วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Miss Panda and Mr. Hedgehog : แพนด้าหน้าเป็น นายเม่นหน้านิ่ง

เรื่องย่อ Miss Panda and Mr. Hedgehog : แพนด้าหน้าเป็น นายเม่นหน้านิ่งพันดายัง (ยุนซึงอา) เจ้าของร้าน "แพนด้าคาเฟ่" ร้านขนมเค้กที่สืบทอดมาจากพ่อ ซึ่งกิจการร้านไม่ค่อยดีนัก จนเธอพยายามจะรักษาร้านไว้ โดยวันหนึ่งได้พบกับเชฟเบเกอรี่หนุ่มอัจฉริยะอย่าง โกซึงจี (ลีดงเฮ) ที่มาสมัครเป็นคนทำขนมเค้กที่ร้านของเธอ โกซึงจีคือผู้ชายธรรมดาที่มีอดีตลึกลับ แต่ทว่าเขากลับทำเค้กได้อร่อยเลื่องชื่อ ทำให้ร้านแพนด้าคาเฟ่ที่กำลังจะเจ๊ง ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ระหว่างที่ได้ร่วมงานกันโกซึงจีรู้สึกชอบพันดายังขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นรักแรกของเขา เช่นเดียวกับ ชเววอนอิล (ชเวจินฮยอก) นักธุรกิจหนุ่ม เท่ เก่ง และสมบูรณ์แบบเจ้าของร้านเบเกอรี่ชื่อดังระดับประเทศ ที่มองพันดายังเป็นรักแรกเช่นกัน เรื่องราวชุลมุนวุ่นวาย กุ๊กกิ๊กปนรักสามเส้า จึงเกิดขึ้น

Read more »

หลานสาวนายพล

เรื่องย่อ หลานสาวนายพลเป็นเรื่องโกลาหลอลเวงอีกจนได้ เมื่อ คุณปู่ (อนันต์ บุญนาค) ประมุขของบ้านหายไปจากบ้านสวนสารภี งานนี้ร้อนไปถึงหลานสาวสามใบเถาอย่าง แพรทอง (ธัญญาเรศ รามณรงค์) ไหมทอง (พิมพ์ทอง วชิราดม) และฝ้ายทอง (มิเชล เบอร์แมน) ที่เกณฑ์คนทั้งบ้านออกตามหา ทั้งนี้เพราะคุณปู่นั้นความจำเสื่อม การหายตัวไปของคุณปู่หรือท่านนายพล ครั้งนี้คุณปู่ลงเรือขายก๋วยเตี๋ยวเรือที่มาจอดหน้าบ้านให้แม่ค้าพามาที่ตลาดเพื่อตามหาความรักที่ฝังใจของคุณปู่ หล่อนคือ ผอบ หญิงที่คุณปู่วัยถวิลหา นางในวรรณคดีหรือนางฟ้าก็ไม่ทราบแน่ เพราะเมื่อลูกหลานสืบเสาะย้อนอดีตก็ยังไม่มีใครทราบว่าคุณผอบนี้คือผู้ใด

ใจกลางตลาดเมืองสุพรรณมีลิเกคณะดังกำลังจัดแสดงในท้องเรื่องจันทโครพ ช่วงที่จันทโครพกำลังจะเปิดผอบหลังจากได้รับจากพระเจ้าตา คุณปู่ต้นเหตุของความวุ่นวายก็โผล่เข้ามากลางเวที และตรงเข้าทำร้ายพระเอกหน้าหวานเพื่อยื้อแย่งผอบอันเล็กนั้น พร้อมประกาศว่าผอบนี้เป็นของตัวเองห้ามผู้ใครครอบครองก่อนจะดึงผอบอุปกรณ์ประกอบฉากของคณะลิเกนั้น

เรื่องไปจบลงบนโรงพัก เมื่อบรรดาหลานสาวสามใบเถาของคุณปู่ แพรทอง ไหมทอง และฝ้ายทอง มาประกันตัวคุณปู่เพราะถูกตำรวจจับในข้อหาลักทรัพย์ ฝ้ายทองหลานสาวคนเล็ก ที่มีนิสัยก๋ากั๋นไม่กลัวใครนั้นไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมากที่จับคุณปู่หล่อน และยัดเยียดข้อหาให้ ตำรวจที่จับตัวคุณปู่หล่อนมาขัง โดยมี นายดาบฟ้าฟื้น และ หมวดเนย ถึงกับร้องอวดครวญเพราะเจอฝีปากอันเจ็บแสบของเจ้าหล่อน ทำให้ ผู้กองยอดธง (สมชาย เข็มกลัด) เจ้าของฉายา มือปราบหน้าหยก ประจำ สน. ต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย

ผู้กองยอดธง ประทับใจแพรทองและไหมทอง ส่วนฝ้ายทอง น้องสาวคนเล็ก เขาส่ายหน้าเอือมระอาสุดๆ และหันมาสนใจไหมทอง ที่ดูนุ่มนวล อ่อนโยน เขาเกิดชอบพอสาวน้อย เถากลางนี้ทันที แต่ก็มาหนักใจเมื่อเห็นท่าทีเถาใบเล็กที่อย่าง ฝ้ายทอง ที่ทำตัวหวงพี่สาว และห้าวหาญเกินหญิงที่ออกหน้าประกาศห้ามใครยุ่งกับพี่สาวเธอเด็ดขาด

เมื่อพาตัวคุณปู่กลับบ้านสวนสารภี หลานสาวทั้งสามใบเถาต่างก็หามาตรการดูแลคุณปู่ของตัวเองอย่างดี เพราะหากปล่อยให้คุณปู่ออกไปนอกบ้านก็จะสร้างความวุ่นวาย อาจจะนำมาสู่ความเสื่อมเสียเกียรติของตัวคุณปู่ท่านเองได้ เพราะมีชาวบ้านที่ไม่เข้าใจอาการป่วยของคุณปู่ นำไปพูด เชิงนินทาได้ว่าท่านนายพล แห่งบ้านสวนสารภีนั้นสติฟั่นเฟือน ผีเข้าผีออก เรื่องนินทาว่าร้าย กระหายปากเห็นจะไม่มีใครเกิน นางกิมลั้งกับนางทองประศรี แม่ค้าในตลาดที่มักจะนำเรื่องราวของคนในบ้านสารภีมานินทาอย่างสนุกปาก บ่อยครั้งที่จะเห็นมวยปล้ำหญิงเกิดขึ้นกลางตลาดสด เพราะเหล่าคนใช้ในบ้านสารภี ที่มาจ่ายตลาดได้ยินคำพูดเหน็บแนมจากแม่ค้าปากมอมทั้งสอง ที่นำทีมโดย ส้มเกลี้ยง (ฉันทนา กิติพันธ์) แม่ครัวใหญ่ และ ลำหับ ที่จงรักภักดีนายยิ่งกว่าชีวิต ตะลุมบอนกันอย่างเอาเป็นเอาตายโดยมีแผงผลไม้กับแผงผักสดเป็นสังเวียน

เจ้าของตลาดสดอย่างคุณนายบัวแก้ว (จินตรา สุขพัฒน์) เศรษฐีนีวัย 60 กว่า ต้องให้คนมาปิดประกาศห้ามทะเลาะเบาะแว้งกันในตลาด หากแต่ นายโป่ง (โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว) คนที่ได้รับมอบหมายให้ทวงหนี้กับพวกพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนั้นต่างหากที่แสดงตัวเป็นมาเฟียโหดเสียเอง โดยขูดรีดบรรดาพ่อค้าแม่ค้าแบบไม่ปราณี ภาพพจน์ของคุณนายบัวแก้วจึงกลายเป็นภาพของนางมารร้ายที่น่าเกรงกลัว

คุณนายบัวแก้วก็มีทายาทอยู่ คือหลานชายสุดหล่อ อย่าง ต้นบุญ (นัฐฐพนธ์ ลียะวณิช) กับ ต่อบุญ (พงศ์พีระ เวียงนนท์) ที่พอจะมาบริหารตลาดได้ แต่หลานชายทั้งสองก็เอาดีคนละแบบ เพราะต้นบุญ คนพี่นั้น ยึดอาชีพเป็นนายแพทย์ประจำอยู่ในโรงพยาบาลในเมือง หลานชายคนเล็กอย่าง ต่อบุญ หันมาเอาดีทางด้านศิลปะ ก่อนจะกลายมาเป็นนักร้องเพื่อชีวิต ที่ชอบทำงานการกุศล ไร้แก่นสานไปวันๆ ต้นบุญและต่อบุญเป็นหนุ่มรูปงามมีเสน่ห์คนละแบบ โดยเฉพาะคนน้องที่เจ้าชู้ยิ่งกว่าขุนแผนเสียอีก ทำเอาหญิงสาวทั่วทั้งอำเภอหลงใหลอย่างหนัก คุณนายมอบหมายให้ เข็มทอง (ธนิดา กาญจนวัฒน์) ญาติห่างๆ มาคอยเป็นคนช่วยกันท่าไม่ให้สาวๆ เข้าใกล้หมอต้น

วันหนึ่งเมื่อหลานสาวไม่อยู่บ้าน คุณปู่จึงแอบล่องเรือหนีไปจากบ้านไปจนถึงศาลาท่าน้ำบ้านคุณนายบัวแก้ว แล้วคิดว่าคุณนายบัวแก้วเป็นหญิงสาวที่ตัวเองตามหา คุณปู่ไม่ทันระวังจึงตกน้ำไป พอดีผู้กองยอดธงมาพบเข้าจึงเข้าช่วยชีวิตคุณปู่ไว้ ตั้งแต่ช่วยคุณปู่คราวนี้ ผู้กองยอดธง ก็กลายเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านสวนสารภีไปทันที ไหมทองกับผู้กองยอดธงจึงเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้นตามลำดับ

ต้นบุญและต่อบุญเองก็สู้รบปรบมือกับบรรดาหญิงสาวที่รายล้อมเข้ามาหาพวกเขาแทบทุกวัน โดยเฉพาะเข็มทองที่พยายามกระชับพื้นที่หวังเผด็จศึกหมอหนุ่มให้เร็ววัน เธอแอบเข้าหาหมอต้นบุญในวันหนึ่ง แต่พอรุ่งเช้าเธอก็ได้พบว่าชายหนุ่มที่เธอนอนอยู่ด้วยทั้งคืนนั้นกลายเป็น นายโป่ง นั่นเอง นายโป่งบอกเข็มทองว่าเขาชอบเข็มทองมานานแล้วแต่เข็มทองรังเกียจนายโป่งยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือเข็มทองให้นายโป่งปิดเรื่องความสัมพันธ์นี้ไม่ให้ใครรู้

นายโป่งยังคงรังแกพ่อค้า แม่ค้าในตลาดไม่วางมือ สุดท้ายยึดข้าวของมาเป็นของตน เรื่องรู้ถึงหูของฝ้ายทอง เธอแค้นใจมากตรงไปที่บ้านคุณนายบัวแก้ว แต่กลับได้พบกับต่อบุญ ทั้งสองมีปากเสียงกัน ฝ้ายทองทำร้ายต่อบุญบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล หมอต้นบุญพี่ชายคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ต่อบุญแขนเดาะเพราะถูกฝ้ายทองจับทุ่มลงพื้นอย่างแรง คุณนายบัวแก้ว ต้องการให้เอาตัวฝ้ายทองมาลงโทษ โดยเข้าแจ้งความผู้กองยอดธง ไหมทองทราบเรื่องจากผู้กองยอดธง ว่าฝ้ายทองไปก่อเหตุจึงโทรศัพท์แจ้งพี่สาวคนโต แพรทองรีบมาสมทบที่โรงพยาบาล พร้อมคาดคั้นให้ฝ้ายทองมาที่โรงพยาบาลด้วย หมอต้นเห็นแพรทองครั้งแรกก็นึกชื่นชมในความมีเหตุผล หมอหนุ่มแอบประทับใจในตัวหญิงสาวทันที ผู้กองยอดธง บอกว่านี่แหล่ะคือ สามสาวสามใบเถาที่เขาเคยเล่าให้ฟังและสาวเถากลางคือคนที่เขาหมายมั่นไว้ว่าจะต้องจีบให้สำเร็จ หมอต่อบุญบอกว่าเป็นพรหมลิขิตที่ให้เขาให้พบกับแพรทอง ชายหนุ่มทั้งสามหันไปมองฝ้ายทองที่ยังไม่ละพยศก็ส่ายหน้า ต้นบุญอาสาปราบพยศฝ้ายทองให้เอง

เมื่อต่อบุญหายดี เขาหมายมั่นที่จะปราบพยศฝ้ายทอง ต่อบุญลงทุนขับรถไปคอยรับฝ้ายทองที่หน้ามหาวิทยาลัย รวมไปถึงหน้าโรงยิมเพื่อมาส่งที่ท่าเรือข้ามฝั่งทำให้พวกบรรดาแฟนคลับของต่อบุญถึงกับหมายหัวฝ้ายทองว่าเป็นศรัตรูหัวใจหมายเลขหนึ่งเลยทีเดียว ฝ้ายทองหมั่นไส้ต่อบุญมากขึ้น หล่อนทำเป็นยินยอมให้ต่อบุญมาส่งที่เรือข้ามฟาก ก่อนที่หล่อนขอเป็นคนขับเรือหางยาวซิ่งแหลกไปบนคลอง ขณะเดียวกันนั้นเองมีเหตุการณ์ปล้นร้านทองในตลาด พวกโจรหนีลงเรือ ผู้กองยอดธง และเหล่าตำรวจ ต่างไล่ล่ายิ่งบู๊ยิ่งกว่าหนังไทย ฝ้ายทองเบนหัวเรือขับสกัดกั้น จนสกัดจับพวกโจรปล้นทองได้อย่างน่าหวาดเสียว ตั้งแต่นั้นมาต่อบุญก็เริ่มสนใจฝ้ายทองมากขึ้น

ทางด้านคุณปู่ อาการยังคงละเมอเพ้อรำพันหาแต่ผอบ หลานๆ ทุกคนพยายามสืบหาคนที่ชื่อผอบ จนทราบจากญาติผู้ใหญ่วัย 80 ท่านหนึ่งที่พอจะเล่าเรื่องราวของคุณปู่กับคุณผอบให้ แพรทอง ไหมทอง และ ฝ้ายทองฟังทำให้รู้ว่าคุณผอบเป็นคนรักเก่าของคุณปู่ก่อนที่จะมาแต่งงาน หลังจากทีคุณผอบผิดหวังในรักไม่ได้แต่งงานกับคุณปู่ จึงหนีไปอยู่ที่อื่นแต่ประสบอุบัติเหตุตกน้ำตายเสียก่อนคุณปู่จึงฝังใจในเรื่องนี้มาก

คุณปู่แอบไปที่บ้านคุณนายบัวแก้วอีก บัวแก้วคิดว่าคุณปู่หลงไปจึงช่วยดูแลคุณปู่เอาไว้ คุณปู่หายไปจากบ้านสวนสารภีหลายวันแล้วสร้างความหดหู่และหมองเศร้าแก่ทุกคนในบ้านอย่างมาก หลานสาวทั้งสามกินไม่ได้นอนไม่หลับ พยายามออกตามหาแต่ก็ไม่พบ ผู้กองยอดธงส่งนายตำรวจช่วยกันออกตามหาอย่างเต็มกำลังก็ไม่เจออีก จนทุกคนคิดว่าคุณปู่นั้นอาจจะจมน้ำเสียชีวิต คุณปู่ กลายเป็นสมาชิกใหม่ภายในบ้านของคุณนายบัวแก้ว การมาของคุณปู่กลายเป็นสีสันให้กับคนในบ้านอย่างมาก ชีวิตวัยชราของคุณนายบัวแก้ว ถูกเติมเต็มด้วยความสุขที่ได้รับจากชายวัยชราที่มองหล่อนว่าคือคนรักที่พลัดพรากกันไปเมื่ออดีต คุณนายบัวแก้วจึงยอมเออออห่อหมก สวมรอยเป็นคุณผอบ ตามที่คุณปู่พูดเพื่อให้ชายชรานั้นได้สบายใจ

ต่อบุญกับต้นบุญ นึกแปลกใจที่เห็นคุณปู่พลัดหลง เขาปรึกษาเรื่องนี้กับผู้กองยอดธงว่ามีคนมาแจ้งเรื่องคนหายหรือไม่ ผู้กองบอกว่า สามสาวบ้านสวนสารภีมาแจ้งความเรื่องคุณปู่ของพวกเธอหายไป ต้นบุญกับต่อบุญคิดว่าต้องเป็นคุณปู่ของสามใบเถานั้นแน่ จึงพาผู้กองยอดธงไปพบคุณปู่ที่บ้านของตน ทันทีที่ยอดธงเจอคุณปู่ก็ยืนยันว่าเป็นคุณปู่ของสามสาวบ้านสวนสารภี ผู้กองยอดธงกำลังจะโทรศัพท์บอกกับไหมทองว่าเจอคุณปู่แล้วให้มารับตัว แต่หมอต้นบุญห้ามไว้ เพราะในเวลานี้ เป็นเวลาของความสุขของคุณปู่และคุณย่า ด้วยเหตุผลนี้ผู้กองยอดธงยอมที่จะไม่แจ้งข่าวให้กับสามสาวบ้านสวนสารภีทราบ เพราะต่อบุญและต้นบุญยืนยันที่จะดูและคุณปู่อย่างดี

ทางด้านฟากบ้านสวนสารภี บัดนี้ทุกคนในบ้านทำใจแล้วกับความหวังที่จะได้พบกับคุณปู่ของพวกตน ถึงกับจ้างหมอดูคนทรงเจ้ามานั่งทางในหาคุณปู่กันเลยทีเดียว เมื่อจิตใจอ่อนล้าเปิดโอกาสให้ หมอต้นบุญ ต่อบุญ และ ผู้กองยอดธง กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสามสาวได้มากขึ้น จะว่าไปพวกเขาคือนักฉวยโอกาสที่เยี่ยมยอดก็ว่าได้ ในสภาพที่ท้อใจและสิ้นหวังที่คุณปู่หาย การเข้ามาของชายหนุ่มทั้งสามเพิ่มความอบอุ่นและเติมเต็มความอ่อนแอให้สามสาวเข้มแข็งมากขึ้น ทั้งแพรทอง ไหมทอง และ ฝ้ายทอง ยินดีที่จะเปิดใจต้อนรับสุภาพบุรุษทั้งสาม แต่ก็กลายเป็นขี้ปากของกิมลั้งกับทองประศรีที่เที่ยวโพทะนาทั่วตลาดว่าช่างน่าบัดสีนัก หลานสาวนายพลทั้งสาม สร้างเรื่องให้ปู่หายไป หวังมรดกแล้วก็พาผู้ชายเข้าบ้าน ทองประศรีเสริมไปอีกว่าเพราะกลัวจะขึ้นคานจึงต้องหาแผนการชั่วๆ มา เมื่อรู้ถึงหูของพวกคนที่บ้านสวนสารภี ฝ้ายทองเดือดแค้นกว่าคนอื่น บุกไปอาระวาดถึงตลาดสด กิมลั้งและทองประศรีต้องเจอสั่งสอนสภาพยับเยินบอบช้ำไปหลายวัน

หมอต้นบุญปรึกษากับผู้กองยอดธงว่าหากพวกเขายังไปมาหาสู่สามสาว โดยที่แอบแฝงไม่บอกเรื่องคุณปู่ว่าอยู่ที่บ้านของพวกเขานั้น ทั้งสามใบเถาก็มีแต่จะเสียหายเพราะคำครหาของผู้คนในตลาด ทั้งสามหนุ่มลงความเห็นว่าจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นโดยจะให้คนมาสู่ของ สามสาว แต่อันดับแรกต้องแจ้งเรื่องคุณปู่ของสามสาวเสียก่อน เข็มทองทราบเรื่องว่าหมอต้นบุญกำลังจะหมั้น เธอเสียใจมาก คุณนายบัวแก้วไม่ให้เธอไปทำงานที่คลินิกอีกและไม่นานเข็มทองก็เกิดอาการแพ้ท้อง ผลการตรวจพบว่าเข็มทองท้องได้ 3 เดือน ผลผลิตครั้งนี้เป็นผลผลิตของนายโป่งนั่นเอง นายโป่งยื่นข้อเสนอจะหาทางให้หมอต้นบุญเป็นของเข็มทองได้แต่มีข้อแม้เข็มทองต้องไม่ทำลายลูกในท้อง นายโป่งมีแผนการจะยักยอกเงินคุณนายบัวแก้ว จากนั้นก็จัดการคุณนายให้พ้นๆ เข็มทองจะอยู่กับต้นบุญต่อไปก็ได้ เมื่อคลอดลูกเขาจะขอลูกเอง เข็มทองเห็นดีด้วย

คืนหนึ่ง เข็มทองวางแผนวางยานอนหลับหมอต้นบุญโดยมีนายโป่งช่วยเหลือและแอบเข้าไปนอนในห้องหมอต้น โดยสร้างภาพให้เห็นว่าทั้งสองร่วมหลับนอนกัน จนตอนเช้าคุณนายบัวแก้วเห็นว่าหลายชายไม่ตื่นไปเปิดคลินิกจึงเคาะประตูเรียก เมื่อหมอต้นบุญรู้สึกตัวก็พบว่าเข็มทองกำลังนอนกอดตัวเขาอยู่ คุณนายเห็นว่าหลานชายไม่เปิดประตู จึงให้คนใช้เอากุญแจสำรองไขเข้าไป ก็พบภาพที่ทำเอาคุณนายช็อกไปทันที เข็มทองนอนกำลังกอดหมอต้นบุญอยู่ คุณนายบัวแก้วเสียใจอย่างมากเรียกให้เข็มทองออกมาเจรจาโดยยื่นข้อเสนอเงินจำนวนมากให้เข็มทองไป

เข็มทองไม่รับเงิน และบอกว่าหล่อนต้องการแต่งงานเพราะเธอกำลังท้อง เธอแอบได้เสียกับหมอต้นมานานแล้ว หมอต้นบุญเข้าใจว่าเป็นแผนการของเข็มทอง เขาพยายามอธิบายให้คุณนายบัวแก้วฟังแต่เข็มทองก็ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่ออย่างแนบเนียน จนคุณนายบัวแก้วเชื่อว่าเข็มทองเป็นเมียของหมอต้นบุญอย่างที่หล่อนพูด แพรไหมรู้เรื่องก็เสียใจมากพยายามออกห่างหมอต้นบุญชายหนุ่มพยายามอธิบายว่าไม่เป็นความจริง แต่ไม่มีใครเชื่อหมอต้นบุญเลยสักคน

นายโป่งแอบยักยอกเงินคุณนายบัวแก้วไปมากมาย จนคุณนายเริ่มสงสัย เมื่อคุณนายหันมาสอบถามนายโป่งก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบ พอคุณนายซักเข้าว่านายโป่งโกง นายโป่งก็แสดงทาสแท้ออกมา บอกว่าเรื่องเข็มทองท้องกับหมอต้นบุญก็เป็นเรื่องแหกตาเพราะเข็มทองเป็นเมียลับๆ ฃของเขาต่างหาก นายโป่งเจ้าเล่ห์บอกให้คุณนายเซ็นมอบที่ดินหลายรายการที่เขาอยากได้ แล้วเขาจะพาเข็มทองไปจากหมอต้น คุณนายบัวแก้วไม่ยอม ถูกนายโป่งใช้ปืนจี้ให้เซ็นพร้อมขู่ พอดีคุณปู่ได้ยิน จึงเข้ามาช่วยคุณปู่ถูกยิง คุณนายบัวแก้วเอาตัวเข้าขวางอีกจึงถูกยิงไปด้วยอีกคน นายโป่งหนีไป โดยนำตัวเข็มทองไปด้วย

สามสาวบ้านสวนสารภี เศร้าใจอย่างหนักเมื่อทราบว่าคุณปู่ถูกยิงอาการเป็นตายเท่ากัน ฝ้ายทองเกรี้ยวกราดหมอต้นบุญ ต่อบุญ และ ผู้กองยอดธง ที่ปิดบังเรื่องคุณปู่หาย จนคุณปู่ของพวกเธอต้องมาถูกยิงเพราะคนเลวอย่างนายโป่งซึ่งเป็นคนในบ้านของต่อบุญนั่นเอง ทั้งหมดเสียใจและเสียใจมากที่ร่างของหญิง ชาย ชราทั้งสองยังนอนสงบนิ่งในห้องไอซียู ผู้กองยอดธง สั่งกำลังตำรวจตามจับตัวนายโป่งกับเข็มทอง ทั้งสองหนีไปกกดานอยู่ต่างจังหวัด นายโป่งบอกว่าเขารักเข็มทองและต้องการเข็มทองและลูก แต่เข็มทองยังทะเยอทะยานอยากกลับไปอยู่กับหมอต้นบุญ เข็มทองจึงเกลี้ยกล่อมให้นายโป่งไปมอบตัวและเธอพยายามหนีหลายครั้ง สุดท้ายทั้งคู่ทะเลาะกันในรถ เข็มทองแย่งพวงมาลัยให้รถเข้าข้างทางแต่เหตุการณ์ครั้งนี้กลายเป็นอุบัติเหตุทำให้ทั้งสองเสียชีวิตทันทีชดใช้กรรมที่ตัวเองกระทำไว้อย่างสาสม

อาการของคุณนายบัวแก้วพ้นขีดอันตรายและย้ายออกมาพักฟื้นที่ห้องพิเศษได้แล้ว ขณะที่อาการของคุณปู่ ยังคงน่าเป็นห่วง คุณปู่ยังไม่ฟื้นจนหมอที่ช่วยยื้อชีวิตต่างหมดหวัง คุณนายบัวแก้วหมั่นเข้ามาคุยกับคุณปู่ตลอดที่รักษาและทำใจที่จะรับรู้หากเพื่อนวัยชราจะจากหล่อนไป ความสุขที่ชายชราผู้นี้ได้มอบให้ในวัยไม้ใกล้ฝั่งนั้นก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่หล่อนได้รับ คุณนายบัวแก้วสารภาพรักกับคุณปู่ที่ยังนอนไร้สติว่าเธอหลงรักผู้ชายวัยชราคนนี้ นี่เป็นครั้งแรกเช่นกันที่เธอได้บอกรักผู้ชาย แม้จะเป็นการบอกรักในวัยจะ 70 คุณนายบัวแก้วร้องไห้เบาๆ และบอกว่าหากคุณปู่จะตายจริงๆ หล่อนก็คงจะต้องทำใจเพราะเชื่อว่าอีกไม่กี่ปีหล่อนก็คงจะตามชายชราคนนี้ไป ลูกหลานได้เห็นภาพหญิงชรานั่งมองชายชราแล้วร้องไห้ก็สะเทือนใจ

และเหมือนปาฏิหาริย์ คุณปู่ฟื้นหลังจากที่หมดสติไปหลายวัน ทุกคนดีใจกับการฟื้นของคุณปู่ คุณปู่กลับมาเป็นคุณปู่เหมือนเดิม แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือความทรงจำที่คุณปู่สูญเสียไปกลับมาปกติ ขณะที่ความทรงจำที่เกิดขึ้นก่อนถูกยิงนั้นหายไป คุณปู่จำลูกหลานได้และทุกคนในบ้านสวนสารภี แต่กลับจำคุณนายบัวแก้วไม่ได้ แต่สุดท้ายหลานสาวทั้งสามก็ช่วยให้คุณปู่รับรู้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และคุณปู่เริ่มต้นสานสัมพันธ์กับคุณนายบัวแก้วใหม่ ไม่มีคุณผอบ มีแต่คุณนายบัวแก้ว คนที่มาคอยเติมเติมให้ชีวิตวัยชราอบอุ่น พร้อมลูกหลานที่อยู่ดูแลอย่างใกล้ชิด และชีวิตที่มีความสุข กับการได้เห็นหลานสาวทั้งสามได้แต่งงานกับคนที่พวกหล่อนเลือกแล้ว แพรทอง กับหมอต้นบุญ ไหมทองกับผู้กองยอดธง และ น้องคนเล็กที่ละพยศแล้วกับหนุ่มนักดนตรีเสน่ห์แรงอย่างต่อบุญ งานแต่งงานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ขบวนขันหมากที่ล่องเรือข้ามคลอง คลองสองฟากฝั่งที่ไม่เคยหันหน้าเข้าหากัน บัดนี้ได้เชื่อมรักมาใกล้ชิดกันมากขึ้นเพราะความรักของคนชราสองคนที่กลายเป็นกามเทพ ชักนำให้ดวงใจหกดวงมาร้อยเรียงกันได้อย่างงดงาม

Read more »

เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยอง

เรื่องย่อ เสือสั่งฟ้า 2 พยัคฆ์ผยองกรุงเทพมหานครในยุค 80 เป็นยุคที่อารยธรรมตะวันตกเริ่มไหลบ่าเข้ามาในสังคมเมือง วัยรุ่นคลั่งไคล้วัฒนธรรมต่างชาติ ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ถูกทำให้กลายเป็นเรื่องของการค้า เครื่องรางของขลังกลายเป็นของมีราคาที่ต้องใช้เงินซื้อหามาครอบครองเพื่อเสริมสร้างบารมีมากกว่าจะบูชาเพื่อคุ้มครองชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือความโลภของมนุษย์

กล้า ไพรีพ่าย (วงศกร ปรมัตถากร) ลูกชายคนเดียวของพลตำรวจโท เพชร ไพรีพ่าย นายตำรวจกองปราบซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือว่าเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ โดยเฉพาะเรื่องของไสยเวทย์ก็เป็นเป้าหมายหนึ่งซึ่งเป็นที่เพ่งเล็งของนักสะสมเครื่องรางของขลัง ที่มักจะวนเวียนมาของดูของสะสม หรือมาลองวิชาอยู่เสมอ โดยเฉพาะตะกรุดสามกษัตริย์ มรดกชิ้นสำคัญที่กล้าได้รับมอบมาจาก เพชร หลังจากที่เพชรเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งทำให้กล้ารู้สึกเบื่อหน่ายมากเพราะตนเองไม่ได้สนใจจะศึกษาเรื่องเหล่านี้เลย แต่ดูเหมือนว่ายิ่งหนี กล้าก็กลับยิ่งต้องเจอกับเรื่องลึกลับเพราะเมื่อใกล้อายุครบยี่สิบกล้ามักฝันประหลาดถึง หลวงปู่หาญ (เคลลี่ ธนะพัฒน์) ซึ่งเป็นปู่แท้ๆ แต่เข้าธุดงค์อยู่ในป่าเป็นเวลานาน หลวงปู่หาญได้เตือนให้กล้าระวังตัวเพราะจะเกิดอันตราย แม้แต่ กระเต็น (ทราย เจริญปุระ) ก็ฝันเหมือนกัน กล้าไม่ค่อยเชื่อนักแต่กระเต็นเดือดร้อนใจมาก ต้องไปปรึกษากับ จุก (พัฒนะ พันธุ์เทวะ) อดีตเด็กวัดที่เคยฝากตัวเป็นลูกศิษย์หาญ แต่เพราะหาญไม่ยอมสอนวิชาให้จุกจึงผันตัวเองมาเป็นเซียนพระหากินอยู่แถวท่าพระจันทร์ จุกกระตุ้นให้กระเต็นระลึกถึงอดีตเมื่อครั้งที่หาญเคยมาทำพิธีโกนผมไฟให้หลานและเคยทักว่า กล้ามีดวงที่แรงมาก ถ้าใฝ่ดีจะเป็นเจ้าคนนายคน ถ้าใฝ่ชั่วจะกลายเสือร้ายที่ไม่มีใครปราบได้ โดยเฉพาะเมื่ออายุครบยี่สิบจะเป็นช่วงตัดสิน จุกแนะนำให้กล้าบวชเพื่อสะเดาะเคราะห์ กระเต็นเห็นด้วยและกล้าก็รับปาก เพราะกล้ารักแม่มาก แม้จะไม่รู้สึกเดือดร้อนไปกับคำทำนายเลย จุกส่งรักยม วิญญาณเด็กที่เลี้ยงไว้ให้ไปตามสอดส่องคุ้มครองกล้า ทำให้ นุกูล (ศุภกิจ บัวงาม) หรือนุเพื่อนกล้า ที่เชื่อเรื่องเร้นลับอยู่แล้วหวาดกลัวมาก

และแล้ว ก็เกิดเรื่องที่ทำให้ชาวเมืองหลวงต้องขวัญหาย เมื่อ ทิว (สุรวุฑ ไหมกัน) นักโทษคดีฆ่ายกครัว (ลูกเมียของตัวเอง) หนีออกจากที่คุมขังมาโดยฆ่าผู้คุมอย่างโหดเหี้ยมด้วยไสยดำเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว ทิวก็คือคนที่มาขอเรียนวิชาไสยเวทย์กับเพชร แต่ถูกปฎิเสธ ทิวจึงไปซุ่มฝึกวิชาอาคมด้วยตัวเองและมาท้าเพชรประลองวิชา ทิวพ่ายแพ้เลยทำให้ทุ่มเทฝึกวิชาจนคลุ้มคลั่งสังหารลูกเมียจนหมดบ้าน ทิวถูกตัดสินประหาร แต่ก็ได้รับการลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตเพราะศาลลงความเห็นว่าทิวจิตไม่ปกติ ความจริงก็คือแม้จะถูกคุมขังแต่ทิวก็ยังไม่เลิกฝึกฝนมนต์ดำ เพราะยังมีความแค้นอยากจะประลองกับเพชรอยู่ตลอดเวลา และที่ทิวหนีออกมาก็เพื่อท้ากับเพชรอีกครั้ง ซึ่งทิวก็ต้องผิดหวังเมื่อมาถึงบ้านเพชรแล้วได้รู้ว่าเพชรตายไปแล้ว ทิวขอสู้กับกระเต็นซึ่งแม้จะมีวิชาติดตัวแต่ก็ทิ้งร้างไปนานจึงเพลี่ยงพล้ำเกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่พระหาญที่รู้จากฌาณว่ากระเต็นตกอยู่ในอันตรายมาช่วยกระเต็นไว้ได้ทัน แต่ด้วยความที่อยู่ในสมณะเพศจึงไม่สามารถฆ่าทิวได้ ได้แต่ปล่อยให้ทิวหนีไปซึ่งหาญรู้อยู่เต็มอกว่าเป็นการปล่อยเสือเข้าป่า

คืนเดียวกันนั้น โรงเรียนของกล้ากำลังจัดงานประจำปี กล้าถูกส่งขึ้นชกมวยไทยชิงถ้วยรางวัล กล้าเอาชนะได้อย่างง่ายดาย เหตุการณ์การต่อสู้ของกล้าอยู่ในสายตาของพ่อเลี้ยงภูมินทร์ (อานัส ฬาพานิช) เศรษฐีเจ้าของปางไม้ที่พรางตัวเข้ามาในงานพร้อมกับคม ลูกน้องคู่ใจ ภูมินทร์ติดใจฝีมือกล้าจึงให้คมขึ้นไปท้าชก คมใช้กลโกงโดยแอบใช้สนับมือทำให้กล้าบาดเจ็บ แต่กล้าก็คว่ำคมลงได้ นุเอาตะกรุดที่กล้าฝากไว้มาคืน ต่อว่าว่ากล้ามีของดีไม่ใช้จนเจ็บตัวฟรี ทำให้พ่อเลี้ยงที่เป็นนักสะสมของขลังตัวยงรู้สึกสนใจตะกรุดของกล้าถึงกับขอซื้อ แต่กล้าไม่ขาย การเจรจาหยุดชะงักลงเมื่อคมวิ่งมาบอกพ่อเลี้ยงว่าเจอตัว คะนึงนิจ (ณัฐชา นวลแจ่ม) หรือนิจน้องสาวคนเดียวของภูชิตแล้ว คะนึงนิจหนีออกจากบ้านมาเพราะได้ค้นพบว่า ภูมินทร์ทั้งขายไม้เถื่อน ล่าสัตว์ป่าเพื่อเอาหนังและเขาส่งนอก แม้แต่ขุดสมบัติของชาติขายก็ทำ คะนึงนิจทะเลาะกับภูชิตอย่างหนักและหนีมาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงด้วยการวาดรูปขาย ยามว่างก็ไปเรียนวาดรูปเพิ่มเติมกับ ครูเริง (โอลิเวอร์ บีเวอร์) พ่อของ ราชาวดี (ทิสานาฏ ศรศึก) ภูมินทร์ให้คนสืบหาจนรู้ว่าคะนึงนิจมาเช่าบ้านอยู่แถวโรงเรียนสหช่างจึงตามมา คะนึงนิจซึ่งนั่งรับจ้างวาดรูปอยู่ในงานหนีการไล่ล่าของพี่ชายไปหลบอยู่ในห้องน้ำชายที่กล้าเข้าไปเปลี่ยนเสื้อและขอร้องไม่ให้กล้าบอกพวกภูมินทร์ กล้าทำตามเพราะนึกว่าภูชิตเป็นพวกคนร้าย คะนึงนิจปลอมตัวเป็นผู้ชายขอให้กล้าช่วยเดินกอดคอออกไปในงานเพื่อพรางตาพวกภูมินทร์ โดยขอให้กล้าไปส่งตัวเองที่หลังเวทีการแสดงที่กำลังจะมีการรำของนักเรียนนาฏศิลป์ ที่นั่นกล้าได้พบกับราชาวดีนักเรียนนาฏศิลป์ที่เป็นดาวของโรงเรียน และกล้าก็ตกหลุมรักราชาวดีนับแต่นั้น

พระหาญที่กลับไปจำพรรษาในวัดป่าเกิดร้อนผ้าเหลือง เพราะกลัวอยู่ตลอดเวลาว่าทิวที่หนีรอดไปจะใช้ไสยเวทย์เข่นฆ่าคน ที่สำคัญเวลาที่กล้าจะอายุครบยี่สิบงวดเข้ามาทุกที ในที่สุดพระหาญก็อธิษฐานจิตเชิญวิญญาณหลวงปู่บุญทาผู้ซึ่งเป็นอาจารย์มาปรากฎเพื่อขออนุญาตสึก หลวงปู่บุญทารู้ทันทีว่าหาญหมดบุญที่จะอยู่ในร่มกาสาวพัสตร์แล้ว จึงสึกให้หาญแล้วใช้อาคมทำให้หาญกลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง หาญเริ่มต้นไล่ล่าหาตัวทิวเพราะเชื่อว่าทิวยังแค้นเพชรและกระเต็นอยู่ ซึ่งความแค้นนี้ต้องลุกลามมาถึงกล้าแน่นอน

ฝ่ายกล้าไม่รู้ว่าภัยกำลังมาถึงตัว เพราะความรักที่มีต่อราชาวดีกำลังเบ่งบาน โดยกล้าสามารถผ่านด่านครูเริง พ่อของราชาวดีซึ่งหวงลูกสาวอย่างมากไปได้ ขณะเดียวกันก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับคะนึงนิจ ที่เห็นว่ากล้าเจ้าชู้ไม่คู่ควรกับราชาวดีและก็ยังต้องปวดหัวกับงามตา นักเรียนนาฎศิลป์คู่แข่งของราชาวดี ที่หลงรักกล้าจนถึงขนาดไปทำเสน่ห์ยาแฝด แต่แทนที่จะทำให้กล้าหลงกลับกลายเป็นนุกูลที่โดนพิษของน้ำมันพรายแทน ส่วนภูมินทร์ยังคงมาตามหาคะนึงนิจ กระทั่งวันหนึ่งภูมินทร์ได้ให้คงมาดักจับคะนึงนิจ แต่กลับได้ตัวราชาวดีไปด้วยความเข้าใจผิด ภูมินทร์ต้องตาต้องใจราชาวดีมากกล้าตามไปช่วยราชาวดีได้ทัน โดยสามารถกำหราบลูกน้องภูมินทร์ได้ราบคาบ แถมตะกรุดของกล้ายังประกาศศักดาความคงกระพันให้ภูชิตเห็นด้วย ภูมินทร์จึงตัดสินใจจะกำจัดกล้าเพื่อแย่งทั้งราชาวดีและตะกรุดมาเป็นของตนให้ได้

วันอุปสมบทของกล้าถูกกำหนดขึ้นแต่ในคืนก่อนบวช ภูมินทร์คิดแผนให้สมุนปลอมเป็นนักเรียนโรงเรียนใกล้ๆ กับสหช่างไปรุมซ้อมนุกูล ขณะเดียวกันเสี่ยไพบูลย์ก็ส่งคนไปปาระเบิดใส่โรงเรียนนั้น ทำให้กล้าที่คิดจะไปเจรจาถูกเข้าใจผิดและถูกรุมยำจากนักเรียนช่างที่ถูกปาระเบิด ซึ่งกล้าก็สู้สุดชีวิตโดยมีคะนึงนิจอยู่ในเหตุการณ์ด้วย มีนักเรียนและครูได้รับบาดเจ็บหลายคน คืนนั้นนักเรียนคนหนึ่งที่เป็นลูกชายนายตำรวจถูกลอบยิงเสียชีวิต กระเต็นไปประกันตัวกล้าโดยใช้บารมีของพลตำรวจตรีสุพจน์เพื่อนรักของเพชรเช่นเคย กระเต็นสั่งให้กล้าเก็บตัวท่องบทสวดมนต์อยู่โบสถ์ ภูมินทร์ให้คมที่ได้วิชากำบังกายมาจาก อาจารย์ยอด (เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์) เอาปืนเข้าไปซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าของกล้า สุพจน์ต้องไปจับกล้าด้วยตัวเองในวันบวชทำให้กระเต็นเสียใจมาก ระหว่างที่กล้าถูกคุมตัวไปเรือนจำภูชิตก็ให้สมุนปลอมตัวเป็นนักโทษพยายามฆ่ากล้าทิ้ง แต่กล้าต่อสู้จนรถขนนักโทษคว่ำตำรวจที่คุมรถตาย คะนึงนิจขับรถมาช่วยพากล้าที่บาดเจ็บหนีออกต่างจังหวัด แต่ภูมินทร์แจ้งความว่ากล้าจับคะนึงนิจเป็นตัวประกันหนีไป กล้าจึงถูกตามล่าจากทั้งตำรวจและพวกภูมินทร์ จนในที่สุดคะนึงนิจและกล้าต้องหนีเข้าป่าลึกไป หาญที่ออกจากป่ามาหากระเต็นรู้เรื่องเข้าก็รีบตามกล้ากับคะนึงนิจไปทันที

ทิวที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับหาญปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งในวัดร้างทางใต้ เพื่อขุดเอากระดูกของ ขุนโชติ (วินัย ไกรบุตร) และสมุนคือ เสือดำ (ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) กับ เสือไท (จิณณะ จอมขันเงิน) เสือร้ายสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เป็นที่เลื่องลือในเรื่องความเหี้ยมโหดและอยู่ยงคงกระพัน ทิวตั้งใจจะเอากระดูกของขุนโชติไปชุบชีวิตในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ของป่าอาถรรพ์เพื่อจะใช้ขุนโชติไปแก้แค้นหาญ แต่เมื่อทิวทำสำเร็จกลับถูกขุนโชติฆ่าตายอยู่ในป่าอาถรรพ์ จากนั้นขุนโชติและสมุนก็ออกปล้นฆ่าชาวบ้านอย่างไร้ปรานี ตามแบบที่เคยทำเมื่อครั้งมีชีวิต จนกระทั่งไปพบกับแก๊งโจรตัดเศียรพระของเสี่ยไพบูลย์พ่อค้าขายวัตถุโบราณที่เคยหนีคดีไปได้เมื่อครั้งเพชรยังมีชีวิต สมุนของเสี่ยถูกขุนโชติทำร้ายและบอกว่าแม้เป็นโจรก็จะไม่ขโมยของวัด สมุนที่รอดชีวิตซมซานกลับมาหาเสี่ยไพบูลย์ซึ่งกำลังเจรจาขายของให้กับภูมินทร์ ทำให้ทั้งคู่ต้องไปตามอาจารย์ยอด อดีตพระที่มาตั้งสำนักสักยันตร์ลงของและเป็นอาจารย์ของภูมินทร์มาปราบขุนโชติ เมื่ออาจารย์ยอดพบกับขุนโชติ ก็รู้ว่าขุนโชติถูกชุบชีวิตด้วยน้ำในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์มากเหมาะจะล่อเอาไว้ใช้ จึงเสนอให้ขุนโชติร่วมกันตั้งแก็งค์กับภูชิตเพื่อปล้นทรัพย์สินมาแบ่งกันโดยภูชิตจะหารังให้ขุนโชติหลบซ่อน พร้อมสอนการใช้ชีวิตอย่างคนปัจจุบันให้ขุนโชติเกือบจะไม่ตกลงแต่พอรู้ว่าศัตรูของภูชิตคือกล้า หลานของหาญเจ้าของตะกรุดสามกษัตริย์ก็ตกลงทันทีเพราะจำได้ว่าทิวเคยพูดไว้ก่อนตายว่าหาญเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมเป็นเลิศหากขุนโชติปราบได้จะเป็นที่หนึ่งในแผ่นดิน ขุนโชติจึงอยากเจอกับหาญมาก

ที่กลางป่ากล้าและคะนึงนิจโซซัดเซเข้าไปในหมู่บ้านควาญช้างที่มี สำริด (สุธีรัชย์ ชาญนุกูล) เป็นหัวหน้า สำริดมีลูกสาวชื่อว่า ศรีแพร (กวินตรา โพธิจักร) เมียของสำริดคือศรีวรรณต้องตายเพราะปกป้องช้างตัวหนึ่งให้พ้นจากการถูกล่าเอางา สำริดและศรีวรรณจึงเกลียดคนเมืองมากเมื่อพบกับกล้าและคะนึงนิจก็คิดว่าเป็นพวกล่าสัตว์จึงเกือบฆ่าทิ้งแต่คะนึงนิจก็ช่วยอธิบายจนเข้าใจกัน กล้ารักษาตัวอยู่ในหมู่บ้านได้เรียนรู้วิชาอาคมของควาญช้างที่ใช้บังคับสัตว์ต่างๆ จนกระทั่งพวกภูชิตและขุนโชติบุกมาถึง หาญรีบย่นระยะทางมาช่วยกล้าและคนในหมู่บ้านสู้กับภูชิตและขุนโชติ กล้ารู้ว่าหาญคือพระหาญผู้เป็นปู่ก็ดีใจมาก ผนึกกำลังกันสู้พวกขุนโชติแต่คราวนี้ยอดได้ปลุกวิญญาณเสือทับ (อรุชา โตสวัสดิ์) ซึ่งรู้จุดอ่อนของหาญ และเสือต่างๆ อีกมากมายมาเป็นกองกำลัง กล้าพยายามต้านพวกขุนโชติไว้เพื่อให้หาญหนีไป ตัวเองถูกภูมินทร์จับยึดตะกรุดไป เสือทับได้ทีเข้าสิงร่างกล้า หาญต้องปล่อยให้หมู่บ้านถูกทำลาย สำริดถูกฆ่า มีเพียงศรีแพรและคะนึงนิจที่หนีรอดมากับหาญโดยพากันมาซุ่มอยู่ในมุมหนึ่งของกรุงเทพฯ ขณะที่ภูมินทร์ ก็ใช้กล้าที่มีวิญญาณเสือทับสิงอยู่กับขุนโชติไปตามหาเครื่องรางของขลังที่เคยเป็นพวกชุมเสือเมฆตามที่ต่างๆ รวมทั้งสมบัติที่เคยปล้นมาได้ โดยฆ่าคนที่ครอบครองทิ้งกลายเป็นว่ามีพวกเซียนพระและนักสะสมของเก่าต้องตายกันเป็นใบไม้ร่วงรวมทั้งจุกด้วย ยังความปวดหัวให้กับตำรวจเป็นอย่างยิ่ง

เพื่อต่อกรกับขุนโชติ หาญตัดสินใจปลุกวิญญาณของ ยิ่งยศ (ชาติชาย งามสรรพ์) อดีตนายตำรวจที่เก่งกาจทางวิชาอาคมขึ้นมาช่วยตำรวจต่อกรกับเหล่าวิญญาณร้าย โดยกระเต็นเป็นคนพาหาญไปพบกับพลตต.สุพจน์ แรกๆ สุพจน์ไม่เชื่อ แต่เมื่อได้พบกับยิ่งยศก็ถึงกับเข่าอ่อน ยอมให้หาญกับยิ่งยศมาช่วย แต่เสี่ยไพบูลย์กับภูมินทร์ก็สร้างเครือข่ายได้แข็งแรงขึ้น โดยได้นายตำรวจใหญ่หลายนายเป็นพวก เสือทับใช้ร่างกล้าเข้าปล้นผู้คนจนกล้าถูกตั้งค่าหัวสูงมาก หาญได้ประมือกับกล้าแต่ไม่อยากทำร้ายกล้า ส่วนกล้าที่มีวิญญาณเสือทับสิงก็จะฆ่าแม้แต่กระเต็น ทำให้กระเต็นเจ็บปวดมากในที่สุด กล้า (เสือทับ) ก็สามารถฉุดเอาราชาวดีมาซ่อนไว้ที่ปางไม้ตามคำสั่งของภูมินทร์ แต่ภูมินทร์ก็ไม่สามารถปลุกปล้ำขืนใจราชาวดีได้ เพราะหาญได้สักยันต์อัคคีไว้บนตัวของราชาวดีทำให้ตัวร้อนเป็นไฟทุกครั้งที่เข้าใกล้ ภูมินทร์ยิ่งเจ็บใจจึงระบายความแค้นด้วยการขอให้ขุนโชติ กับกล้าพาเสือออกปล้นครั้งใหญ่ เข่นฆ่าผู้คนล้มตาย คะนึงนิจทนไม่ไหวกลับมาหาภูมินทร์ และแสร้งทำเป็นขอคืนดีกับพี่ชาย เพื่อหาจังหวะขโมยตะกรุดมาคล้องคอให้กล้าเพื่อไล่ผีเสือทับออกจากร่าง จากนั้นทำแผนถ่วงเวลาให้กล้าพาราชาวดีหนี ส่วนตัวเองถูกภูมินทร์ทำร้ายและจับขังไว้

กล้ากลับมาหากระเต็นและหาญได้ก็จริงแต่กลับต้องหลบซ่อนเพราะตำรวจเข้าใจว่ากล้าเป็นเสือร้าย แต่ในที่สุดกล้าได้ไปพบคาถาที่สามารถปราบขุนโชติและทับได้ แต่หากใช้คาถานี้หาญและยิ่งยศก็จะได้รับผลไปด้วยแต่หาญและยิ่งยศก็ยินดีเสียสละ ทั้งสามผนึกพลังกันสู้โดยมีสุพจน์นำกำลังตำรวจไปสมทบ เสี่ยไพบูลย์ถูกตำรวจฆ่าตาย หาญมาดวลกับยอด กล้าดวลกับขุนโชติ ส่วนยิ่งยศจัดการกับวิญญาณทับ ในที่สุดยอดและภูมินทร์ก็พ่ายแพ้ ยอดตาย ภูมินทร์ถูกจับ ความจริงที่กล้าถูกเสือทับสิงร่างได้รับการเปิดเผย วิญญาณยิ่งยศสลายไป พลังความหนุ่มแน่นของหาญที่เกิดจากน้ำอมฤตก็หมดลง หาญกลับไปเป็นชายชราและสิ้นลมในอ้อมกอดของศรีแพร

ด้านคะนึงก็ต้องทำใจกับความรักและกลับไปบริหารงานต่อจากพี่ชายกลายเป็นแม่เลี้ยงของปางไม้แทนพี่ชาย ส่วนกล้าขอแต่งงานกับราชาวดี โดยไม่มีโอกาสได้รู้ความลับสำคัญที่กระเต็นไม่มีวันเปิดเผย นั่นคือ กล้านั้นไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของเธอกับเพชร แต่เป็นลูกเสือผาด เสือที่เพชรไปล้อมจับและวิสามัญจนตาย เมียเสือผาดคลอดลูกในเวลานั้นพอดี แต่ก็ตกเลือดจนตาย เพชรจึงต้องอุ้มลูกเสือกลับมาที่บ้านเป็นเวลาพ้องกับที่กระเต็นคลอดลูกชายก่อนกำหนด ทำให้ลูกเสียชีวิตเพชรกลัวกระเต็นจะเสียใจจึงเอาลูกเสือผาดมาสวมรอยเป็นลูกตัว โดยที่กระเต็นเพิ่งได้รู้ความจริงจากปากเพชรก่อนที่เพชรจะตาย ซึ่งทำให้หาญและกระเต็นกังวลมาตลอดว่ากล้าจะเสียคนกลายเป็นโจรเหมือนพ่อ อย่างที่คำโบราณว่าไว้ว่าเลี้ยงลูกเสือลูกตะเข้ แต่กล้าก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า "สายเลือดไม่สำคัญเท่าความใฝ่ดี และความดีเท่านั้นที่จะคุ้มครองคนไม่ใช่เวทมนต์คาถาใดใด"


Read more »

มณีสวาท

เรื่องย่อ มณีสวาทม.ร.ว.ภุชคินทร์ นาเคนทร์ (วิทยา วสุไกรไพศาล) ทายาทแห่งวังนาเคนทร์ ถูกเรียกตัวกลับจากต่างประเทศ เพื่อรับหน้าที่เป็นเลขานุการให้กับ ภิงคาร (กมล ศิริธรานนท์) รมช.ต่างประเทศผู้เป็นน้าชาย ด้วยรูปลักษณ์ที่เลิศล้ำ ร่ำรวยทรัพย์ สมบัติทั้งชาติกำเนิดอันสูงส่ง ทำให้คุณชายภุชคินทร์กลายเป็นชายที่สาวไฮโซทั้งสังคมให้ความสนใจมากที่สุด รวมไปถึงไฮโซสาวสังคมหน้าใหม่อย่าง เจ้าอุรคา ณ เชียงตุง (ศรีริต้า เจนเซ่น) ในงานเลี้ยงรับรองระดับชาติซึ่งแขกคนสำคัญระดับนักการเมือง ทูตานุทูต และชาวสังคมชั้นสูงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่งนั้น ภุชคินทร์ได้พบกับเจ้าหญิงสูงศักดิ์เลอโฉมนามเจ้าอุรคา ที่มาปรากฎตัวพร้อมกับเครื่องแต่งกายสีเขียว โดดเด่นเป็นสง่ากับดวงหน้างดงาม ประดับรอยยิ้มลึกลับและอัญมณีรูปหยดน้ำสีเขียวเข้มแปลกตาที่ เรียกว่า มณีนาคสวาท

เจ้าอุรคาก้าวเข้ามาเป็นดาวดวงใหม่ของสังคมไฮโซอย่างลึกลับไม่มีใครรู้ เบื้องลึกเบื้องหลังที่แท้ จริงของเจ้าหญิงคนนี้ รู้กันแต่เพียงว่านอกจากความงามเจิดจรัสและฐานะอันร่ำรวย เธอยังมีความ สามารถในการพยากรณ์แม่นระดับหาตัวจับยาก

คุณชายภุชคินทร์รู้สึกสะดุดตาสะดุดใจในบุคลิกงามสง่าท่าทีอันเปี่ยมไปด้วยปริศนาและคำพูดคำจาที่ลึก ลับกำกวมของเจ้าอุรคา ในขณะเดียวกันที่ความงามของเจ้าอุรคาไปโดนใจรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลแห่ง ยุค เข้าอย่างจัง สุบรรณ ครุฑไพทูรย์ (ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) หรือที่นักข่าวเรียกกันว่า "รัฐมนตรีที่ถูกปองร้ายมากที่สุด" เขาก้าวขึ้นมาจากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จทั้งงานถูกและผิดกฎหมาย ทำให้มีศัตรูมากมายถึงกับมีการโดนลอบปองร้ายอยู่หลายครั้งหลายครา และทุกครั้งเขาก็รอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ จนได้ สมญานามจากบรรดานักข่าวว่า "แมวเก้าชีวิต" เพราะถูกปองร้ายอยู่บ่อยๆ สุบรรณจึงต้องมีนาย ตำรวจและมือปืนมือดีติดตามตลอดเวลา

สุบรรณพยายามหาทางเข้าไปตีสนิทกับเจ้าอุรคาทุกวิถีทางตามงานสังคม และด้วยความดูไม่น่าไว้วาง ใจของเจ้าอุรคา ทำให้คนใกล้ชิดของสุบรรณอย่าง ร.ต.อ.ไพศิษฐ์ (โทนี่ รากแก่น) ซึ่งเป็นตำรวจติดตาม เพื่อนรักของภุชคินทร์ และ อำนาจ (ปิยะ วิมุกตายน) สมุนมือขวาที่ดูแลธุรกิจด้านมืดให้ รมต.สุบรรณนั้น ต่างเกิดความหวาดระแวงและจับตามองเจ้าอุรคาอยู่เงียบๆ

Read more »

พรพรหมอลเวง

ละครออกอากาศ วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์
ช่องที่ออกอากาศ 3
เริ่มออกอากาศ 8 กุมภาพันธ์ 2556
เวลาออกอากาศ 20:15 - 22:45 น.

กำกับโดย ชุดาภา จันทเขตต์
ประพันธ์โดย
วรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์
นำแสดงโดย
ราณี แคมเปน ... ตันหยง
ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ... ปฐวี
ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ ... ประภัสสร
นิธิ สมุทรโคจร ... เมธี
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ ... ปรางค์ทิพย์
กุลทีรา ยอดช่าง ... เมริน
โฉมฉาย ฉัตรวิไล ... คุณหญิงปรงทอง
อนุชิต สพันธุ์พงษ์ ... พิราม
อริสรา ทองบริสุทธิ์ ... พัดชา
ณิชชาพัณณ์ ชุณหะวงศ์วสุ ... หมอหนึ่ง
สุชาร์ มานะยิ่ง ... ครูบี๋
สรวิชญ์ สุบุญ ... นาวิน
กรุณพล เทียนสุวรรณ ... เสกสรร
สถาพร นาควิไลโรจน์ ... คุณพ่อของตันหยง
ปวีณา ชารีฟสกุล ... คุณแม่ของตันหย

เรื่องย่อ พรพรหมอลเวงตันหยง (ราณี แคมเปน) สาวสวยมากด้วยความมั่นใจและสามารถ กับอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันที่ทำให้เธอฟื้นขึ้นมาใน ร่างของน้องเมย์เด็กน้อยอายุห้าขวบกับปัญหาในครอบครัวใหญ่ของเด็กน้อยและความรู้สึกพิเศษ ที่เริ่มก่อขึ้นกับ ปฐวี (ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์) อาหนุ่มของเด็กหญิงผู้เป็นหมอหนุ่ม หน้าตาดีที่มากด้วยความสามารถ เธอจะทำยังไงกับปัญหาของตนและจะกลับร่างตนได้หรือไม่

ตันหยง เสียใจจากการที่ไปพบ พิราม (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) หนุ่มคู่หมั้นกำลังหาความสุขอยู่ที่คอนโดมิเนียมที่จะใช้เป็นห้องหอ กับพนักงานสาวในบริษัทของพิรามเองโดยบังเอิญ ตันหยงถอนหมั้นทันที แล้วขับรถออกมาร้องไห้จนสาใจแล้วสำนึกว่าเป็นเพราะความโกรธแค้น อับอายที่ถูกหลอกมากกว่าจะเสียใจเพราะอกหัก ตันหยงขับรถเตลิดเปิดเปิงไปไกลโดยไม่รู้ตัวพอรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ที่อยุธยาแล้ว ตันหยงแวะทานข้าวเผลอดื่มเหล้าจนเมามากรู้สึกตัวว่าชายหนุ่มแปลกหน้าเริ่มลวนลามจับมือจับแขน จึงขับรถกลับ แต่ถูกตามโดยรถ 2 คัน ขนาบหน้า-หลัง 1 ในรถคันนั้นคือชายแปลกหน้านั่นเอง ตันหยงกลัวตัดสินใจบึ่งรถหนีจนเกิดอุบัติเหตุบนทางโค้ง รถตันหยงตกข้างทางชนต้นไม้ใหญ่อย่างแรง

วิญญาณของตันหยงออกจากร่าง และด้วยปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งพอตันหยงรู้สึกตัวอีกครั้งในโรงพยาบาลก็พบว่าร่างที่ตัวเองอยู่นั้นกลายเป็นเด็กหญิง อายุ 5 ขวบ ชื่อ เมริน (กุลทีรา ยอดช่าง) ซึ่งพลาดตกบันไดและเป็นเวลาเดียวกับที่ตันหยงประสบอุบัติเหตุ เกิดการสลับวิญญาณตันหยงรู้ว่าวิญญาณของเมรินตายแล้วและตัวเองมาอาศัยร่างแทน แต่ไม่รู้ว่าร่างของตัวเองอยู่ที่ไหน เป็นอย่างไร จนกระทั่งตอนท้ายของเรื่อง

เมื่อแรกก็รู้สึกตัวตันหยงพยายามบอกใครๆ ว่าตัวเองเป็นใคร แต่ไม่มีใครรับฟังเด็ก 5 ขวบ แม้แต่ ปฐวี ซึ่งเป็นทั้งแพทย์ที่รักษาและน้าชายของเมริน ตันหยงเลยเลิกพูดพยายามปรับตัวใช้ชีวิตอยู่ในร่างของ ด.ญ. เมริน หรือเมย์ ตันหยงต้องดำเนินชีวิตในร่างของน้องเมย์วัย 5 ขวบ ด้วย วิญญาณและความรู้สึกของสาวอายุ 25 น้องเมย์เป็นสุดที่รักของน้าชาย ปฐวี ด้วยความใกล้ชิดสนิทสนมของน้าชายกับหลาน 5 ขวบ ทำให้หัวใจของตันหยงเริ่มซึมซับความอบอุ่นทีละน้อยจนในที่สุด ตันหยงก็ยอมรับกับตัวเองว่ารัก น้าวี เป็นความรักอย่างแท้จริงที่ไม่สามารถแสดงออกได้

ใครๆ พากันแปลกใจมากที่น้องเมย์ กลายเป็นเด็กที่เรียนเก่ง พูดเก่ง ฉลาดเกินวัยมาก ตันหยงรู้ว่าครอบครัวของน้องเมย์มีปัญหา ประภัสสร (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) และ เมธี (นิธิ สมุทรโคจร) แตกแยกกันเพราะความเข้าใจผิด และด้วยแรงยุของ ปรางค์ทิพย์ (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) ตันหยงร่วมมือกับน้าวีแก้ไขสถานการณ์จนเรียบร้อย ขณะที่ความรู้สึกของตันหยงก็ยิ่งรักปฐวีเข้าไปทุกวัน ด้วยความอยากรู้ว่าร่างของตัวเองเป็นอย่างไร

ตันหยงพยายามหาข่าวตัวเองจาก นสพ. ทุกฉบับ แต่ก็ไม่พบจนหมดกำลังใจ เคยพยายามโทรศัพท์ไปหาแม่ (ปวีณา ชารีฟสกุล) หลายครั้งแต่ก็ไม่มีใครยอมเชื่อว่า เด็กอายุ 5 ขวบ มาเรียกคุณบุหงาว่าแม่ ตันหยงไม่รู้จะทำยังไงต้องจำยอมอยู่ในร่างของน้องเมย์ต่อไป เรื่องราวต่างๆ ผ่านไปมากมายในชีวิตครอบครัวของน้องเมย์ ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องราวความไม่ซื่อสัตย์ของสามีต่อภรรยาทั้งนั้น ทำเอาตันหยงแทบจะเกลียดผู้ชายทั้งโลกจน 3 เดือนผ่านไปประภัสสรและเมธี พ่อ แม่ของน้องเมย์ กลับมารักกันอย่างเดิม ตันหยงพอใจมากคิดจะบอกความจริงกับปฐวีหลายครั้งแต่ไม่ได้บอก

บังเอิญมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น ด้วยความริษยาของคุณปรางทิพย์ จึงไปจ้างให้กรรมกรคนหนึ่งมาปล้นบ้านประภัสสร ให้ทำร้ายประภัสสรและฆ่าน้องเมย์ ขณะที่คนร้ายกำลังบีบคอน้องเมย์และจับหัวกระแทกกำแพงแตก ปฐวีก็มาช่วยไว้ทันพอดี การที่ต้องไปโรงพยาบาลเช็คสมองเย็บแผลต่างๆ ทำ ให้ตันหยงบังเอิญพบคุณบุหงาครั้งหนึ่ง ตันหยงถลาเข้าไปกอดร้องไห้ เรียกว่าแม่ ปฐวีแปลกใจและสงสัยในตัวหลานสาวมานานแล้ว จึงต้องยอมรับว่าเรื่องที่หลานพูดตอนฟื้นคืนสติใหม่ๆ เป็นความจริง

ตันหยงยอมรับกับปฐวีทุกอย่าง ปฐวีทุกข์ใจมากเพราะรักน้องเมย์เหลือเกิน ขณะเดียวกันก็รู้ว่ารักตันหยงเช่นกัน ตันหยงรู้ว่าร่างของตัวเองกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามา 3 เดือนกว่าแล้ว ตันหยงสงสารพ่อแม่ตัวเองมากที่เฝ้าร่างที่นอนนิ่งไม่ไหวติงของลูกสาวตลอดเวลาด้วยความหวังว่าลูกจะฟื้นขึ้นมาวันหนึ่ง ปฐวีและตันหยงต่างก็มีปัญหากันทั้งคู่ โดยเฉพาะปฐวีคิดหนักตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกใครระหว่างหลานรักกับหัวใจรัก เพราะถ้าตันหยงออกจากร่างน้องเมย์ก็จะสูญเสียน้องเมย์ตลอดไป แต่ถ้าเห็นแก่ตัวและครอบครัวของพี่สาว ก็เท่ากับว่าอยุติธรรมต่อครอบครัวของตันหยง

ในที่สุด ปฐวีก็ตัดสินใจยอมรับความจริงไล่ตันหยงให้กลับไปสู่ร่างเดิม ตันหยงในร่างน้องเมย์ ตัดสินใจกระโดดลงมาจากบันได ตายในเวลาเดิมเที่ยงคืน แต่ตันหยงไม่ได้กลับเข้าร่างทันที วิญญาณของตันหยงคงเฝ้าดูอาการของคนต่างๆ โดยเฉพาะปฐวีที่มาเฝ้าคอยเรียกตันหยงที่โรงพยาบาลทุกวัน สารภาพความในใจทุกอย่างกับร่างนั้น รอคอยอย่างทรมานนานถึง 6 วัน ตันหยงก็กลับมาสู่ร่างเดิม ด้วยความสุข สมหวังของทั้งคู่ ครอบครัวของประภัสสรและเมธีเสียน้องเมย์ไปแต่ก็มีลูกสาวอีกคน คือวิญญาณของน้องเมย์ กลับมาเกิดใหม่นั่นเอง
Read more »

 
Powered by MBA