู้ว่าต๋องเป็นที่ตราหน้าของคนมากมายว่าเป็นคนไม่ได้เรื่อง ทำอะไรไม่เคยสำเร็จสักอย่าง และยังเป็นตัวซวยของตำบล กิมลั้งยิ่งเห็นใจต๋องมากขึ้น และสัญญาว่าจะช่วยทำให้โครงการของต๋องสำเร็จให้ได้ เพื่อที่ต๋องจะได้ลบปมของตนเองสักที

การไปค้างที่บ้านต่างจังหวัดของกิมลั้งทำให้กิมฮวยกับจาตุรงค์ไม่พอใจอย่างมาก ถึงขนาดจะให้เต๊กไฮ้มาขอหมั้นตีตราจองกิมลั้งไว้ หลายคนในตลาดที่ต๋องเคยช่วยเหลือไว้จึงสงสารและเห็นใจอยากจะตอบแทนต๋อง ด้วยการรวมตัวกันรณรงค์โครงการตลาดในฝันของต๋องให้สำเร็จ เพื่อจะต่อรองร้องเรียกข้อสัญญากับกิมฮวย ซึ่งครั้งนี้จะเด็ดได้มาร่วมด้วย ซึ่งก็เหมือนมีคำพูดประกาศิตจากร่างทรงที่คนในตลาดไม่กล้าปฏิเสธ จึงเฮโลร่วมด้วยช่วยกันลงชื่อเปลี่ยนแปลงตลาด จนเกือบจะสำเร็จ แต่แล้วข่าวการซื้อที่ดินตลาดไปสร้างห้างสรรพสินค้าก็เข้ามาดับฝันกะทันหัน คุณนายสดศรีถูกกดดันด้วยเงินก้อนใหญ่และเงื่อนไขบังคับให้ขายที่ ชาวตลาดทุกคนจึงตกอยู่ในสถานะเดียวกันทั้งหมดแม้แต่กิมฮวยและเต็กไฮ้ก็ไม่เว้น

กิมลั้งช่วยเกลี้ยกล่อมคนในตลาดให้เห็นว่าความคิดของต๋องจะช่วยให้ตลาดรุ่งเรืองและมีคนมาซื้อของมากขึ้น และเมื่อตัวต๋องท้อแท้และคิดจะเลิกกลางคัน กิมลั้งก็มีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้ต๋องลุกขึ้นสู้อีกครั้ง และพร้อมที่จะก้าวเดินไปกับต๋องจนประสบความสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับของกิมฮวยและคนในตลาด ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครรักเกิดในตลาดสด ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครรักเกิดในตลาดสด เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555

รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร รักเกิดในตลาดสด

มาริโอ้ เมาเร่อ รับบท ต๋อง ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
ราศรี บาเลนซิเอก้า รับบท กิมลั้ง ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
จริยา แอนโฟเน่ รับบท กิมฮวย ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
สถาพร นาควิไลโรจน์ รับบท เคี้ยง ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
ภาวิดา มอริจจิ รับบท กิมแซ ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
ชนัตพล ลังสิทธิเสถียร รับบท จาตุรงค์ ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
สุเทพ ประยูรพิทักษ์ รับบท เต๊กไฮ้ ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
ปวีณา ชารีฟสกุล รับบท ลักษณ์ ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
สาวิตรี สามิภักดิ์ รับบท คุณนายสดศรี ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
วิรากานต์ เสณีตันติกุล รับบท ณดา ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
จักรกฤษณ์ อำมรัตน์ รับบท เสี่ยชายศักดิ์ ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
อภิรดี ภวภูตานนท์ รับบท รัศมี ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
สุริยนต์ อรุณวัฒนกุล รับบท ศักดิ์ชาย ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ รับบท ชูชาติ(เต๋า) ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
โชติรส แก้วพินิจ รับบท ติ๋ม ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
โน๊ต เชิญยิ้ม รับบท จะเด็ด ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
หนุ่ย แสนแดง รับบท รักเร่ ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
ณฉัตร จันทร์พันธ์ รับบท เลื่อน ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
อชิตะ ธนาศาสตนันท์ รับบท ชมพู่ ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
ปาจรีย์ ณ นคร รับบท น้อยหน่า ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล รับบท คิตตี้ ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
มยุรี อิศรเสนา ณ นคร รับบท ป้าพิณ ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
ด.ญ.กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ รับบท เขียวหวาน ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ รับบท ทวี ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
ศิรินุช เพ็ชรอุไร รับบท เครือฟ้า ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
ต๋อง ชวนชื่น รับบท คำมูล ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม รับบท เสือ(อาบัง) ใน ละคร รักเกิดในตลาดสด
Read more »

ยอดเชฟ กุ๊กมือทอง


เรื่องราวของอาหารเลิศรสทั่วหล้า อาหารทั่วทุกสารทิศที่มีรสชาติเป็นเลิศและมีความโดดเด่น ได้ถูกนำเสนอ ณ ที่แห่งนี้ มีชายหนุ่มสองคนกำลังตัดสินแพ้ชนะกัน เพื่อให้ได้เป็นผู้สืบทอดการเป็นพ่อครัวอันดับหนึ่งของแผ่นดิน ภายในอาหารเลิศรส สัมผัสได้ถึงคนทำอาหาร ปรัชญา น้ำตา และความซาบซึ้งตรึงใจ

ตอนที่ 1

ซองชานทำอาหารได้ถูกใจเชฟโอมาก จึงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพ่อครัว ทำให้มินวูอิจฉาจึงแกล้งนำมีดของเขาโยนทิ้งเมื่อออกไปทำอาหารนอกสถานที่ และมินวูด่าว่าซองชานจนมีเรื่องชกต่อยกัน บองจูพี่ชายของซองชานมาห้ามไว้ เมื่อกลับมาถึงอูนัมจอง บองจูได้รับคำชมเชยจากเชฟโอมาก ทั้งที่ซองชานควรได้รับคำชมนี้


ตอนที่ 2

เชฟโอประกาศรับสมัครผู้แข่งขันชิงตำแหน่งทายาทของอูนัมจอง ทำให้บองจูไม่พอใจแต่เก็บไว้ไม่แสดงออก ผู้ลงแข่งมี 3 คนคือบองจู มินวู และซองชาน ทั้งสามต่างก็พยายามคิดหาวิธีที่จะปรุงอาหารตามหัวข้อที่กำหนด

ตอนที่ 3

ผู้แทนคิมจากเกาหลีเหนือเจาะจงมากินอาหารที่อูนัมจอง ซองชานเสนอตัวทำอาหารพื้นบ้านที่เขาระบุ แต่ไม่เป็นที่ถูกใจ ทำให้เชฟโอเสียหน้ามาก และซองชานต้องออกจากการแข่งขันตามที่รับปากไว้ ซองชานพยายามหาเหตุผลที่ทำให้ผู้แทนคิมไม่ชอบอาหารของเขาจนค้นพบคำตอบ และไปขอแก้ตัวทำให้เขากินใหม่

ตอนที่ 4

ซองชานแก้ตัวได้ในการทำซุปเต้าเจี้ยวให้ผู้แทนเกาหลีเหนือทาน และได้ทำความประทับใจให้กับผู้แทนเกาหลีเหนือมาก ทำให้หนังสือพิมพ์ลงข่าวเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเขาได้กลับเข้าร่วมการแข่งขันเป็นผู้สืบทอดต่อไป จินซูหาทางเข้าไปในอูนัมจอง โดยสมัครเป็นพนักงานของที่นั่น เพื่อหาข้อมูลมาเขียนหนังสือของตนเอง และได้พบกับซองชาน และซอกดอง

ตอนที่ 5

จากการแข่งขันที่ผ่านมาระหว่างบองจูและซองซานต่างก็ชนะกันคนละครั้ง และเหลือการทดสอบอีกครั้งเพื่อหาผู้สืบทอดกิจการของอูนัมจอง โดยครั้งนี้พวกเขาต้องใช้ไก่ฟ้าภูเขาเป็นวัตถุดิบ บองจูได้รู้ความจริงว่าซองซานแท้ทีจริงแล้วเขาเป็นทายาทที่แท้จริงของพ่อครัวหลวงไม่ใช่เขา ทำให้เขาเสียใจมากและตั้งใจชนะครั้งนี้ให้ได้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง

ตอนที่ 6

บองจูบอกซองชานว่าเขาเป็นทายาทของพ่อครัววังหลวงและเชฟโอจัดการแข่งขึ้นมา เพื่อจัดให้ซองชานได้เป็นผู้สืบทอด บองจูขอให้ซองชานถอนตัวออกจากการแข่ง ซองชานได้ไปขอถอนตัวกับเชฟโอ และได้หนีออกจากอูนัมจองไปทำให้เชฟโอเสียใจมาก และเมื่อพ่อจูฮีต้องการให้จัดการต้อนรับเท็ดโอนักวิจารณ์อาหารชั้นนำ เชฟโอไม่เห็นด้วยจึงออกไปท่องเที่ยวกับอาจารย์จาอึน เท็ดโอมาก่อนเวลาที่นัดไว้ทำให้พ่อจูฮีกับบองจูตกใจมาก หาทางที่จะทำให้เท็ดโอประทับใจให้ได้ บก.หนังสือที่จินซูเคยไปสมัครงานแล้วไม่ยอมรับเธอ ได้ติดต่อให้เธอสัมภาษณ์เท็ดโอให้ได้ และรับปากว่าจะให้เข้าทำงานถ้าทำได้ จินซูพยายามหาทางที่จะสัมภาษณ์ให้ได้ จองกูโกรธมากที่ลูกค้าตำหนิอาหารที่เขาทำทุกอย่างเลยเข้ามาจะต่อว่า แต่เท็ดโอเข้ามาและบอกว่าลูกค้าคนนั้นคือเลขาฯ ของเขาเอง

ตอนที่ 7

เท็ตโอนักชิมที่มีชื่อเสียงได้ประเมินอูนัมจองว่าเป็นภัตตาคารที่ดีที่สุดของประเทศโดยให้ 100 คะแนนเต็ม โดยครั้งนี้บองจูคิดจะทำแฟรนไชส์เพื่อขยายร้านให้มีชื่อเสียงต่อไป ส่วนด้านซองซานได้ใช้รถขายอาหารทะเล อาหารแห้งไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ และเขาได้แวะไปเยี่ยมยองซุล ช่างตีเหล็กที่ดีที่สุดที่ทำให้กับอูนัมจอง ซึ่งตอนนี้เขาป่วยและเสียใจกับเรื่องที่ลูกชายติดคุกจึงไม่ได้ทำมีดอีก ซองซานช่วยยองซุลหาปูฮวังจางเพื่อที่เขาจะทำให้ลูกชายในวันเกิดและทำให้เขาได้พบกับจินซูโดยบังเอิญ

ตอนที่ 8

จินซูหาปูฮวังจางมาให้บองจู ทำให้เขาทำอาหารจากปูฮวังจางให้กับประธานจางและผู้จะร่วมทุนทำโรงแรมได้ทานกัน ทำให้แต่ละคนทึ่งในความสามารถของบองจู ส่วนซองชานทำข้าวมันปูเข้าไปให้กับลูกของซองชุลช่างตีเหล็กในคุกโดยได้รับความช่วยเหลือจากจินซู ทำให้ยองชุลตีมีดให้กับซองชาน 1 เล่ม ก่อนที่เขาจะเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล บองจูได้บังเอิญพบกับซองชานที่จะมาเยี่ยมยองชุลโดยบังเอิญ และได้มีปากเสียงกันเรื่องที่ซองชานหนีออกจากบ้านมา บองจูโกรธมากและบอกไม่ให้ซองชานกลับมาให้พ่อเห็นหน้าอีก

ตอนที่ 9

ที่อูนัมจองมีการจัดการแข่งขันการทำอาหาร ผู้ที่ชนะมีสิทธิ์เลื่อนขั้น และขึ้นเงินเดือน และยังได้ร่วมทีมเข้าแข่งขันกับแดฮันกรุ๊ป ซึ่งผู้ชนะครั้งนี้ได้แก่ยอกดง ทางอูนัมจองตามหานักแล่เนื้อในตำนานอยู่โดยที่จินซูและซองชานก็ตามหาเหมือนกัน โดยทางจินซูและซองชานมีมีดของนักแล่เนื้อในตำนานเป็นเบาะแสในการตามหา ส่วนที่ร้านของยองซู ซองชานเห็นความไม่ยุติธรรมที่ซูทำกับยองซู ทำให้เขาไม่พอใจจึงท้าแข่งหาเนื้อโคนกระดูกกับซู

ตอนที่ 10

เชฟโอเสียใจมากที่หาซองชานไม่พบ และให้บองจูพยายามหาเขาให้พบ ซองชานไปช่วยคังยองซูโดยเดิมพันกับประธานซูโดยเขาเป็นฝ่ายชนะ ประธานซูได้ให้คนไปสืบประวัติของเขาเพราะอยากได้ตัวเขามาร่วมงาน บองจูกับจินซีได้มาพบซองชานขณะที่กำลังเดิมพันอยู่ บองจูไม่ให้จินซีบอกว่ามากับเขา จินซีพยายามจะสัมภาษณ์ยองซู แต่ยองซูไม่ยอมให้สัมภาษณ์ ซองชานคิดหาทางช่วยแต่ก็ยังไม่สำเร็จ บองจูพยายามชักชวนให้ยองซูไปทำงานให้กับอูนัมจองแต่ยองซูปฏิเสธ ยองซูเอาของไปฝากให้ลูกทำให้เธอโกรธมากมาต่อว่าเขาถึงที่ร้านซึ่งซองชานกับจินซูกำลังคุยอยู่กับยองซูด้วย ทำให้ทั้งสองได้รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ยองซูกับลูกสาวไม่ถูกกัน ซองชานพยายามจะช่วยให้พ่อกับลูกได้เข้าใจกัน

ตอนที่ 11

ซองชานโดนประธานซูให้คนมาจับตัวไปเพื่อจะให้เขาเข้าแข่งขันให้กับบริษัทของตน ซูยองต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะเครียดและกำลังท้องโดยไม่ยอมกินอะไรเลย เมื่อยองซูรู้เขาได้จับมีดอีกครั้งเพื่อทำอาหารให้กับลูกสาวซึ่งเขาได้รู้จากซังจุนแฟนของเธอว่าเธอชอบเนื้อที่แม่เธอเคยกินตอนท้องเธออยู่ ซองชานเอาเนื้อนั้นไปให้เธอที่โรงพยาบาลแต่ซูยองไม่ยอมกิน ทำให้เขาต้องบอกความจริงเรื่องมีดของยองซู มินวูไปขู่ยองซูให้เข้าแข่งให้อูนัมจองโดยเขาจะให้ทางธนาคารไล่ลูกสาวของเขาออกถ้าไม่ยอมแข่งให้ แต่เมื่อยองซูกับซูยองเข้าใจกันแล้ว ยองซูไปตามนัดแล้วปฏิเสธและต่อว่าบองจูอย่างมาก ทำให้บองจูต้องให้มินวูไปตามชางกีกลับมา เมื่อซองชานรู้เรื่องมินวูมาขู่และได้ทิ้งเงินไว้ให้ยองซูทำให้เขากลับไปอูนัมจองเพื่อต่อว่าบองจูและตัดสินใจลงแข่ง เชฟโอแอบมาดักพบเขาเพื่อพาไปกินข้าวด้วยกัน

ตอนที่ 12

ประธานโซส่งซองชานและยองซูลงแข่งในนามบริษัท ซึ่งคู่แข่งสำคัญคืออูนัมจอง ทั้งหมดได้ไปหาวัวเพื่อที่จะใช้ในการแข่งขัน โดยมินวูใช้เล่ห์กลแย่งวัวที่พวกประธานโซได้เลือกไว้แล้ว ทำให้พวกเขาต้องไปหาวัวตัวใหม่ และได้ไปพบวัวซึ่งมีลักษณะดีตรงตามที่ต้องการแต่เป็นที่รักของแฮโท เด็กชายลูกเจ้าของวัว ซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจและพ่อของเขาต้องการเงินเพื่อมารักษาตัวเขา ซองขานจึงต้องหาทางให้แฮโทยอมให้เขาเอาวัวตัวนั้นไป
ตอนที่ 13

บริษัทของประธานซูชนะการแข่งขันในรอบแรก โดยอูนัมจองที่นำโดยบองจูได้อันดับสุดท้ายของการได้เข้ารอบต่อไป และในงานนี้ทำให้จินซูต้องรับหน้าที่พิธีกรร่วมกับบก.ทำให้เธอมีชื่อเสียงมาก อูนัมจองมียอดลูกค้าลดลงไปจำนวนมาก ประธานจางได้มาต่อว่าพวกเขา เชฟโอขอให้จูฮีช่วยบองจู เธอจึงไปหาซองชานเพื่อขอให้เขากลับมาช่วยบองจู แต่เขาไม่ยอมและทำให้จินซูรู้สึกหึงหวง ซอกดงมีเรื่องกับมินวูจึงออกจากอูนัมจอง

ตอนที่ 14

การแข่งขันในรอบที่สองซึ่งคัดเหลือแค่สี่ทีมนั้น ทีมที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ ฮันอารึมเอ็กซ์สปอร์ตอูนัมจอง มิแรฟาร์ม และแดจินเอ็กซ์สปอร์ต อูนัมจองเข้ารอบมาเป็นที่หนึ่งโดยฝีมือของชอยจองกู ส่วนแดจินเอ็กซ์สปอร์ตโดยมีนักรบคังเป็นตัวแทนนั้น ผ่านเข้ารอบมาเป็นที่สี่ได้อย่างเชียดชิ่ว แม้ว่านักรบคังจะได้รับบาดเจ็บ หลังจบการแข่งขันนักรบคังได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ทางด้านซองซานไปหาลุงกียองตามคำบอกของนักรบคัง เพื่อจะหาถ่านมาไว้ใช้แข่งในรอบที่สามต่อไป

ตอนที่ 15

จินซูได้ตามซองซานเข้าไปในป่าจนหลงทาง แต่ซองซานได้ตามจนเจอ จินจูและซองซานได้พักอยู่บ้านลุงกียองเพื่อเผาถ่านเป็นเวลา 6 วัน ขณะเดียวกันทางด้านบองจูและเชฟโอ ก็ได้ออกเดินทางมาหาลุงจงเทคเพื่อมาหาถ่านแล้วได้พบกับซองซาน เชฟโอได้ทำถ่านจากต้นแมลโล เพื่อให้บองจูไว้ใช่ในการแข่ง การแข่งขันการย่างในรอบที่สามนี้ อูนัมจองโดยมี กงมินวู เป็นตัวแทนและแดจินเอ็กซ์สปอร์ตโดยมีซองซานเป็นตัวแทนนั้น ผลการตัดสินออกมาเสมอกัน กรรมการได้ลงความเห็นว่าควรตัดสินกันใหม่ โดยจัดการแข่งขันในรอบที่สี่ขึ้น ระหว่างอูนัมจองและแดจินเอ็กซ์สปอร์ตต่อไป

ตอนที่ 16

ทั้งซองชานและบองจูต่างพยายามคิดหาอาหารที่จะนำไปทำในการแข่งขัน ซองชานเลือกใช้เนื้อส่วนที่แย่ที่สุดแต่ปรุงด้วยซอสสูตรพิเศษที่เชฟโอเคยสอน จึงอร่อยมาก แต่เขาก็แพ้เพราะกรรมการเห็นว่าบองจูมี วิสัยทัศน์ดีกว่า บองจูชวนซองชานให้กลับไปอยู่ด้วยกัน แต่ซองชานกลับหนีทุกคนไป

ตอนที่ 17

จินซูไปหาโจที่ไร่ชาเพื่อจะสัมภาษณ์โกผู้ผลิตชาของเกาหลี เชฟโอประกาศแต่งตั้งบองจูเป็นผู้สืบทอดอูนัมจอง มิรันเพื่อนนักข่าวของจินซูได้เงื่อนงำของความลับของอูนัมจอง เธอจึงได้นำมาบอกกับ บก. เขาจึงเข้าไปค้นหาความลับนั้นจนพบ ซองชานพบยายซึ่งสติไม่ดีเขาจึงพาไปส่งที่บ้านซึ่งอยู่ในไร่ชาที่โจและจินซูพักอยู่ ซองชานและจินซูได้พยายามหาทางช่วยยายซึ่งได้ขอร้องให้เขาพาไปดูลูกสะใก้ที่ไม่ถูกกันกับเธอเพื่อจะดูความเป็นอยู่ของเธอ

ตอนที่ 18

การตายของยาย ทำให้ซองซานคิดได้ว่าเขาเคยมีความสุขกับการทำอาหารมากแค่ไหน แต่ตอนที่แข่งขันเขามัวแต่นึกถึงการที่จะเอาแต่ชนะ โดยลืมนึกถึงความสุขที่ได้ทำอาหารให้ทุกคนได้กินกันอย่างอร่อยไป ข่าวเรื่องการเป็นทายาทตัวจริงของพ่อครัวหลวง และเรื่องไก่ฟ้าภูเขาของซองซานถูกขโมยไปก่อนการแข่งขัน ถูกตีพิมพ์ออกไปทำให้นักข่าวมารุมสัมภาษณ์ที่อูนัมจองกัน เพื่อสอบถามเรื่องราวบองจู และมินวูจึงคิดจะโยนความผิดเรื่องไก่ฟ้าภูเขาให้กับกียอง ทางด้านจินซูและซองซานต้องเดินทางไปที่บ้านของจินซู เพราะแม่ของเธอโทรมาแกล้งป่วยเพื่อหลอกให้เธอมาหาและจัดงานวันเกิดให้กับเธอ โดยทำซุปปลาโลชที่จินซูชอบให้กิน แม้ว่าลิ้นของเธอจะไม่รู้รสและไม่สามารถชิมรสชาติของอาหารได้ จึงทำให้จินซูและซองซานท้องเสียทำให้เธอรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
ตอนที่ 19

ซองซานได้ทำอาหารให้แม่ของจินซูทาน ซึ่งหวังว่าจะทำให้แม่ของจินซูรู้สึกดีขึ้น แต่พอกลับมาจินซูได้ทราบข่าวว่าคอลัมน์ที่เขียนไว้เกี่ยวกับเรื่องอูนัมจองและซองซานนั้น ได้ถูก บก.แอบขโมยมาตีพิมพ์สร้างความเสียหายให้อูนัมจองนั้น เชฟโอจึงได้เรียกซองซานกลับมาเพื่อที่จะแถลงข่าวว่า ให้ซองซานกลับมาสืบทอดอูนัมจองต่อ และยอมรับว่าตัวเองเป็นทายาทของพ่อครัวหลวง แต่ในวันแถลงข่าว ซองซานซึ่งยอมรับว่าตัวเองเป็นทายาทแต่กลับปฏิเสธที่จะสืบทอดอูนัมจองต่อ จึงได้ขอให้บองจูเป็นคนสืบทอดอูนัมจองต่อ แล้วได้ออกเดินทางไปเกาะวอนโดเพื่อไปหาซอกดง

ตอนที่ 20

ซอกดงได้รับของ ๆ เขาที่ส่งมาจากแม่ของเขาทางไปรษณีย์ ทำให้เขารีบไปหาตามที่อยู่ที่ส่งมา แต่พบว่าผู้ที่ส่งเป็นเพื่อนของแม่เขาที่ส่งมาให้หลังจากที่แม่เขาตายไปแล้ว ซองชานต้องหาทางปลอบเขา ซอกดงส่งข่าวให้จินซูรู้ว่าซองชานอยู่กับเขา จูฮีทะเลาะกับบองจูจึงออกตามหาซองชานจนพบและได้ออกเที่ยวด้วยกัน กระทั่งจินซูตามมาหาซองชานและพบจูฮี

ตอนที่ 21

ซองชานรู้จากจูฮีว่าจินซูมาหาเขาที่เกาะ แต่กลับไปเมื่อเจอจูฮี นอกจากนั้นจูฮียังบอกด้วยว่าเรื่องที่เขาโกรธจินซูนั้นเป็นความผิดของบ.ก.และจินซูไม่เกี่ยว ซองชานจึงไปตามหาจินซูเพื่อจะง้อ แต่พบว่าเธอไปทำงานสิร์ฟที่ร้านอิลมินวอง เขาจึงตามไปง้อเธอที่นั่น เชฟโอมาหาซองชานและชวนเขาไปตกปลาเทราต์ เจ้าของร้านอิลมินวองอยากช่วยให้จินซูกันซองชานคืนดีกัน จึงแกล้งส่งจินซูให้ไปรับปลาจากซองชานที่ต่างจังหวัด

ตอนที่ 22

เชฟโอได้ให้ซองซานไปหาบูนซึ่งเป็นเพื่อนเก่าที่เก่งการทำอาหารเมนูปลา พอซองซานไปถึงก็ได้ลองทานแกงจืดปลาเทราต์ฝีมือของบูน เชฟโอจึงได้ให้ซองซานลองทำแบบเดียวกับบูน ซองซานพยายามอยู่นานกว่าจะเป็นที่ยอมรับของบูน จนเชฟโอได้ท้าให้บูนแข่งทำอาหารเมนูปลากับซองซาน ซึ่งในการแข่งบูนได้ออมมือให้กับซองซานเพื่อให้ซองซานชนะโดยไม่ทราบสาเหตุ
ตอนที่ 23

ซองซานกับเชฟโอเดินทางกลับอูนัมจองโดยทราบข่าวว่าผักดองได้ถูกส่งกลับมาเพราะไม่ได้มาตรฐาน เมื่อเชฟโอกลับมาก็ได้ตรวจสอบแล้วว่าของหมักของดองทั้งหมดนั้นเสียโดยยังไม่ทราบสาเหตุ โดยทางบองจูได้เดินทางไปต่างประเทศโดยไม่อยู่รับผิดชอบและแก้ไขกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซองซานซึ้งสงสารเชฟโอเลยอาสาที่จะช่วยแก้ไขและหาสาเหตุให้แทน
ตอนที่ 24

ซองชานเดินทางไปหาสาเหตุที่ทำให้ซอสและกิมจิของอูนัมจองเน่าเสียโดยไปกับจินซูด้วย บองจูไม่ยอมให้ปิดอูนัมจองโดยขัดแย้งกับเชฟโอพ่อของเขากับพ่อของจูฮี โดยจะสั่งของจากที่อื่นและถอนหมั้นกับจูฮีทำให้พ่อของเธอโกรธมาก ซองชานบอกรักจินซูและพบสาเหตุที่ทำให้ของที่อูนัมจองเสียจึงรีบกลับเขาพบบองจูซึ่งไล่ให้เขาออกไปจากอูนัมจองเสีย ซองชานพบจูฮีกำลังเป็นลมเนื่องจากบองจูมาขอถอนหมั้นเขาจึงพาไปโรงพยาบาลโดยลืมว่านัดจินซูไว้
ตอนที่ 25

พ่อจูฮีไม่พอใจบองจูมากที่ทำอะไรโดยไม่ปรึกษา มินวูกับยงจองจินติดต่อมัตสึโมโต้เพื่อเข้ามายึดครองอูนัมจองโดยพ่อจูฮีเห็นด้วย สรรพากรได้รับแจ้งให้เข้าตรวจสอบอูนัมจองทำให้การขยายงานของบองจูในต่างประเทศถูกระงับ เชฟโอกลุ้มใจมากถึงกับล้มป่วย จูฮีบอกให้ซองชานรู้ทำให้เขารีบมาเยี่ยม และได้รู้ว่าอูนัมจองถูกสรรพากรตรวจสอบ และอาจต้องล้มละลาย เขากับจินซูปรึกษากันจินซูแนะนำให้ซองชานไปพบกับมัตสึโมโต้ที่เธอเคยสัมภาษณ์และเขาอยากพบกับซองชาน เมื่อซองชานไปพบมัตสึโมโต้เขากลับขอร้องให้ซองชานทำอาหารให้ ซองชานปฏิเสธเนื่องจากมีภารกิจที่ต้องทำ พ่อจูฮีเรียกประชุมผู้ถือหุ้นของอูนัมจองเพื่อปลดบองจูออกจากประธานบริษัท

ตอนที่ 26

บองจูถูกกรรมการบริษัทบีบให้ออกจากตำแหน่งประธานทำให้อูนัมจองตกเป็นของมัตสึโมโต้ บองจูหลบไปพักคนเดียว เชฟโอเสียใจมากที่เสียอูนัมจองไปทำให้ล้มป่วยลง เมื่อซองชานรู้เขารีบมาหาพ่อ เชฟโอต้องการพบบองจูจูฮีจึงไปตามจนพบและพาเขากลับมา เชฟโอสิ้นลมไปโดยฝากให้ทั้งบองจูและซองชานช่วยกันเอาอูนัมจองกลับคืนมา มินวูผิดหวังที่ไม่ได้ขึ้นเป็นประธานอูนัมจองโดยที่มัตสึโมโต้ต้องการให้ซองชานเป็นประธานอูนัมจอง

ตอนที่ 27

ซองซานซึ่งไม่ยอมรับคำชวนของมัตสึโมโต้ที่จะให้มาเป็นประธานของอูนัมจอง มัตสึโมโต้จึงได้ท้าแข่งทำอาหารกับทีมอูนัมจอง โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าเขาแพ้จะยอมคืนอูนัมจองให้ แต่ถ้าเขาชนะซองซานต้องยอมมาช่วยเขาที่อูนัมจอง ซองซานได้ไปขอให้บองจูช่วยในการแข่ง แต่บองจูปฏิเสธและได้เดินทางออกจากอูนัมจองไป มินวูซึ่งเข้าใจผิดว่าซองซานเป็นพวกมัตสึโมโต้ได้กลับมาช่วยซองซานลงแข่งคราวนี้ การแข่งขันรอบแรกอาหารของมัตสึโมโต้เอาชนะไปได้ด้วยคะแนนสามสิบต่อยี่สิบเก้าคะแนน การแข่งขันในรอบที่สองที่กำลังจะเริ่มบองจูได้กลับเข้ามาในงานเพื่อที่จะช่วยทีมของอูนัมจองลงแข่งขันในรอบที่สอง

ตอนที่ 28

บองจูกลับมาช่วยทีมอูนัมจองชนะการแข่งขันทำให้ได้อูนัมจองกลับคืนมาและพี่น้องทั้งสองคืนดีและรักกันมากขึ้น บองจูขอตัวเดินทางไปต่างประเทศ พ่อจูฮีสำนึกและกลับไปใช้ชีวิตที่บ้าน ซองชานชวนจินซูเดินทางไปค้นหาสูตรอาหารทำให้เขาได้พบกับพ่อครัวที่ทำอาหารได้สุดยอด แต่ไม่สามารถทำให้เขาเข้าใจในตัวของเขาเองได้

ติดตามชมความสนุกสนานของซีรี่ส์เกาหลีเรื่องเยี่ยมที่บอกเล่าเรื่องราวอาหารชั้นเลิศของแต่ละท้องถิ่นเกาหลี ผ่านการปรุงอาหารของเชฟทั้ง 2 ใน ยอดเชฟ กุ๊กมือทอง นำแสดงโดย คิมแรวอน-นัมซังมี-ควอนโอจุง-วอนกีจุน และ คิมโซยอน ยอดเชฟ กุ๊กมือทอง ออกอากาศช่วงตำนานรักดอกเหมย ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 13.40 - 14.40 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
Read more »

เจจุงวอน ตำนานแพทย์แห่งโชซอน



เจจุงวอน ตำนานแพทย์แห่งโชซอน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับยุคที่การแพทย์แผนตะวันตกได้เข้ามาในช่วงยุคท้ายของโชซอน โดยมีการสร้างโรงพยาบาลตะวันตกแห่งแรกขึ้น ฮวางจอง (โซกึนแก) เป็นลูกคนฆ่าสัตว์ ซึ่งถือว่าเป็นชนชั้นต่ำที่ต่ำกว่าสามัญชน ได้ดิ้นรนจนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักเรียนแพทย์ ของโรงเรียนแพทย์ เจจุงวอน ที่ตั้งขึ้นภายในการผลักดันของพระราชาโกจง

แต่แล้วภายหลังความลับที่เขาเป็นชนชั้นต่ำก็ถูกเปิดเผย ทำให้เขาต้องถูกโทษประหาร ในที่สุดเนื่องจากความสามารถของเขา ทำให้เขาได้รับการอภัยโทษจากพระราชา และมีรับสั่งให้เลื่อนขึ้นจากชนชั้นต่ำ จนสามารถเป็นแพทย์ที่มีความสามารถในที่สุด

ในระหว่างที่เขากำลังเข้ามาเป็นนักเรียนแพทย์ เข้าได้รู้จักกับคุณหนูซ๊อกรัน ลูกสาวขุนนางล่ามของโชซอน และเกิดรักกัน แต่ก็ได้พบกับคู่ปรับตลอดกาลของเขาและเป็นคู่หมั้นของคุณหนูซ๊อกรันทำให้เกิดความเข้าใจผิด และเชือดเฉือนกันมาโดยตลอด

ช่วงปลายยุคโชซอน ญี่ปุ่นเริ่มบุกเข้ายึดครอง ฮวางจองจึงไปเข้าร่วมกับกองกำลังทหารอาสาเพื่อต่อต้านญี่ปุ่น แต่ก็ถูกญี่ปุ่นตีแตกพ่าย จึงได้กลับมาใช้ชีวิตเป็นแพทย์อีกครั้ง ติดตามชม เจจุงวอน ตำนานแพทย์แห่งโชซอน ได้ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 17.45 - 19.45 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
Read more »

รักคุณเท่าฟ้า


ทุกครั้งที่มาทำการบิน กัปตันเครื่องบินคือบุคคลที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะต้องเป็นผู้นำพาชีวิตคนทั้งเครื่องให้บินไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย สาว ๆ มากมายจึงใฝ่ฝันอยากมีแฟนเป็นกัปตันมาดเท่ห์ โดยเฉพาะกัปตันธีระ (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) เป็นกัปตันหนุ่มหล่อมาดเนี๊ยบ ที่มีสาว ๆ หมายปองมากมาย แต่สาว ๆ ต้องอกหักดังเป๊าะ เพราะกัปตันธีระรักอยู่กับ พิม (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) แอร์โฮสเตสสาว ทั้งสองรักกันมาสามปีและวางแผนที่จะแต่งงานกันในอีกสามเดือนข้างหน้า

พิมไปมาหาสู่ธีระและครอบครัวจนสนิทสนมกับ แม่จินดา (โฉมฉาย ฉัตรวิไล) ซึ่งเป็นแม่ของธีระรวมทั้ง แดง (ชนกวนันท์ รักชีพ) กับ กบ (กรุณพล เทียนสุวรรณ) พี่สาวกับพี่เขยของธีระ พิมรู้ว่าธีระรักแม่มากและแม่ก็รักเขามากเช่นกัน

ในช่วงที่ไม่มีตารางการบิน ธีระจะต้องแวะมาหาแม่ทุกวันเพื่อถามสารทุกข์สุขดิบจนกลายเป็นกิจวัตรประจำ ความรักของพิมกับธีระดูเหมือนจะราบรื่นไม่มีอุปสรรคใด ๆ แต่ยิ่งใกล้วันแต่งงานเข้ามาพิมก็เริ่มเห็นเค้าลางของปัญหา เมื่ออยู่ ๆ แม่จินดาก็บอกว่ายังไม่อยากให้ลูกชายแต่งงานมีครอบครัว แต่ธีระยืนยันว่าต้องแต่งเพราะทุกอย่างได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว

แม่จินดาเริ่มกลัวว่าหากธีระแต่งงานไปแล้วจะรักเมียมากกว่าแม่ เธอจึงคิดวางแผนทำลายการแต่งงานของลูกชาย โดยแกล้งทำเป็นไม่สบายในวันแต่ง ทำให้ธีระต้องทิ้งเจ้าสาวเพื่อไปดูแม่ที่โรงพยาบาล พจ (สันติสุข พรหมศิริ) พ่อของพิม ไม่พอใจมาก บอกให้พิมเลิกกับธีระไป แต่ สุนีย์ (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) แม่ของพิมยังสนับสนุนธีระอยู่

พิมไม่ยอมแพ้และพยายามทำให้พ่อเห็นว่าที่ผ่านมาเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ และได้กำหนดวันแต่งงานขึ้นมาใหม่อีกครั้ง เมื่องานแต่งหนสองเริ่ม แม่จินดาก็แกล้งป่วยเข้าโรงพยาบาลอีก พิมเริ่มแน่ใจว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะแม่จินดาไม่ต้องการให้ลูกชายแต่งกับเธอ พิมบอกกับธีระว่าแม่ของเขาแกล้งป่วย แต่ธีระไม่เชื่อคิดว่าพิมโกรธที่แม่มาป่วนในวันแต่ง พิมจึงบอกให้กำหนดวันแต่งขึ้นเป็นครั้งที่สาม

และเมื่อวันแต่งมาถึงแม่จินดาก็เข้าโรงพยาบาลอีกตามคาด ธีระเริ่มเชื่อพิมว่าแม่แกลงป่วยเพื่อขัดขวางงานแต่งงาน แต่แดงพี่สาวธีระโทรมาบอกว่าแม่ป่วยจริงและอาการอยู่ในขั้นวิกฤติ เขาจึงรีบทิ้งงานแต่งไปดูแม่และครั้งนี้หมอบอกว่าแม่ป่วยเป็นเบาหวาน น้ำตาลขึ้นสูงมากจนช็อคหมดสติ ธีระบอกพิมว่าแม่ป่วยจริง แต่พิมไม่เชื่อและมั่นใจว่าแม่จินดากำลังหวงลูกชาย พิมจึงยื่นข้อเสนอให้ธีระเลือกระหว่างเธอกับแม่ แต่ธีระบอกว่าเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เขาเองก็รักพิมและรักแม่เช่นกัน พิมจึงเป็นฝ่ายตัดสินใจยุติทุกอย่างและเดินจากธีระไป

ธีระอกหักอยู่พักใหญ่จนได้พบกับ อุ้ม (เข็มอัปสร สิริสุขะ) แอร์โฮสเตสรุ่นน้องที่เพิ่งมาทำงานใหม่ ธีระพบกับอุ้มระหว่างเที่ยวบินไปต่างประเทศ ความสดใสร่าเริงของอุ้มทำให้ธีระลืมความเศร้าเรื่องพิมไปได้ และเริ่มคบหากับอุ้มจนคิดว่าชอบเธอ และจะแต่งงานด้วย

ธีระพาอุ้มไปหาแม่ หวังว่าแม่จะชอบอุ้มเหมือนกับเขา แต่แม่ก็ยืนยันกันธีระว่าไม่ชอบอุ้ม แถมยังใช้ คิตตี้ (รินลณี ศรีเพ็ญ) แฟนเก่าของธีระเป็นเครื่องมือ พยายามบอกว่าธีระยังชอบเธออยู่ คิตตี้ฝันหวาน คิดกลับมาสร้างสัมพันธ์กับธีระใหม่ แต่สุดท้ายธีระปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา

แต่คิตตี้ก็ไม่ยอมแพ้ วางแผนทำให้ธีระกับอุ้มเลิกกัน ด้วยการบอกว่าเธอท้องกับธีระ อุ้มหลงเชื่อขอเลิกกับธีระ ทำให้ธีระสงสัยในเหตุผลของเธอ สุดท้ายธีระรู้ว่าคิตตี้มาป่วนความรักของเขา ทั้งยังขู่ทำร้ายอุ้มอีก จึงให้ตำรวจจัดการ ความรักของเขากับอุ้มเข้าใจกันได้

ธีระขออุ้มแต่งงานอีกครั้ง ทั้ง พ่อ (ศานติ สันติเวชกุล) และ แม่อุ้ม (ปวีณา ชารีฟสกุล) ก็สนับสุนนเห็นดีด้วย แต่อุปสรรคกลับเป็นแม่ของธีระ ที่ยืนยันเสียงแข็ง ไม่ยอมเป็นผู้ใหญ่สู่ขอให้ แล้วขอพ่อแม่อุ้มมาเจรจาก็พูดจาไม่ให้เกียรติ สุดท้ายอุ้มตัดสินใจบอกเลิกธีระด้วยความร้าวรานใจ เพราะเห็นว่าถ้าหากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปโดยแม่ไม่เห็นดีด้วย ชีวิตครอบครัวคงไม่มีความสุข ทำเอาธีระอกหักอีกครั้ง

ธีระเศร้าใจอยู่พักใหญ่จนกระทั่งได้เจอกับ ข้าวตู (อารยา เอ ฮาร์เก็ต) ข้าวตูเป็นแอร์โฮสเตสรุ่นน้องพิม เธอแอบหลงรักธีระตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้บินด้วยกัน แต่เธอต้องผิดหวังเมื่อรู้ว่าธีระรักอยู่กับพิม ทั้งสองไม่ได้เจอกันมาเกือบปี จนกระทั่งได้มีโอกาสมาบินด้วยกันอีกครั้ง ข้าวตูจึงสานสัมพันธ์กับธีระเมื่อรู้ว่าเขาเป็นโสด

ข้าวตูเป็นคนช่างเอาอกเอาใจ เธอรู้ว่าธีระชอบหรือไม่ชอบอะไร ทำให้ธีระรักเธอได้ไม่ยาก แต่ความรู้ใจของข้าวตูทำให้แม่จินดาหมั่นไส้และไม่ชอบหน้าเธอมากกว่าสาวคนอื่น ๆ ของลูกชาย และแสดงตัวให้รู้อย่างเปิดเผยว่าไม่ชอบเธอ

แต่ข้าวตูเป็นคนไม่ยอมใคร เธอจึงมีปากเสียงและโต้ตอบกับว่าที่แม่ผัวตัวแสบอย่างไม่เกรงใจ ตอนแรกธีระโกรธที่ข้าวตูไม่ยอมลงให้กับแม่ แต่ข้าวตูไม่สนแถมตำหนิว่าแม่จินดาไม่มีเหตุผลพร้อมกับจาระไนนิสัยของแม่จินดาอย่างตรงไปตรงมา จนธีระไม่สามารถปฏิเสธได้และคล้อยตามกับเหตุผลของข้าวตูพร้อมกับไปบอกแม่ให้ปรับตัวเข้าหาข้าวตู แม่จินดาโกรธมากที่ลูกชายเห็นผู้หญิงดีกว่า จึงบอกให้ธีระไปใช้ชีวิตอยู่กับข้าวตูโดยไม่ต้องมาสนใจเธอ

ธีระนำเรื่องของข้าวตูไปปรึกษาเพื่อน เพื่อนต่างลงความเห็นว่าธีระควรจะอยู่ห่างจากแม่บ้าง เพื่อให้แม่ได้ปรับตัวไม่ยึดติดอยู่กับเขา ธีระจึงเริ่มไปหาแม่น้อยลงและใช้เวลาอยู่กับข้าวตูมากขึ้น แต่แม่ให้สาวใช้แกล้งโทรไปหลอกธีระว่าเธอไม่สบาย เมื่อธีระมาเขาก็พบว่าแม่ไม่ได้เป็นอะไรนอกจากแกล้งป่วยเหมือนกับที่เคยทำมาหลายครั้ง

ธีระเริ่มเหนื่อยใจกับแม่มากขึ้นและเมื่อสาวใช้โทรมาตามครั้งต่อไป ธีระจึงทำเฉยไม่ไปหาแม่ แม่จินดาเสียใจและผิดหวังในตัวลูกชายจึงพาลอารมณ์เสียใส่สาวใช้จนสาวใช้ทนไม่ไหวต้องขอลาออก ธัญมาเยี่ยมดูแม่แต่แม่ก็ไล่ให้กลับไป บอกว่าสามารถอยู่คนเดียวได้ ธีระแวะมาเยี่ยมแม่ แต่แม่ก็ทำปั้นปึ่งใส่จนเขาไม่อยากมาและเริ่มมาหาแม่น้อยลง

ชีวิตรักระหว่างธีระกับข้าวตูดูสดใสและมีความสุขมาก จนธีระคิดว่าเธอคือคนที่ใช่และตั้งใจจะแต่งงานกับเธอ ธีระมาหาแม่เพื่อจะบอกข่าวเรื่องแต่งงาน แต่สิ่งที่เขาพบก็คือแม่นอนสลบเพ้อไม่ได้สติรอบตัวมีแต่กลิ่นฉี่และอึ ธีระรีบพาแม่ส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าแม่มีน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงมากจนอาการโคม่าและมีสิทธิ์เสียชีวิต โชคดีที่หมอช่วยแม่ไว้ได้ทันเวลา ธีระเสียใจโทษว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้แม่เกือบตาย

เมื่อแม่จินดาฟื้นขึ้นมาเห็นหน้าธีระเป็นคนแรกที่อยู่ข้างเตียง แม้จะดีใจแต่แม่ก็ยังทำปั้นปึ่งมึนตึงไม่พูดด้วย จน หนูดี (มารี เบิร์นเนอร์) พยาบาลสาวประจำวอร์ดต้องทำหน้าที่เป็นล่ามสื่อสารระหว่างแม่กับลูก ธีระมาหาแม่ทุกวันโดยมีหนูดีพูดกับแม่แทนเขาและบอกทุกอย่างกับเขาแทนแม่ จนกลายเป็นเรื่องตลก และสุดท้ายหนูดีก็เป็นคนออกอุบายทำให้แม่จินดาใจอ่อนยอมพูดกับธีระ หนูดีเป็นพยาบาลที่คนไข้ทุกคนรักรวมทั้งแม่จินดา หนูดีดูแลแม่จินดาตั้งแต่เริ่มเข้าโรงพยาบาลครั้งแรกและแม่จินดามักจะเล่าเรื่องลูกชายให้ฟังเสมอจนหนูดีคิดว่าตัวเองรู้จักธีระไม่น้อยไปกว่าแม่ของเขา

เมื่อหมออนุญาตให้แม่กลับบ้านได้ ธีระจึงย้ายกลับมาอยู่กับแม่ แต่ข้าวตูไม่เห็นด้วย ทำให้ทั้งสองทะเลาะกันรุนแรง ข้าวตูให้ธีระเลือกระหว่างเธอกับแม่ และธีระเลือกที่จะกลับไปหาแม่ การกลับมาบ้านครั้งนี้สภาพของแม่ไม่เหมือนเดิมแม่อ่อนแอลงมาก ทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้ ธีระติดต่อหนูดีเพื่อจ้างให้มาเป็นดูแลแม่ส่วนตัว แต่หนูดีมาไม่ได้ทุกวันเพราะมีงานประจำ ส่วนแดงผู้เป็นพี่สาวก็มีภาระต้องดูแลลูกและสามี ธีระพยายามคัดหาคนที่ไว้ใจได้มาอยู่ดูแลแม่ แต่ไม่มีใครอยู่ได้ ธีระจึงต้องเป็นคนดูแลจัดยา หาอาหาร อาบน้ำ ป้อนข้าว ล้างก้นให้แม่ทุกอย่าง ชีวิตในแต่ละวันของเขาจึงวุ่นอยู่กับแม่จนไม่เหลือสภาพกัปตันการบินผู้ยิ่งใหญ่

แม้ภาระในการดูแลแม่จะเป็นเรื่องวุ่นวาย แต่ลึก ๆ ในใจ ธีระก็รับรู้ได้ว่าเขารู้สึกมีความสุขที่ได้ตอบแทนพระคุณแม่ เหมือนที่ครั้งนึงตอนเขาเป็นเด็กแม่ได้ทำทุกอย่างให้กับเขา แม่ป่วยหนักอีกครั้งและหนนี้แม่ต้องอยู่โรงพยาบาลนานจนกระทั่งจากไป ธีระรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกดับไปชั่วขณะ พิม อุ้ม ข้าวตู ได้ข่าวการจากไปของแม่จินดา ทั้งสามมาร่วมงานศพและแสดงความเสียใจต่อการจากไปของแม่ (แต่ในใจรู้สึกโล่ง) ทั้งสามต่างก็บอกกับธีระว่าพวกเธอยังรอและรักเขาอยู่เสมอ สุดท้ายธีระจะตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงคนไหนก็ต้องติดตามชมกันต่อใน ละครรักคุณเท่าฟ้า ออกาอากาศทุกวันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครรักคุณเท่าฟ้า เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 25 กรกฎาคม 2555
Read more »

 
Powered by MBA