วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2556

คู่กรรม Koo-gum

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงไปกับหนังโรแมนติกคอมเมดี้เรื่อง คุณนายโฮ ที่กวาดรายได้ไปกว่า 92 ล้านบาทแล้ว ค่ายหนัง M๓๙ ก็เตรียมส่งหนังใหม่ให้คอหนังชาวไทยได้ชมกันเดือนเมษายนนี้ ซึ่งครั้งนี้เป็นหนังรักดราม่าสุดคลาสสิคที่ชาวไทยรู้จักกันดีสำหรับเรื่อง คู่กรรม ซึ่ง M๓๙ นำมาสร้างเป็นฉบับใหม่ล่าสุด นำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มที่ฮ็อตที่สุดในยุคนี้อย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ รับบทเป็น โกโบริ และฝ่ายหญิงที่จะมารับบทอังศุมาลินก็คือนักแสดงสาวหน้าใหม่ อมราวดี ดีคาบาเลส คู่กรรม นั้นมีต้นฉบับเป็นนวนิยายแนวโศกนาฏกรรมและวีรคติ ประพันธ์โดย ทมยันตี เล่าเรื่องราวความรักระหว่างทหารชาวญี่ปุ่นและสาวไทยโดยมีฉากหลังในประเทศ ไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 คู่กรรม เคยถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์แล้วถึง 9 ครั้ง ก่อนจะกลายมาเป็นภาพยนตร์อีกครั้งในปีนี้
Read more »

รักข้ามเส้น


อมร กับ นวล ค้าเจริญ เจ้าของร้านบะหมี่ลือชื่อ มีลูกชายหญิง 3 คน คือ ฟ้ามุ่ย (น้ำฝน), ฟ้าลั่น และฟ้าใส โดยอมรและนวลฝึกลูก ๆ ทั้งสามให้ช่วยงานในร้านตั้งแต่เล็กจนโต จนกิจการเจริญรุ่งเรือง พวกเขาขยายร้านและยังทำโรงงานผลิตบะหมี่ขนาดเล็ก ๆ ส่งขายอีกด้วย โดยให้ฟ้ามุ่ยเป็นคนดูแลกิจการในร้านเป็นหลัก เธอจึงสมัครใจที่จะเรียนจบแค่ชั้น ม.6 แล้วออกมาช่วยพ่อแม่ทำงานอย่างเต็มตัว เพื่อเสียสละให้น้อง ๆ ทั้งสองได้เรียนหนังสือกันเต็มที่ ดังนั้นฟ้าลั่นกับฟ้าใสจึงเรียนจบมหาวิทยาลัย พอจบแล้วฟ้าลั่นก็กลับมาดูแลโรงงาน ส่วนฟ้าใสนั้นช่วยนวลดูแลด้านบัญชีทั่วไป

          ฟาก ชาคริต (เฟิร์ส) หนุ่มนักเรียนนอก ลูกชายโทนของ คุณหญิงพจนีย์ ซึ่งถูกมารดาบังคับให้คบกับ พิมพ์สิริ หญิงสาวผู้เพียบพร้อมทั้งฐานะและการศึกษา และที่สำคัญเลยก็คือ เธอสืบเชื้อสายมาจากผู้ดีเก่าเช่นเดียวกับตระกูลของชาคริตอย่างที่คุณหญิง พจนีย์ต้องการ คุณหญิงพจนีย์ต้องการให้สาว ๆ ที่หมายตาชาคริตรู้ว่าชาคริตมีคนรักที่เหมาะสมอยู่แล้ว จึงบังคับเขาให้พาพิมพ์สิริออกงานสังคม โดยมีข้อแลกเปลี่ยนกับชาคริตว่าคุณหญิงจะยอมให้เขาไปสอนพิเศษตอนกลางคืน แต่ตอนกลางวันเขาจะต้องเข้าทำงานเป็นผู้บริหารโรงแรมที่คุณหญิงเป็นเจ้าของ ทั้ง ๆ ที่ชาคริตไม่ชอบงานบริหารเอาเสียเลย   ชาคริตจึงต้องจำใจยอมไปงานสังคมกับพิมพ์สิริแทบจะรายวัน

          ชาคริต อึดอัดมากเมื่อต้องอยู่ในงานสังคมสวยหรูแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากัน ขาดความจริงใจต่อกัน ดังนั้นเมื่อพิมพ์สิริเผลอ เขาจึงหลบออกมาจากงาน โดยได้รับความช่วยเหลือจาก หมอนิธิ เพื่อนสนิทของเขาที่มางานสังคมด้วย พอออกมาจากงานได้แล้ว ชาคริตเกิดหิวขึ้นมาจึงแวะเข้ามากินบะหมี่ที่ร้านของอมร เพราะถึงเขาจะเกิดมาในตระกูลผู้ดีเก่า แต่ชาคริตก็ชอบชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและสงบ  เมื่อฟ้ามุ่ยเห็นชาคริตก็หลงรักเขาทันที แต่เธอก็ทำได้แค่แอบมองเขา ส่วนชาคริตไม่ได้สนใจฟ้ามุ่ยเลย นับตั้งแต่ชายหนุ่มในฝันจากไป ฟ้ามุ่ยก็เศร้าใจมาก นวล ฟ้าลั่น ฟ้าใส และฉัตร ต่างเป็นทุกข์ไปกับฟ้ามุ่ย  แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ฟ้าใสจึงออกความคิดให้ฟ้ามุ่ยลองเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันดูบ้าง เผื่อว่าสักวันที่ฟ้ามุ่ยได้เจอชายในดวงใจจะได้ไม่ต้องแห้วอีก

          ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจขออมรไปเรียนต่อเพราะหวังจะเอาวิชาความรู้กลับมาช่วยขยาย กิจการร้าน อมรยอมให้ฟ้ามุ่ยเรียนได้ เพราะใจจริงเขาก็ต้องการให้ลูกสาวมีการศึกษาไม่น้อยหน้าใครอยู่แล้ว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องไปเรียนเมื่อปิดร้านแล้วเท่านั้น เพื่อไม่ให้งานทางร้านเสียหาย เพราะฟ้ามุ่ยเป็นตัวหลักของกิจการร้านบะหมี่อยู่ ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจเลือกเรียนภาคค่ำแทนภาคปกติ และที่เรียนภาคค่ำนั่นเอง   ฟ้ามุ่ยก็ได้พบกับชาคริตอีกครั้ง เพราะชาคริตเป็นอาจารย์พิเศษสอนหนังสือที่นั่น เมื่อได้พบชายในฝันอีกครั้ง ฟ้ามุ่ยจึงคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ชาคริตสนใจ เธอเริ่มแต่งหน้า แต่งตัวมากขึ้น โดยมีฟ้าใสและฉัตรคอยช่วยเหลือแนะนำ

          จากที่เคยเป็นอีเพิ้ง ฟ้ามุ่ยก็เริ่มสวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตาจนเป็นที่แปลกใจของอมรมาก อมรจึงพยายามซักถามฟ้ามุ่ยถึงสาเหตุของการเปลี่ยนรูปแปลงโฉมของลูกสาวใน ครั้งนี้ แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ   อมรจึงแอบไปจ้างพล ชายหนุ่มที่เปิดร้ายขายข้าวมันไก่อยู่ข้าง ๆ ร้านบะหมี่ของอมรให้คอยแอบตามดูพฤติกรรมของฟ้ามุ่ยทุกระยะ แต่พลเกิดมาหลงรักฟ้าใสเข้า จึงถูกฟ้าใสชักชวนเข้าเป็นพวกที่คอยให้ความช่วยเหลือให้ฟ้ามุ่ยได้สมหวังใน รักกับชาคริต โดยตั้งเงื่อนไขว่าถ้าพลไม่ช่วยกันปิดบังเรื่องฟ้ามุ่ยกับชาคริตแล้ว ฟ้าใสจะไม่ยอมรับรักพล พลจึงกลายเป็นสายให้พวกฟ้ามุ่ยเสียแทน

          ฝ่ายชาคริตเมื่อมาได้สอนหนังสือภาคค่ำให้ฟ้ามุ่ย เขาก็ได้รู้จักกับเธอมากขึ้น รู้ว่าเธอเป็นคนอ่อนโยนและจริงใจเพียงใด แล้วเขาก็ตกหลุมรักฟ้ามุ่ยในที่สุด ฟ้ามุ่ยตื่นเต้นมากที่ชาคริตหันมาสนใจเธอ แต่เธอก็กลัวว่าถ้าเขารู้ว่าเธอคือสาวร้านขายบะหมี่ที่เขาเคยมองเมินมาแล้ว เธออาจจะผิดหวังในรักครั้งนี้ก็ได้ ฟ้ามุ่ยจึงหลอกชาคริตว่าเธอเป็นลูกเศรษฐี ชาคริตชวนฟ้ามุ่ยออกเดทหลายครั้ง ความรักของฟ้ามุ่ยกับชาคริตดูเหมือนจะงอกงามดี แต่ฟ้ามุ่ยก็ไม่สบายใจเรื่องที่โกหกชาคริตว่าเธอคือใคร จนเธอเกือบจะหลุดปากบอกวามจริงก็หลายครั้งแต่ก็ไม่กล้าพอ

          นวลเห็นลูกสาวมีทุกข์จึงบอกฟ้ามุ่ยว่าก่อนที่ความรักของเธอจะก้าวไปไกลกว่า นี้ ฟ้ามุ่ยควรจะบอกความจริงกับชาคริตเสีย เพราะคนเราถ้าคิดจะเป็นคู่ชีวิตกันแล้วก็ควรจะยอมรับตัวตนที่แท้จริงของอีก ฝ่ายให้ได้ ไม่เช่นนั้นชีวิตคู่ไม่มีทางไปรอด ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจบอกความจริงกับชาคริตในวันออกเดทกัน ว่าเธอคือยายเพิ้งที่ขายบะหมี่ที่ชาคริตเคยมองเมินคนนั้น และเมื่อได้รู้ความจริงอย่างงี้แล้วชาคริตยังอยากจะคบเธอต่อไปหรือไม่ ชาคริตอึ้งไป ฟ้ามุ่ยจึงคิดว่าชาคริตผิดหวังเมื่อรู้ความจริงว่าเธอคือใครจึงวิ่งหนีไป เหล่าพี่น้องและแม่ต้องพากันช่วยปลอบใจฟ้ามุ่ยกันเป็นการใหญ่ แต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้น วัน ๆ เอาแต่เศร้าซึม ทำบะหมี่ให้ลูกค้า ๆ ผิด ๆ ถูก ๆ จนถูกลูกค้าต่อว่า ยิ่งทำให้ฟ้ามุ่ยเครียดมากขึ้นไปอีก

          ในที่สุดฟ้ามุ่ยก็ตัดสินใจจะย้ายไปเรียนที่อื่นเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอหน้า ชาคริตให้ช้ำใจอีก ฝ่ายชาคริตหลังจากหายตกใจแล้วก็พยายามจะตามหาฟ้ามุ่ยเพื่อปรับความเข้าใจ แต่กลับพบ

ว่าฟ้ามุ่ยย้ายไปเรียนที่อื่นเสียแล้ว ชาคริตก็เศร้าใจมาก แต่ก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เขาจึงตัดสินใจแอบค้นที่อยู่ของฟ้ามุ่ยจากใบสมัครเข้าเรียนจนรู้ว่าฟ้ามุ่ย อยู่ที่ไหน แล้วแอบไปดักเจอฟ้ามุ่ยที่หน้าบ้าน ฟ้าลั่นกับพลเห็นชาคริตมาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่แถวบ้านก็คิดว่าเป็นโจร จึงช่วยกันรุมซ้อมชาคริต แต่ฟ้ามุ่ยกลับมาเจอจึงห้ามไว้ ฟ้ามุ่ยตกใจมากที่เห็นว่าคนที่ถูกรุมซ้อมจนสะบักสะบอมนั้นคือชาคริตจนทำอะไร ไม่ถูก ชาคริตจึงรีบบอกว่าเขาไม่ได้นึกรังเกียจลูกร้านขายบะหมี่อย่างเธอเลย แต่วันนั้นที่เขาเงียบไปหลังจากรู้ความจริงว่าฟ้ามุ่ยคือใครแล้วนั่นก็เป็น เพราะว่าเขาโกรธตัวเองที่มองผ่านเลยผู้หญิงดี ๆ อย่างฟ้ามุ่ยไปได้ และชาคริตขอโอกาสให้เขาได้กับมาคบกับฟ้ามุ่ยอีกสักครั้ง ฟ้ามุ่ยอึ้งไป ชาคริตเลยคิดว่าฟ้ามุ่ยยังโกรธเขาอยู่ จึงตัดสินใจพิสูจน์รักแท้ของเขาด้วยการขอฟ้ามุ่ยแต่งงาน !

          ฟ้ามุ่ยตกใจมาก! เพราะรู้ว่าพ่อของเธอไม่ชอบลูกคนรวยอย่างชาคริต แต่ชาคริตไม่หวั่น เขากลับบอกฟ้ามุ่ยว่าเมื่อเขารักแล้ว เขาจะไม่ยอมเปลี่ยนใจเป็นอันขาด และเขาจะต้องเอาชนะใจว่าที่พ่อตาของเขาให้ได้ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายามสัก แค่ไหนก็ตาม ฟ้ามุ่ย นวล ฟ้าลั่น ฉัตร ฟ้าใส และพลจึงช่วยกันออกอุบายให้ชาคริตปลอมตัวเป็น "ชาติ" หนุ่มกำพร้าเข้าไปเป็นคนงานในโรงงานบะหมี่ของอมร ยอมทำงานใช้แรงงานอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ชาคริต ตอบตกลง
Read more »

มายาตวัน

2 ปีก่อน วงการบันเทิงได้ต้อนรับดาวรุ่งดวงใหม่ที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่อง มายา เพียงเรื่องแรกและเรื่องเดียวก็ทำให้ เขตต์ตวัน โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน ทั้งงานโฆษณา งานเดินแบบ ถ่ายแบบ งานอีเว้นท์ต่าง ๆ พุ่งเข้าใส่เขตต์ตวัน ชนิดไม่มีวันให้ได้พัก กลุ่มแฟนคลับของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทุกเพศทุกวัย มัทนา นักศึกษาคณะนิเทศศาสตร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น มัทนาเป็นแฟนคลับตัวยง ตามกรี๊ดตามเชียร์ ติดตามข่าวสารผลงานทุกอย่าง แม้แต่ตามเถียงตามแก้ข่าวให้เขตต์ตวัน ในทุกสื่อ แม้แต่เว็บไซต์เล็กน้อย ถ้าเธอรู้ก็ตามแก้ข่าวให้พระเอกขวัญใจได้ตลอด

          และ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน มีข่าวช็อกวงการเมื่อเขตต์ตวัน ถูกจับข้อหาฆ่า ยุพิน หญิงขายบริการตาย ข่าวอื้อฉาวต่าง ๆ นานาถาโถมเข้าใส่เขตต์ตวัน เขาเองก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และตั้งทนายต่อสู้คดี มัทนาเองก็ไม่เชื่อตามให้กำลังใจ ช่วยแก้ข่าวให้ศิลปินขวัญใจชนิดไม่เป็นอันเรียน เขตต์ตวันถูกถอดจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าหลายชิ้น เนื่องจากภาพลักษณ์ไม่ดี สำนักพิมพ์ต่าง ๆ เริ่มขุดคุ้ย เปิดโปงเรื่องส่วนตัวของเขาไม่หยุดหย่อนโดยที่บางเรื่องไม่เป็นความจริงเลย เขตต์ตวัน เลยฝังใจเกลียดชังพวกนักข่าวเข้ากระดูกดำ

          ไม่นานนักศาลชั้นต้นก็พิพากษาว่า เขตต์ตวัน ไม่มีความผิด ไม่เกี่ยวข้องกับการตายของยุพิน พวกหนังสือพิมพ์หน้าแตกไปตาม ๆ กัน แต่ก็ไม่วายแขวะเขตต์ตวันไม่เลิก แถมแฉว่าเขามีแม่เป็นโสเภณี เขตต์ตวันหมดความอดทน แถลงข่าวอำลาวงการ สร้างความตื่นตะลึงให้กับแฟนคลับชนิดตั้งตัวไม่ทัน มัทนาถึงกับร้องไห้โฮล้มป่วยไปเลย หลังจากแถลงข่าว เขตต์ตวันก็หายไปจากวงการจริง ๆ ไม่มีใครได้ข่าวตัวเขาอีกเลย

          2 ปีต่อมา มัทนาสำเร็จการศึกษาได้เข้ามาทำงานเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์สยามสาร เธอได้รับมอบหมายจาก ไชยวัฒน์ บ.ก.หนังสือให้ไปทำข่าว เขตต์ตวัน อดีตพระเอกชื่อดัง ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ภูเก็ต เพราะไชยวัฒน์ได้รับข้อมูลมาจากสายข่าวเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีตของเขตต์ต วัน ว่าเขาเคยเป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงอยู่ที่วัดสวนป่า จังหวัดภูเก็ต โดย หลวงพ่อจรูญ ผู้ใจบุญที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นจำนวนมาก  ทำให้ไชยวัฒน์ต้องการรื้อฟื้นข่าวของเขตต์ตะวันขึ้นมาอีก เพราะคิดว่าอย่างไรข่าวของดาราหนุ่มก็ยังเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป

          หนังสือสยามสารมีนักข่าวหญิงเหล็กสามคนที่ต่างบุคลิกกันคือ สาระวารี, มีคณา และ มัทนา ทั้งสามสนิทกันมาก มัทนาเป็นรุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาเป็นนักข่าว และได้รับมอบหมายให้ไปสัมภาษณ์เขตต์ตวัน ในขณะที่สาระวารีไปทำข่าวการเปิดบ่อนกาสิโนที่ตราด ส่วนมีคณาทำข่าวการค้าประเวณี

          บ้านของมัทนาเป็นครอบครัวใหญ่ พ่อกับแม่เป็นอาจารย์ทั้งคู่ พี่สาวคนโต สาวิตรี ก็เป็นอาจารย์ พี่สาวคนรอง ศกุนตลา เป็นนางพยาบาล ส่วนน้องคนสุดท้อง วาสิฐฐี กำลังเรียนมหาวิทยาลัยคณะนิติศาสตร์ แม่ของมัทนามักจะพูดเสมอว่าทำไมมัทนาถึงแหกคอกออกมาทำงานนักข่าวและบอกให้ลา ออกอยู่เสมอแต่หญิงสาวก็รักงานนักข่าวมากไม่ยอมลาออกตามที่แม่ขอร้อง

          เมื่อมัทนาบอกแม่เรื่องจะไปทำข่าวเขตต์ตวันที่ภูเก็ต ศกุนตลาได้ยินเข้าจึงเล่าเรื่องที่ว่าเคยเจอเขตต์ตวันไปเยี่ยมคนไข้ที่โรง พยาบาล ซึ่งคนไข้ผู้หญิงคนนั้นติดยา ศกุนตลาเตือนให้มัทนาระวังตัวด้วย เมื่อมัทนาเดินทางถึงภูเก็ต เธอเข้าพักที่โรงแรมอโณทัย และได้รู้จักชายหนุ่มหน้าตาดีที่เข้ามาแนะนำตัวทำความรู้จักกับเธอ เขาคือ เชน ครอส หรือ เชษฐ์ หนุ่มนักธุกิจค้าไข่มุกอยู่ที่ภูเก็ต หญิงสาวสนิทสนมกับเชนอย่างรวดเร็วเพราะมองเห็นสายตาที่อ้างว้างของเขาแล้ว รู้สึกสงสาร

          มัทนาเริ่มทำงานโดยการเดินไปแอบดูบ้านของเขตต์ตวัน แล้วไปถามร้านค้าแถวนั้น แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลมากนัก รู้แต่ว่ามักจะมีหญิงสาวหน้าตาดีเดินเข้าออกบ้านนี้บ่อย ๆ มัทนาเดินเลาะชายหาดกลับโรงแรม จนได้พบกับเขตต์ตวันที่ยืนมองพระอาทิตย์ตกดินอยู่ เธอรู้สึกได้ถึงความเหงาโดดเดี่ยวของเขา สักพักมัทนาก็เห็น ลลิสา นางแบบสาวเข้าไปกระแซะเขตต์ตวัน ตามด้วยนางแบบอีกคน ชลบุษย์ ที่ตามมาเรียกเขตต์ตวัน มัทนาจึงสลัดความสงสารออกไป เมื่อมัทนากลับโรงแรม เธอก็ได้รับโน้ตจากเชนซึ่งชวนไปกินมื้อเย็นด้วยกัน เชนคุยเปิดเผยจนมัทนาไม่อยากปิดบังว่าตนเป็นนักข่าวแอบมาสืบเรื่องของเขตต์ต วัน เชนบอกว่าเขตต์ตวันเก็บตัวมากและเกลียดนักข่าว ไม่มีทางยอมให้สัมภาษณ์ เลยแนะให้ปลอมตัวเข้าไปทำงานในบ้านแล้วค่อย ๆ สืบหาความจริง มัทนาปิ๊งไอเดียเห็นด้วย

          มัทนาเริ่มปฏิบัติการสมัครเข้ามาขอทำงานเป็นลูกจ้างบ้านเขตต์ตวัน มัทนาเจอกับ เอกชัย เพื่อนสนิทที่ทำงานกับเขตต์ตวัน เอกชัยรู้สึกถูกชะตาแต่ไม่มีแผนการรับลูกจ้างเพิ่ม มัทนาก็ขอทำงานให้ฟรีพิสูจน์ผลงาน เอกชัยใจอ่อนในความตลกเฮฮาช่างพูดของมัทนายอมให้เข้ามาทำงาน ไม่ทันข้ามวันดี พอเขตต์ตวันกลับมาเจอก็ไม่พอใจ ไล่ตะเพิดมัทนาออกไปจากบ้าน มัทนาเฮิร์ทสุด ๆ ฟูมฟายว่าตนเป็นคนจน น่าสงสาร และเคยเป็นแฟนหนังเขตต์ตวัน ทำกับเธอแบบนี้ได้ยังไง มัทนาวิ่งร้องไห้เสียใจออกไปจากบ้านไป เขตต์ตวันและเอกชัยจึงเข้าใจว่าเป็นพวกคลั่งดารา

          มัทนาเจ็บอกเจ็บใจระบายความร้ายกาจของเขตต์ตวันให้เชนฟัง เชนแนะว่าตื้อเท่านั้นที่ครองโลก มัทนาฮึดสู้อยากเอาชนะเข้าไปสมัครงานใหม่เป็นคนดูแลสวน เอกชัยขำ ๆ มัทนาตื้อ โชว์ฝีมือทำสวนอีก เขตต์ตวันออกมาพร้อมนางแบบคู่ใจเจอก็ไล่ตะเพิดออกจากบ้านอีก แถมตำหนิเอกชัยให้ด้วย พร้อมกับขู่ว่าถ้ามัทนาเข้ามาในบ้านจะแจ้งตำรวจจับ ลลิสาเย้ยหยันมัทนาหาว่าเป็นพวกคลั่งดารา มัทนากลับออกด้วยความช้ำใจบ่นกระปอดกระแปดเสียงแรงเคยรัก เคยทำป้ายไฟเชียร์ เธอโทรรายงานบ.ก. พร้อมโทรเม้าท์กับเพื่อนฝูงจนหลับไป พอเช้าอีกวันมัทนาจะไปที่วัดสวนป่าหลวงพ่อจรูญเพื่อเก็บข้อมูลรายล้อมเขตต์ ตวันก่อนอย่างน้อยจะได้ไม่มาเสียเที่ยว เธอพบเชนที่กำลังจะออกไปข้างนอกอยู่พอดี เขาชวนมัทนาติดรถไปด้วย ขณะที่อยู่บนรถเชนเล่าเรื่องชีวิตของเขาให้ฟัง มัทนาจึงรู้สึกว่าเขาน่าสงสารและเป็นผู้ชายที่คบได้คนหนึ่ง

          หลังจากเชนส่งมัทนาลงจากรถที่วัดแล้ว หญิงสาวก็ได้พบกับหลวงพ่อจรูญ เธอชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยจนวกมาที่เรื่องของเขตต์ตวัน หลวงพ่อระวังคำพูดไม่เล่าเรื่องอะไรที่ทำให้เขตต์ตวันเสียหาย มัทนามองเห็นเด็ก ๆ มากมายที่อยู่ในความอุปการะของหลวงพ่อ หลวงพ่อยังบอกอีกว่าเขตต์ตวันมาบริจาคอาหารและทุนค่าเล่าเรียนเด็ก ๆ เป็นประจำ มัทนาก็แอบชื่นชมอยู่ในใจ ไม่เสียแรงที่เป็นแฟนคลับตัวยง หลังกลับจากวัดเธอใจสบายขึ้นเยอะ ภูมิใจความใจบุญของศิลปินในดวงใจ อารมณ์ดีเลยตัดสินใจไปเล่น น้ำทะเล ดำผุดดำว่ายสนุกสนานอยู่ไปมา จู่ ๆ ก็มีวินด์เซิร์ฟพุ่งเข้าชนที่ศีรษะของเธอ ซึ่งคนที่เล่นวินด์เซิร์ฟนั้นคือเขตต์ตวันนั่นเอง เขามองไม่เห็นว่ามัทนากำลังว่ายน้ำอยู่ มัทนาโวยวายที่ถูกชนหัว เขตต์ตวันอุ้มเธอไปหาหมอ หมอช่วยดูแผลให้มัทนาและบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก เขตต์ตวันเสนอเงินให้มัทนาเพราะคิดว่าเธอเป็นพวกฉวยโอกาส มัทนาโมโหชกหน้าเขตต์ตวันไปหนึ่งหมัดแล้วยืนกรานจะไปแจ้งความ เอกชัยและเขตต์ตวันกลัวตกเป็นข่าวมากพยายามต่อรอง มัทนายื่นข้อเสนอให้เธอเข้าไปทำงานรับจ้างในบ้าน เขตต์ตวันไม่มีทางเลือกยอมรับข้อเสนอ มัทนาดีใจออกนอกหน้า เขตต์ตวันแอบกำชับเอกชัยให้สืบประวัติมัทนาแอบได้ยินเข้าพอดี

          มัท นาปรึกษากับเชนให้ช่วยจัดฉากหาครอบครัวให้ เอกชัยมาสืบก็หลงกลว่ามัทนาเป็นเด็กฐานะยากจนจริง ๆ ย้ายมาจากจังหวัดอื่นมาหางานทำ คลั่งไคล้เขตต์ตวันเอามาก ๆ เอกชัยหายสงสัยรายงานเขตต์ตวัน เขาจึงยอมให้มัทนาเข้ามาทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้านได้ด้วยความไม่เต็มใจนัก โดยบอกกับเอกชัยว่าจะหาทางบีบให้ออกจากบ้านไปให้เร็วที่สุด มัทนาเข้ามาทำงานในบ้านด้วยความไม่เต็มใจของเจ้าของบ้าน เขตต์ตวันมีเรื่องกับมัทนาไม่เว้นแต่ละวัน สาว ๆ ของเขตต์ตวันทั้งลลิสา และชลบุษย์ อดีตนางแบบที่มาเป็นเลขาฯ ของเขตต์ตวัน ก็แสดงอาการไม่ชอบขี้หน้ามัทนานัก แม้ทั้งคู่จะชิงดีชิงเด่นกัน แต่พร้อมจะจับมือเล่นงานมัทนาร่วมกันได้ทุกเวลา แต่มัทนาก็ยังมีเชนที่เป็นกำลังใจและคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษาอยู่ตลอด ความสัมพันธ์ของเชนและมัทนาก็พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เวลาจะนัดเจอกันก็ต้องให้เชนปลอมตัวเป็นคนงานรีสอร์ท มัทนากลัวจะมีคนเห็นและจับได้

          มัทนายังไม่ละความพยายามในการสืบเรื่องเขตต์ตวัน ทนแรงกดดันต่าง ๆ นานา จนรู้ความจริงขณะที่เขตต์ตวันเตรียมงานแฟชั่นโชว์คอลเลคชั่นใหม่ ว่าแบรนด์เสื้อผ้าหรู "ตะวัน" นั้นเป็นของเขตต์ตวัน และดีไซเนอร์ที่ชื่อว่า จันจิรา ก็คือตัวเขตต์ตวันนั่นเอง มัทนาขอลากลับบ้านเพราะญาติป่วย มัทนามาพบกับเชนและกลับเข้ากรุงเทพฯ ไปพร้อมกัน มัทนารายงานข่าวใหญ่ต่อบ.ก. โดยที่ไม่มีภาพไม่มีหลักฐานใด ๆ แต่บ.ก. พร้อมจะตีข่าวนี้ในวันที่มีการจัดแฟชั่นโชว์

          สื่อแห่ไปงานแฟชั่นโชว์ของ ตะวัน มืดฟ้ามัวดินจนมัทนารู้สึกผิด โดนครอบครัวเธอต่อว่าต่าง ๆ นานา ด้านเขตต์ตะวันเองก็เก็บตัวเงียบอยู่ที่โรงแรมเหมือนการจัดแฟชั่นโชว์ทุก ครั้ง และหลังจากจบโชว์ทุกครั้งก็จะไม่มีดีไซเนอร์เดินมารับช่อดอกไม้อย่างห้อง เสื้ออื่น ๆ แต่ตะวันจะจบโชว์ด้วยรูปกราฟิกผู้หญิงผมยาวสยายก้มหน้าพร้อมชื่อ แบรนด์ตะวัน เขียนประกบไว้อย่างมีสไตล์...วันนี้ก็เช่นกันลลิสาเดินชุดฟินนาเล่แล้วก็จบ ด้วยรูปกราฟิกเช่นเคย สื่อพยายามสืบจากหลังเวทีก็คว้าน้ำเหลว ไม่มีใครรู้จักดีไซเนอร์จันจิรา และไม่มีใครเคยเห็นเขตต์ตวันเกี่ยวข้องอะไรกับตะวัน รู้แต่ว่าจันจิราชื่นชอบเขตต์ตวันมากจนได้แรงบันดาลใจตั้งชื่อแบรนด์ว่า ตะวัน

          แทนที่เขตต์ตวันจะโกรธกลับพอใจที่คอลเลคชั่นนี้ได้รับความสนใจล้นหลาม แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าความลับรั่วได้ยังไง จึงให้เอกชัยสืบหาเกลือเป็นหนอน เขตต์ตวันรู้สึกติดใจสงสัยมัทนาขึ้นมานิด ๆ เพราะเป็นคนใหม่เพียงคนเดียวที่เข้ามาในวงจรชีวิตของตน เอกชัยไม่เห็นด้วยและออกรับแทน เขตต์ตวันและเอกชัยกลับถึงบ้านที่ภูเก็ต มัทนาก็ทำงานรอต้อนรับทำไม่รู้เรื่องรู้ราว เขตต์ตวันพยายามจับผิด ว่าเป็นไส้ศึกหรือเปล่า แต่มัทนาก็เอาตัวรอดไปได้ทุกที จนกระทั่งแอบตามไปดูตอนมัทนาลากลับบ้านก็เจอครอบครัวจัดฉากที่น่ารัก เขตต์ตวันให้ความไว้วางใจมัทนามากขึ้น ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนสร้างความไม่พอใจให้ลลิสาและชลบุษย์เป็นอย่างมาก รวมทั้งเชนเองก็แอบหึงมัทนาจนแสดงออกให้มัทนาต้องลำบากใจ

          ขณะที่ความสัมพันธ์ของเขตต์ตวันและมัทนากำลังพัฒนาไปด้วยดีก็เกิดความแตก เมื่อมัทนาเจอเพื่อนนักข่าว ที่ตลาดขณะที่เขตต์ตวันรออยู่ในรถ เขตต์ตวันไม่ได้ติดใจอะไรแค่รู้สึกสงสัยทำไมมีเพื่อนดูเป็นคนกรุงเทพฯ จัง แต่แล้วเขตต์ตวันหมดข้อสงสัยเมื่อนักข่าวสาวคนนั้นแอบปีนรั้วบ้านตนเพื่อ ถ่ายภาพบ้านและชีวิตส่วนตัวของตน เขตต์ตวันจับตัวได้โกรธมาก โชคร้ายที่เขาจำได้ว่าเป็นเพื่อนมัทนา เขตต์ตวันเอารูปมัทนามาให้นักข่าวสาวดู เธอพูดหมดเปลือกว่ามัทนาคือนักข่าวของนสพ.สยามสาร เขตต์ตวันโกรธจัดทะเลาะกับมัทนาอย่างรุนแรง ด้วยความรู้สึกผิดหวังและน้อยใจมาก แม้มัทนาจะบอกว่าเธอคือแฟนคลับตัวยง รักและคอยแก้ข่าวให้เขามาตลอดทั้งน้ำตา เธอเข้ามาทำข่าวด้วยเจตนาดีไม่คิดให้ร้ายเขาเลย แต่เขตต์ตวันก็ไม่ฟังไล่ตะเพิดมัทนาออกไปจากบ้าน ไม่อยากเห็นหน้าเธออีกตลอดชีวิต ทั้งคู่ต่างเสียใจและคิดถึงยามที่ต้องห่างกัน มัทนาทนไม่ไหวกลับมาตื้อขอคืนดี เขตต์ตวันแม้จะดีใจแต่ยังโกรธไม่หายที่ถูกหลอก ไล่ตะเพิดไปอีก เอกชัยรู้ใจเพื่อนรักดีพยายามทัดทานแต่ยังไงก็ไร้ผล

          เชนตามมาปลอบใจและให้กำลังใจ ดักคอว่ามัทนาแอบชอบเขตต์ตวัน มัทนาปากแข็งบอกว่าตนเพียงทำหน้าที่ ที่เจ้านายสั่งมาเท่านั้น กลัวตกงาน ไม่ชอบนายนั่นหรอก เชนเลยสารภาพรักมัทนา  มัทนาอึ้งไปแต่ก็ไม่กล้าหักหาญน้ำใจเชนในทันที เพียงตอบไปว่าขอเวลา ยังไม่พร้อมจะคิดเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น

          ในเมื่อความจริงปรากฏแล้วมัทนาก็เข้าบ้านเขตต์ตวันไม่ได้แล้ว เธอจึงสวมวิญญาณนักข่าวเต็มรูปแบบ มัทนาแอบปีนต้นไม้ที่บ้านของเขตต์ตวัน และแอบถ่ายรูปในบ้านของเขา แต่แล้วจู่ ๆ เขตต์ตวันก็ยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ มัทนาตกใจหล่นจากต้นไม้ลงมาขาแพลง เขตต์ตวันต้องเข้าไปประคอง ชายหนุ่มโกรธมากยึดกล้องมัทนาไป เธอขอร้องไม่ให้ทำลายกล้องเพราะต้องใช้เวลานานในการเก็บเงินซื้อ เขตต์ตวันเห็นใจจึงแค่ทำลายฟิล์มและคืนกล้องให้หญิงสาว มัทนาขอสัมภาษณ์หน้าด้าน ๆ เขตต์ตวันยิ่งเดือดดาลไล่เธอไปแต่มัทนาไม่ไป เขตต์ตวันลากมัทนาไปทิ้งหน้าบ้านทั้ง ๆ ที่ขาเจ็บ

          เชนคอยปฐมพยาบาลให้มัทนา ขอให้ถอยกลับกรุงเทพฯ ดีกว่า แต่มัทนายังไม่ยอมแพ้แม้ว่าจะปวดหัว ปวดขา และฝนตกพรำ ๆ เธอตัดสินใจไปเคาะประตูบ้านของเขตต์ตวันเพื่อขอสัมภาษณ์ เอกชัยสงสารบอกให้กลับไปเถอะ ถึงอย่างไรเขตต์ตวันก็ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ มัทนายืนตากฝนรอเป็นเวลา 4 ชั่วโมง จนกระทั่งเอกชัยต้องบอกให้เขตต์ตวันไปดูมัทนา เขตต์ตวันตัดสินใจไปไล่มัทนากลับ แต่กลับพบว่าหญิงสาวมีอาการไข้ เขาจึงพาเธอเข้ามาในบ้านและให้ดื่มวิสกี้แก้หนาว เขตต์ตวันต่อว่ามัทนาที่ดื้อรั้น เขายืนยันว่าจะไม่ยอมให้สัมภาษณ์เด็ดขาด แต่มัทนาก็ยืนกรานว่าจะไม่ละความพยายาม ทั้งสองเถียงกัน จนมัทนาเป็นลมไปต่อหน้าเขตต์ตวัน

          เขตต์ตวันไปรับหมอมาดูอาการของมัทนา หมอบอกว่ามัทนาเป็นไข้หวัดและมีอาการขาอักเสบต้องนอนพัก เป็นระยะเวลา 3-4 วัน โดยต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด เขตต์ตวันแม้จะโกรธมากแต่ความที่ยังรู้สึกดี ๆ ให้กันจึงตัดสินใจให้หญิงสาวพักที่บ้าน เมื่อมัทนาฟื้นขึ้นมาเจอเขตต์ตวันที่คอยดูแลอยู่ เธอก็กล่าวขอโทษและบอกว่าจะกลับโรงแรมพรุ่งนี้เช้า เขตต์ตวันแย้งว่าหมอสั่งห้ามใช้ขาสามวัน ต้องอยู่ที่บ้านเขา โดยเขาจะจ้างพยาบาลพิเศษมาดูแลเธอเอง มัทนานอนป่วยอยู่ที่บ้านของเขตต์ตวัน โดยเวลากลางวันเขตต์ตวันกับเอกชัยจะผลัดกันมานั่งเฝ้าหญิงสาว  พอช่วงเวลากลางคืนจะมีพยาบาลที่เขตต์ตวันจ้างมาดูแลแทน การพักอยู่ที่บ้านของเขตต์ตวันทำให้มัทนามีโอกาสพูดคุยกับเขามากขึ้นและเอก ชัยก็มักจะเล่าถึงเขตต์ตวันให้ฟัง ทำให้มัทนาเข้าใจชีวิตของเขต์ตวัน

          มัท นารวมความกล้าขอสัมภาษณ์เขตต์ตวันอีกครั้ง ยืนยันว่าไม่ใช่การแฉทำร้ายทำลายชื่อเสียงเขตต์ตวัน แต่ตนทำหน้าที่ตัวแทนของแฟน ๆ ที่รักและคิดถึงเขตต์ตวันอยากรู้ข่าวคราวเท่านั้นเอง คราวนี้ชายหนุ่มตอบตกลง โดยขอให้สัมภาษณ์หลังจากเธอหายเจ็บ มัทนาดีใจมากจนแทบซ่อนน้ำตาไว้ไม่อยู่ ช่วงบ่ายวันหนึ่ง มีชายหนุ่มมาขอพบเขตต์ตวัน เขาเป็นคนที่มาเช่าบ้านอยู่ใกล้บ้านของเขตต์ตวันซึ่งเป็นบ้านหลังเดียวกับ ที่เจ้าของร้านค้าบอกจะให้มัทนาเช่า ชายคนนี้มาขอพบเขตต์ตวันโดยบอกว่ารู้จักเพื่อนเก่าของเขาดี เขตต์ตวันไปพบ มัทนาเห็นว่าชายคนนี้พยายามเสนอขายอะไรบางอย่าง แต่เขตต์ตวันปฏิเสธไป เมื่อมัทนาอาการดีขึ้นก็อยากออกไปเดินเล่น เขตต์ตวันจำใจพาเธอออกไป เขาเล่าสาเหตุที่ต้องไปอยู่วัดกับหลวงพ่อ และเล่าถึงชีวิตวัยเด็กอันขมขื่น รวมทั้ง จันจิรา น้องสาวที่เขารักมากและตายไปแล้ว และบอกว่าตนสืบสานความฝันของน้องสาวทำห้องเสื้อตะวันขึ้นมา พอพูดถึงน้องสาวเขตต์ตวันก็เศร้ามากทำให้มัทนายิ่งเห็นใจเขามากยิ่งขึ้น...

          เขตต์ตวันพามัทนาไปหาหลวงพ่อจรูญ และพบเด็กที่อยู่ในความดูแลของท่าน มัทนาตั้งใจจะเขียนสารคดีชีวิตของหลวงพ่อ เธอจึงได้สัมภาษณ์ท่านด้วย ความสัมพันธ์ของเขตต์ตวันกับมัทนาค่อย ๆ กลับมาดีเหมือนเก่าหลังจากปรับความเข้าใจกันทุกเรื่อง เขตต์ตวันชวนมัทนาไปดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพก่อนกลับบ้าน มีหนุ่มสาวจำนวนหนึ่งเข้ามาขอถ่ายรูปกับเขตต์ตวัน มัทนาช่วยขอร้องให้เขาไปถ่ายรูปด้วย ขณะนั้นมีกลุ่มขี้เมาเดินผ่านมาแซวมัทนาว่า ถ้ามีแฟนอย่างเธอจะไม่ปล่อยให้อยู่ห่าง ๆ เลย เขตต์ตวันได้ยินก็จะไปเอาเรื่อง แต่มัทนาห้ามไว้ว่าอย่าไปใส่ใจ เขตต์ตวันแปลกใจตัวเองที่รู้สึกเป็นห่วงนักข่าวสาวคนนี้ขึ้นมาอย่างบอกไม่ ถูก

          หลังจากมัทนาหายดีแล้ว เธอทวงสัญญาที่เขตต์ตวันรับปากจะยอมให้สัมภาษณ์ เขตต์ตวันขอให้มัทนาไม่ให้สัมภาษณ์ 2 เรื่องคือเรื่องคดีความเมื่อ 2 ปีก่อน กับเรื่องของแม่และจันจิราน้องสาวที่ตายไป มัทนาตอบตกลง และรับปากว่าจะไม่เขียนเรื่องที่ทำให้เขตต์ตวันเสียหายเด็ดขาด มัทนาถามถึงคนไข้ที่ติดยาที่ไปรักษากับพี่สาวตน จึงรู้ว่าคนไข้นั้นคือชลบุษย์นั่นเอง ถามถึงเรื่องคดีความว่าเขตต์ตวันไม่อยากจับผู้ร้ายตัวจริงได้หรือ เขาเล่าเรื่องของ ยุพิน ที่ตายไปให้มัทนาฟัง ว่าเธอเป็นผู้หญิงลำปางที่ถูกหลอกมาขายโดยเพื่อนของเขา ยุพินช่วยให้เขาแจ้งจับเพื่อนคนนี้ได้ แต่ยุพินก็ถูกตามล่า จนในที่สุดต้องตายไป วันที่ตายเพื่อนของเขตต์ตวันโทรไปหัวเราะเยาะ เขตต์ตะวันได้ยินเสียงยุพินจึงรีบมาช่วย แต่พอมาถึงหญิงสาวก็เสียชีวิตไปแล้ว ตำรวจมาพบเขาในที่เกิดเหตุ แต่เขาพ้นผิดได้เพราะหลักฐานบ่งบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่ชีวิตของเขตต์ตวันก็ถูกนักข่าวทั้งหลายขุดคุ้ยขึ้นมาจนแหลกเหลว ทำให้เขาต้องตัดสินใจออกจากวงการแสดง จากเรื่องของยุพิน ทำให้เริ่มได้กลิ่นว่าเพื่อนของเขตต์ตวันที่วางแผนนี้คือเชนนั่นเอง แต่มัทนาก็ไม่ระแคะระคายแม้แต่น้อย เมื่อกลับมาที่บ้าน ทั้งสองก็ได้พบกับชาวบ้านและตำรวจมายืนอยู่ที่หน้าบ้านเต็มไปหมด เพราะชายแปลกหน้าที่มาเช่าบ้านอยู่ข้างบ้านตายแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าตายอย่างไร แต่ดูเหมือนว่าเขตต์ตวันและเอกชัยจะรู้ ทั้งสองพูดถึงคน ๆ หนึ่งที่ตามจองล้างจองผลาญเขตต์ตวันอยู่

          เขตต์ตวันพามัทนาไปส่งที่โรงแรมโดยบอกว่าจะมารับช่วงเย็น ที่หน้าโรงแรมมัทนาพบกับเชน เชนรีบหลบฉาก ไม่อยากให้มัทนาอึดอัดใจ เชนกำลังจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ แต่เขาเปลี่ยนใจเป็นกลับช่วงเย็น เชนดีใจมากที่เจอมัทนา จู่ ๆ เชนก็ให้ไข่มุกดำกับมัทนาเพื่อเป็นที่ระลึก เธอจำใจรับไว้ เย็นวันนั้นเขตต์ตวันไม่ได้มารับมัทนาตามสัญญาเพราะติดธุระด่วน แต่เขากลับมารับอีกวันและพามัทนาไปปิกนิกที่บ้าน มัทนาอัดเทปสัมภาษณ์เขตต์ตวัน เขาบอกว่าอยากเป็นศิลปิน อยากเขียนรูป แต่ต้องเข้าวงการแสดงเพราะต้องการเงินมารักษาน้องที่ป่วย และเล่าถึงชีวิตในวัดสวนป่าที่อยู่กับหลวงพ่อจรูญ

          มัท นาประทับใจชีวิตของเขตต์ตวันมากขึ้น เขาถามว่าหญิงสาวจะกลับกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ เธอตอบว่าพรุ่งนี้เพราะทำงานเสร็จแล้ว เขตต์ตวันอาสาพาเธอไปซื้อของฝาก เพราะอยากอยู่กับมัทนาให้นานกว่านี้ หญิงสาวเลือกของฝากมากมาย จนเจอผ้าบาติกสีสวย เธออยากได้มากแต่เงินจะหมดแล้ว เขตต์ตวันซื้อให้เป็นที่ระลึก หลังจากซื้อของเสร็จเขตต์ตวันพามัทนาไปกินข้าวที่ร้านบนเขา ซึ่งมัทนาชอบมากเพราะคิดว่าถ้ากลับกรุงเทพฯ ไปก็คงไม่มีโอกาสได้เจอบรรยากาศแบบนี้ ทั้งสองคุยกันด้วยความรู้สึกดี ๆ เขตต์ตะวันไปส่งมัทนาที่โรงแรมและบอกว่าจะมารับมัทนาพาไปส่งที่สนามบิน เช้าวันรุ่งขึ้นเขตต์ตวันมาที่โรงแรมก่อนเวลา พบเจ้าหน้าที่เคาน์เตอร์โรงแรม เจ้าหน้าที่ฝากซองใส่รูปที่จ่าหน้าซองว่า "ภาพถ่ายจากวัดสวนป่าของคุณมัทนา" ให้เขตต์ตวันไว้ให้มัทนาด้วย เขตต์ตวันรับมาถือ นั่งรออดไม่ได้ที่จะแอบเปิดดูเพราะอยากเช็กความเรียบร้อย แต่แล้วเขาต้องตกใจมาก เพราะรูปในซองเป็นรูปโป๊เปลือยของนางแบบที่มาถ่ายเสื้อผ้าให้เขา เขตต์ตวันเข้าใจผิดคิดว่ามัทนาเป็นคนทำ จึงโกรธมัทนามาก ขึ้นไปด่าว่ามัทนาเสีย ๆ หาย ๆ ถึงบนห้องพักก่อนจะจากไป มัทนาเสียใจมากพยายามตามไปอธิบายก็ไม่ทัน เธอไปพบเอกชัย เขารู้ว่าไม่ใช่ฝีมือของมัทนาและขอให้เธอใจเย็น ๆ เขาจะค่อย ๆ พูดให้เขตต์ตวันเข้าใจเอง มัทนาจึงเดินทางกลับมากรุงเทพฯ ด้วยความเศร้า

          เมื่อมัทนาถึงบ้าน ก็ได้พบวาสิฏฐีเป็นคนแรก เพราะความซึมเศร้าของมัทนาทำให้วาสิฏฐีถามและจับได้ว่าพี่สาวกำลังมีความรัก วาสิฏฐีรื้อของฝากเจอไข่มุกที่เชนมอบให้จึงขอมัทนา มัทนายกให้เพราะไม่ชอบเครื่องประดับอยู่แล้ว มัทนาไปทำงานด้วยความหดหู่ เชนโทรมานัดพบมัทนาเพื่อพาไปกินข้าวเย็น มัทนาถามไชยวัฒน์ถึงเรื่องรูปภาพที่เขตต์ตวันเจอที่ห้องว่าไชยวัฒน์ได้ส่งไป หรือไม่ ไชยวัฒน์ปฏิเสธ และเริ่มสงสัยว่ามีคนคอยจับตาดูมัทนาอยู่ เชนพามัทนาไปกินข้าวที่ร้านอาหารหรูหรา มัทนาเจอนางแบบที่เป็นเลขาฯ ของเขตต์ตวันนั่งอยู่กับเสี่ย ทำให้มัทนานึกถึงข้อความที่ติดมากับรูปว่า นางแบบเสื้อตะวันเรียกได้ทุกคน ขอให้มีเงินพอ เชนถามถึงไข่มุกว่ามัทนาอยากทำเป็นสร้อยหรือกำไลหรือเปล่า มัทนาบอกไม่ต้องการเพราะไม่ชอบ

          มัทนาพยายามทำงานให้เป็นปกติแต่ข่าวที่เขตต์ตวันกลับมากรุงเทพฯ แล้ว พร้อมกับนางแบบลลิสา ทำให้ใจของมัทนาปวดแปลบ สาระวารีพาแขกคนสำคัญคือ ษมา เจ้าของกาสิโนมาที่สำนักงาน พอมัทนาทำความรู้จักแล้วก็ขอตัวกลับบ้าน แต่ขณะที่เดินออกจากสำนักงาน มีมือปืนเข้ามาดักยิง โชคดีที่ษมาผลักมัทนาได้ทัน ปืนเลยแค่เฉี่ยวศีรษะไป สาระวารีพามัทนาไปหาหมอ มัทนานึกถึงเขตต์ตวันว่าใช่เขาหรือเปล่าที่มาทำร้ายเธอ สาระวารีพามัทนากลับบ้าน พบว่าบ้านถูกขโมยงัดแงะเข้ามารื้อข้าวของโดยที่ไม่ได้เอาอะไรไปเลย โดยเฉพาะห้องมัทนาถูกรื้ออย่างหนัก มัทนาโกรธจัดคิดว่าเป็นฝีมือเขตต์ตวันแน่ ๆ เธอให้สาระวารีพาไปที่บ้านเขา เมื่อมัทนาไปถึง ก็ต่อว่าเขตต์ตวันทันที เขตต์ตวันตกใจมากที่รู้ว่ามัทนาถูกยิง เขาพยายามอธิบายว่าตนไม่ได้เป็นคนทำ และขอโทษที่เข้าใจผิดเรื่องรูป เขาบอกว่าจะไม่ทำร้ายจิตใจมัทนาอีก มัทนารู้สึกดีใจขึ้นมาทันที สาระวารีพยายามคิดว่าใครกันแน่ที่ปองร้ายมัทนา

          เขตต์ตวันกับเอกชัยเล่าเรื่องเพื่อนที่โตมาด้วยกัน แต่เพื่อนคนนั้นกลายเป็นคนเลวค้ายา ค้าผู้หญิง หลอกลวงน้องสาวของเขตต์ตวันไปขาย จนเขาต้องแจ้งตำรวจจับทำให้เกิดเป็นความแค้นกันขึ้นมาไม่เลิกไม่รา สาระวารีถามว่าเพื่อนชื่ออะไร เขตต์ตวันบอกว่าชื่อเชษฐ์ เมื่อเล่ามาถึงตอนนี้มัทนาก็หลับไปเสียแล้ว เขตต์ตวันอาสาพามัทนาไปส่งที่บ้าน สาระวารียอมให้ไปเพราะรู้ใจของเขตต์ตวันว่าคงหลงรักมัทนาเข้าให้แล้ว แท้จริงแล้วศัตรูของเขตต์ตวันก็คือเชนนั่นเอง เชนต้องการไข่มุกคืนจากมัทนา เพราะเป็นไข่มุกแท้จากญี่ปุ่น เชนสั่งให้ลูกน้องจัดการเรื่องของมัทนาให้ได้ เขตต์ตวันมาหามัทนาแต่เช้าด้วยความห่วงใย เขาอาสามาเฝ้าหญิงสาวที่บ้านจนกว่าจะหาย และขอมาดูงานเขียนข่าวของมัทนาด้วย ทั้งสองเริ่มกลับมาใกล้ชิดกันเหมือนเดิม เขตต์ตวันให้เครื่องช็อตไฟฟ้าและสเปรย์พริกไทยกับมัทนาไว้เพื่อป้องกันตัว และทุกวันหลังจากมัทนาหายแล้วเขาจะไปรับเธอกลับบ้านหรือถ้าเขาไม่ว่างก็จะ ให้เอกชัยไปรับแทน

          หนังสือสยามสารที่ลงตีพิมพ์เรื่องของเขตต์ตวันมียอดขายถล่มทลาย ทุกคนต่างสนใจชีวิตของพระเอกสุดหล่อที่หายไปจากวงการนาน 2 ปี นักข่าวสำนักอื่น ๆ เริ่มขอสัมภาษณ์เขตต์ตวัน แต่เขตต์ตวันก็ปฏิเสธไปหมด จนนักข่าวอื่น ๆ ต่างหมั่นไส้ลงข่าวว่ามัทนาเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้ได้สัมภาษณ์เขตต์ตวัน ตอนนี้มัทนาจึงตกเป็นข่าวในแง่ลบเสียเอง สาระวารีได้รับอุบัติเหตุจากการทำข่าวอยู่ที่ตราด มัทนาต้องไปเยี่ยมด่วน เพราะสาระวารีมีพี่สาวคนเดียวซึ่งไม่ว่างมาดูแล เขตต์ตวันมารับมัทนาพอดี จึงขอไปกับมัทนาด้วย เนื่องจากงานแฟชั่นโชว์เสื้อผ้าล็อตใหม่ของตวัน ต้องเลื่อนไปเพราะมีแบบหายไป ทำให้เขตต์ตวันหงุดหงิดมาก แต่ระหว่างเฝ้าอาการสาระวารี เขตต์ตวันกลับคิดแบบเสื้อใหม่ขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นแบบเสื้อของมัทนาโดยเฉพาะ ไชยวัฒน์สงสัยเรื่องสาเหตุที่สาระวารีได้รับอุบัติเหตุ ส่วนมีคณาพานายตำรวจหนุ่มชื่อ หิรัณย์ มาแนะนำให้มัทนารู้จัก หิรัณย์พูดถึงไข่มุกดำที่หายไปจากประเทศญี่ปุ่น ตอนนี้ยังตามจับขโมยไม่ได้

          มัทนาไปพบเขตต์ตวันที่โรงแรมระหว่างเตรียมงานแฟชั่นโชว์เสื้อคอลเลคชั่นใหม่ ของเขา ที่โรงแรมมัทนาได้พบกับชลบุษย์ อดีตนางแบบที่มาเป็นเลขาฯ ของเขตต์ตวัน ซึ่งมัทนาจำได้ว่าเคยเจอนางแบบสาวนั่งกับเสี่ยในร้านอาหารตอนที่เธอไปกับเชน มัทนาอึดอัดที่จะคุยกับชลบุษย์ จู่ ๆ เชนก็เดินมาทัก โดยบอกว่าพาลูกค้าญี่ปุ่นมาคุยงานที่โรงแรมพอดี เชนขอนัดมัทนากินข้าวก่อนที่เขาจะกลับแคนาดา หลังจากนั้นมัทนาได้รับโทรศัพท์ขู่ให้เลิกยุ่งกับเขตต์ตวัน ซึ่งเธอคิดว่าน่าจะเป็นเสียงของชลบุษย์ แม้จะดัดเสียง ไชยวัฒน์เตือนให้มัทนาระวังตัว พอช่วงบ่ายมัทนาก็ได้รับโทรศัพท์จากชลบุษย์อีกครั้ง ซึ่งโทรมาบอกว่าทั้งเขตต์ตวันและเอกชัยไม่สามารถมารับมัทนากลับบ้านได้ใน วันนี้ สักพักเชนก็โทรมาเพื่อขอรับมัทนาไปกินข้าว โดยไชยวัฒน์เป็นคนรับโทรศัพท์ของเชน ไชยวัฒน์จึงบอกมัทนาว่าเสียงของเชนเหมือนเสียงของสายข่าวที่บอกว่ามีข้อมูล ของเขตต์ตวัน

          เชนมารับมัทนาออกไป มัทนาต้อนจนเชนยอมเปิดเผยตัวเองว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังแผนบ่อนทำลายเขตต์ ตวันทั้งหมด ลลิสาและชลบุษย์ก็คือลิ่วล้อของตน เขาเป็นคนแจ้งข่าวกับไชยวัฒน์ ตีสนิทมัทนาเพื่อใช้เป็นเหยื่อล่อเขตต์ตวัน เชนต้องการให้นักข่าวตายเพราะถูกเขตต์ตวันฆาตกรรมซ้ำรอยยุพิน เพื่อยืนยันว่าเขตต์ตวันเป็นฆาตกรโรคจิตที่ยังลอยนวล แต่แผนการผิดพลาด มัทนาเริ่มกลัวเชน ผู้ชายดูสุภาพแสนดีคนนี้ที่แท้มีอาการจิต ๆ แฝงอยู่ เป็นตัวอันตราย เชนขู่ให้มัทนาพาไปที่บ้านเพื่อไปเอาไข่มุกดำ มัทนาจำใจพาเชนไปที่บ้านซึ่งวาสิฏฐีพาเพื่อนมาติวหนังสือหลายคน ทำให้เชนต้องระมัดระวัง เชนขู่มัทนาว่าจะฆ่าให้หมดถ้าตุกติกทำให้ทุกคนรู้ มัทนาจำใจพาเชนขึ้นไปบนห้อง ถามวาสิฏฐีว่าเอาไข่มุกไปไว้ไหน วาสิฏฐีบอกว่าไว้ในอ่างที่เลี้ยงเต่าญี่ปุ่น เชนได้ไข่มุกคืนแต่ยังพามัทนาออกไปด้วย มีคณาโทรมาหามัทนาที่บ้านและรู้ทันทีว่ามัทนาถูกจับ มัทนาบอกใบ้ว่าให้มีคณาตามไปหาคนไข้ของศกุนตลา เขตต์ตวันรู้ทันทีว่าเป็นชลบุษย์นี่เองที่ทรยศเขามาตลอด

          เชนพามัทนาไปขังที่ชั้น 4 ของบริษัทไข่มุก ไม่มีใครรู้ว่าที่นี่มีชั้น 4 เพราะทำแยกออกไปและมีทางขึ้นอีกทาง เชนบอกถึงความอิจฉาที่เขามีต่อเขตต์ตวัน เพราะตอนเด็ก ๆ ทุกคนมักจะรักเขตต์ตวัน และมองข้ามเชนไปหมด ทำให้เชนต้องไปยึดอาชีพส่งผู้หญิงขาย เชนหลอกจันจิราน้องสาวของเขตต์ตวันด้วย มัทนาพยายามหนีโดยใช้ปืนที่เขตต์ตวันให้ไว้ แต่ก็หนีไม่รอด ลลิสาเป็นอีกคนที่ร่วมมือกับเชน ลลิสามีความลับที่ทำให้เชนไม่กล้าทำร้าย นั่นคือคลิปที่เชนฆ่ายุพิน และโยนความผิดให้เขตต์ตวัน

          เขตต์ต วัน มีคณาและหิรัณย์ ตามหามัทนาจนทั่ว แต่ก็ไม่พบ หิรัณย์คิดว่าเชนพามัทนาไปที่อื่น ตำรวจตัดสินใจถอนกำลัง เชนหัวเราะเยาะที่กำลังจะเห็นความพ่ายแพ้ของเขตต์ตวัน เชนตั้งใจจะเอามัทนาไปขายให้ชาวญี่ปุ่น มัทนาแอบหนีเข้าไปในห้องน้ำ ใช้กระดาษทิชชูโปรยจากหน้าต่างลงไปข้างล่าง ตามด้วยผ้าบาติกที่เขตต์ตวันซื้อให้ ตำรวจกลับไปแล้วแต่เขตต์ตวันไม่ยอมกลับ ในที่สุดเขาก็เห็นกระดาษทิชชูและผ้าบาติกของมัทนา จึงรีบตามไปช่วยทันที แต่เพราะมีเขาแค่คนเดียว ทำให้เสียท่าเชน เขตต์ตวันถูกเชนเอามีดกรีดที่ใบหน้า ขณะที่มัทนากำลังจะเสียท่าโดนเชนทำร้ายอีกคน ลลิสาก็เปลี่ยนใจหันหลับมาช่วยมัทนา ตำรวจบุกขึ้นมาช่วยเหลือเขตต์ตวันกับมัทนาได้ทัน ในที่สุดเชนถูกจับรับโทษในคุก มัทนาบาดเจ็บซี่โครงหัก ส่วนเขตต์ตวันมีบาดแผลลึกที่ใบหน้า เขตต์ตวันรีบพามัทนาไปโรงพยาบาล เขาบอกรักมัทนา มัทนาละเมอบอกเขตต์ตวันว่ามีกล่องความลับอยู่ที่ห้อง กล่องนั้นคือคลิปที่เชนฆ่ายุพินนั่นเอง

          มัทนาฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล พบว่าเขตต์ตวันนั่งเฝ้าเธออยู่ ใบหน้าของเขายังคงมีผ้าปิดแผลที่แก้มแต่ก็สามารถทำศัลยกรรมให้หายได้ไม่ยาก เขตต์ตวันขอมัทนาแต่งงาน โดยจะออกแบบชุดเจ้าสาวให้เธอเอง มัทนาดีใจมากแต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกหงุดหงิด เพราะซี่โครงหักทำให้กอดเขตต์ตวันตอบไม่ได้ เธอขอให้เขตต์ตวันบอกรักอีกครั้ง ก่อนจะตอบตกลงแต่งงานด้วย

           ที่สยามสาร บ.ก.ไชยวัฒน์ได้รับการ์ดแต่งงาน 3 ใบ จากสาระวารี มีคณา และมัทนา ไชยวัฒน์จึงต้องเขียนข่าวรับสมัครนักข่าวสาวรุ่นใหม่เพิ่มอีก 3 คน งานแต่งงานของมัทนาจัดสองครั้ง ครั้งแรกจัดที่กรุงเทพฯ ส่วนครั้งที่สองจัดที่วัดสวนป่า ภูเก็ต เลี้ยงพระและเด็กกำพร้าทั้งวัด มัทนาดึงดันจะทำงานเป็นนักข่าวต่อได้สำเร็จ แต่เขตต์ตวันต่อรองว่า เธอจะต้องลาออกทันทีเมื่อมีลูก ซึ่งมัทนาก็ยอมตกลงโดยดี ได้ทุกวันพุธ - พฤหัสบดี เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 
Read more »

แผนร้ายพ่ายรัก


เขมมิก หญิงสาวที่ไม่เชื่อในความรัก และมักล้อเล่นกับความรักด้วยกลเกมแผนร้ายที่เธอวางไว้ แต่เมื่อเธอพบกับรักที่ตามหามานาน แผนการไหน ๆ ก็ใช้ไม่ได้ มีเพียงความจริงใจของเธอเท่านั้นที่จะพิสูจน์รักแท้

          เขมมิก (ภีรนีย์ คงไทย) สาว น้อยร่างอวบที่ทุกคนต่างเรียกเธอว่า ปุ๊กลุ๊ก รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในอ้อมอกของ พี่เสือ ฉายาที่ได้มาเพราะความเจ้าชู้ ความเมามายที่ต่างฝ่ายต่างดื่มหนักในงานปาร์ตี้สังสรรค์ของนักเรียนไทยในฮัม บูร์ก เยอรมัน สภาพของทั้งคู่สามารถบอกได้ว่าเมื่อคืนหนุ่มสาวคู่นี้ผ่านอะไรกันมาบ้าง แต่แทนที่จะได้รับคำพูดที่ทำให้หายตระหนกจากฝ่ายชาย กลับได้ยินคำพูดจากปากเขาว่าเรื่องที่เกิดขึ้น we just wanna have fun




          เขมมิกให้เนตรนิภา (เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) เพื่อนรักที่ชวนให้เธอเดินทางจากสวิตเซอร์แลนด์เพื่อมาร่วมปาร์ตี้ของนัก เรียนไทยในฮัมบวร์กด้วยกัน พาหนีความอับอายกลับไปที่สวิตเซอร์แลนด์โดยไม่รอเคลียร์กับคู่กรณีให้รู้สึก อับอายไปกว่านี้ เนตรนิภาปลอบใจให้เขมมิกเลิกโทษความอวบ เฉิ่ม ไร้เสน่ห์ของตัวเอง และลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองให้สวย เด้ง และเร้าใจ ชนิดผู้ชายคนไหนเห็นจะต้องลืมหายใจและลืมโลก แล้ววันนั้น ถ้าพี่เสือคู่กรณีโคจรมาพบกันอีกครั้งก็คงจำเธอไม่ได้ และเขมมิกจะกลายเป็นฝ่ายสลัดพี่เสือทิ้ง! ถ้าการเปลี่ยนแปลงของเขมมิกหยุดอยู่เพียงเท่านั้นก็คงจะไม่เกิดเรื่อง วุ่นวายตามมา เพราะความแค้นที่ถูกพี่เสือทิ้ง เขมมิกจึงไม่เชื่อและไม่ศรัทธาในความรัก และนั่นก็กลายเป็นที่มาของอาชีพเสริมสุดพิสดารของเธอ คือ วางแผนพิสูจน์รักแท้ ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ แอร์โฮสเตสทั้งหลาย

          ครั้งแรกที่แผนร้ายของเขมมิกไม่สำเร็จ กัปตันพิทยา หรือ พี่พีท (สุรินทร คารวุตม์) ที่พร่ำบอกว่ารักจนเธอหมดหัวใจ เพราะพิทยากลับปันใจให้กับ พิศินี (เวธกา ศิริวัฒนา) ลูกสาวของประธานสายการบินที่เธอทำงานอยู่ เขมมิกวางแผนร้ายพิสูจน์รักแท้ พิทยาพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ทำให้พิศินีเชื่อใจเขามากขึ้น...เขมมิกแค้นใจ จนประกาศลั่นกับเพื่อนรัก...แค้นนี้ต้องชำระ! ในวันแต่งงานของพิศินีและกับพิทยา เขมมิกคิดล้างแค้นอดีตแฟนหนุ่มด้วยการแต่งตัวเลิศหรูชนิดที่ใครก็เดาออกว่า เธอต้องการแย่งซีนเจ้าสาว แล้วเขมมิกก็ทำสำเร็จ เธอกลายเป็นจุดสนใจของหนุ่ม ๆ ในงาน รวมทั้ง พิแสง (รัฐภูมิ โตคงทรัพย์) พี่ชายของพิศินี แต่เหตุผลที่พิแสงจับตามองเขมมิก นอกจากความสวยเด่นของเธอแล้ว ยังเป็นเพราะเรื่องราวที่ พิศา (กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล) น้องสาวคนเล็กเล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่าต้องเสียคนรักไปเพราะนิสัยประหลาดของ เขมมิกที่ชอบเข้ามาป่วนทำให้คู่รักเลิกกัน พิศารู้สึกเสียหน้าและโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเขมมิก และตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขมมิกตั้งแต่นั้นมา พิแสงเกิดความระแวงว่าเขมมิกจะมาก่อความวุ่นวายในงานจึงตามประกบติดเขมมิกแจ แต่ด้วยความไม่ตั้งใจเขมมิกสะดุดชายกระโปรงตัวเอง แล้วใช้เค้กวันแต่งงานสุดอลังการของบ่าวสาวเป็นเบาะกันกระแทกก่อนถึงพื้น !!!! สิ่งเดียวที่ทำได้คือ แกล้งเป็นลมขณะที่พิแสงกำลังเข้ามาหา เธอมองมองแวบเห็นเป็นพี่เสือ

          เขมมิกถูกลงโทษด้วยการถูกพักงานโดยไม่มีการจ่ายเงินเดือน แถมตอนนี้เขมมิกเพิ่งรู้ข่าวร้ายจากขนิษฐา (อุทุมพร ศิลาพันธ์) แม่ ของเธอว่า พ่อที่เสียชีวิตไปแล้วได้สร้างหนี้สินหลายล้านไว้ให้แม่เธอต้องเป็นผู้รับ ผิดชอบ เขมมิกต้องการเงินจำนวนมากมากอบกู้วิกฤติให้กับแม่ เขมมิกก็ได้รับมอบหมายงานที่เธอแสนจะถนัดคือ ทำลายความรัก จาก แสงสุดา (จารุณี สุขสวัสดิ์) รองประธานสายการบิน ถ้าเป็นงานธรรมดาเขมมิกคงไม่คิดหนัก แต่ที่ทำให้เธอลังเลเพราะเป้าหมายคือ พิแสง ลูกชายคนเดียวที่ทั้งแสงสุดาและ พิสุทธิ์ (สันติสุข พรหมศิริ) บิดาของพิแสงที่หวังจะให้เขาเป็นผู้สืบทอดธุรกิจการบิน แต่การป่วยของขนิษฐาก็ทำให้เขมมิกทิ้งความลังเลนั้นไป และตัดสินใจรับงานนี้เพื่อแลกกับเงินสามล้านบาท!

          ภารกิจของเขมมิกคือ ทำลายความรัก พังธุรกิจฟาร์มหมู และดึงพิแสงกลับสู่ธุรกิจสายการบิน และกลับมาแต่งงานกับ สาวิกา (พิชามญชุ์ ปทีปไพศาลสกุล) เพื่อน สนิทของพิศา ที่เป็นลูกสาวของนักธุรกิจใหญ่ ไฮโซ แสงสุดาคิดว่าเหตุผลที่พิแสงยอมรับช่วงธุรกิจฟาร์มหมูที่พัทลุงต่อจากปู่ เพราะพิแสงหลงรัก วาศินี (อัญชสา มงคลสมัย) ลูกสาวของ อนงค์ (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) แม่บ้านของฟาร์ม เพราะแสงสุดาระแวงว่าอนงค์ที่เคยคิดแย่งพิสุทธิ์เมื่อสมัยเป็นสาวรุ่นคงคิด ใช้วาศินีมาล้างแค้น แย่งพิแสงลูกชายคนเดียวของเธอไป

          แสงสุดาไม่เคยรู้เลยว่าเหตุผลที่ทำให้พิแสงชายหนุ่มที่เคยใช้ชีวิตเสเพลเห็น ผู้หญิงเป็นของเล่น ผลิกผันตัวเองมาเป็นชายหนุ่มที่จริงจังและรักสันโดษ เพราะพิแสงรู้สึกผิด ที่ครั้งหนึ่งเขาได้ทำให้เด็กสาวบริสุทธิ์คนหนึ่งต้องเสียใจ เสียอนาคตเพราะเขา จึงคิดฝังความเจ้าชู้และอดีตที่เสเพลไว้ที่นี่

          วาศินี หญิงสาวที่ภายนอกดูเป็นคนอ่อนหวานเรียบร้อยแต่ภายในเต็มไปด้วยความทะเยอ ทะยานที่อนงค์ผู้เป็นแม่อัดไว้ให้จนเต็มแน่นก็คิดไปแล้วเช่นกันว่าเธอเท่า นั้นที่จะได้เป็น นายแม่ ของฟาร์มแห่งนี้

          เขมมิกเดินหน้าแผนการทำลายรักของพิแสงโดยที่ไม่รู้เลยว่าคือ เขมมิกเองต่างหากคือคนที่พิแสงรอคอย โดยมีธรรมศักดิ์ คนของแสงสุดาคอยให้การช่วยเหลือและรับสมอ้างฝากเขมมิกให้เป็นเด็กฝึกงานที่ ฟาร์มของพิแสงในฐานะหลานสาวของธรรมศักดิ์ เขมมิกมุ่งหน้าสู่พัทลุงด้วยหัวใจเริงร่า ขอท้าไม่เกินสามเดือน แผนร้ายนี้ต้องสำเร็จ แล้วกลับกรุงเทพฯ อย่างผู้มีชัย!!!

          เขมมิกก็เริ่มคุ้นว่า พิแสง คือผู้ชายที่เป็นต้นเหตุให้เธอล้มเค้กงานแต่งของพิศินีกับพิทยาและเป็นคนที่ ทำให้เธอนึกถึงพี่เสือขึ้นมา แต่ไม่ว่าพิแสงจะเป็นใคร ภารกิจของเธอก็คือทำลายความรักของพิแสงและทำลายฟาร์มแห่งนี้ เรื่องทำลายฟาร์มก็ว่ายากอยู่แล้วแต่เรื่องที่ทำให้พิแสงสนใจในตัวเธอดูจะ เป็นเรื่องที่ยากกว่า! ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขมมิกและพิแสงเจอกัน พิแสงก็ไม่มีท่าทีสนใจเขมมิก แถมมองเขมมิกเป็นผู้หญิงที่ไร้เสน่ห์ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา แต่เขมมิกคิดผิด แววตาของเธอทำให้พิแสงคิดถึง ปุ๊กลุ๊ก

          พิแสงไม่ไว้ใจเขมมิก ในขณะที่พิแสงหาทางสืบว่าเขมมิกต้องการอะไรกันแน่ พิแสงก็มอบหมายงานที่ทั้งหนักทั้งสกปรกให้กับเขมมิก เริ่มจากให้เขมมิกดูแลทำความสะอาดเล้าหมู งานถ้าเป็นงานที่ได้เงิน แค่ล้างเล้าหมูขี้หมูก็ไม่ได้เลวร้ายไปกว่าการล้างห้องน้ำบนเครื่องที่เธอ เคยทำมา ไม่นานนัก...เขมมิกก็ได้รู้ว่าพิแสงคือ พี่เสือ ผู้ชายคนที่เธอไม่อยากจะเจอ!

          เขมมิกขอยกเลิกข้อตกลงทั้งหมดกับแสงสุดา เพราะไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องสะเทือนใจและน่าอับอาย กลัวพิแสงจับได้ว่าเธอคือปุ๊กลุ๊ก ผู้หญิงซื่อโง่ที่พิแสงเคยฟันแล้วทิ้ง! แต่แสงสุดาใช้อาการป่วยของขนิษฐาเป็นเครื่องต่อรอง ทำให้เขมมิกจำต้องเดินแผนทำลายความรักของพิแสงต่อไป ทั้งที่เขมมิกเองเป็นฝ่ายที่หวั่นไหวและแทบจะควบคุมหัวใจตัวเองไม่อยู่ แต่หัวใจของเธอกลับไม่ให้ความร่วมมือเอาเสียเลย และไม่ใช่เขมมิกคนเดียวที่คุมหัวใจตัวเองไม่ได้ พิแสงก็คุมหัวใจของตัวเองไว้ไม่ได้เช่นกัน ยิ่งเห็นความสนิทสนมของเขมมิกกับหมอปริญ ทำให้พิแสงพยายามดึงตัวเขมมิกไปด้วยทุกที่ ทำให้ทั้งคู่ยิ่งมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อกัน พิแสงได้เห็นเขมมิกในมุมที่เป็นตัวตนของเขมมิก

          พิ แสงไม่สามารถห้ามใจและความรู้สึกของตนเองได้อีกต่อไป ทั้งคู่เคลิบเคลิ้มจนเกือบตกเป็นของกันและกัน ถ้าเขมมิกไม่เกิดคิดถึงคืนที่พี่เสือมีความสัมพันธ์กับเธอแค่ความสนุกชั่ว ครั้งชั่วคราว จึงถามย้ำให้แน่ใจว่าสิ่งที่กำลังจะเกิด เกิดจากความรักหรือเพียงเพราะความต้องการ เขมมิกจึงคิดว่าพิแสงมีเพียงความใคร่กับเธอไม่ใช่ความรักและก็คงจะทิ้งเธอไป เหมือนที่ครั้งหนึ่ง พี่เสือเคยทิ้งปุ๊กลุ๊กไป เขมมิกจึงไม่ยอมตกเป็นของพิแสง

          พิแสงตัดสินใจเคลียร์เรื่องความสัมพันธ์ที่คลุมเครือของพิแสงกับวาศินี และขอให้วาศินีเปิดใจมองหมอปริญบ้าง วาศินีเก็บความแค้นไว้เต็มอกเพราะตลอดเวลาที่เฝ้ารักเฝ้ารอพิแสง วาศินีก็วาดฝันไปไกลเกินกว่าที่จะหยุดตัวเองได้ จากความรักเปลี่ยนเป็นความแค้น วาศินีร่วมมือกับ ต่อลาภ คนของบริษัทยูเอฟเกลี้ยกล่อมให้พิแสงเซ็นสัญญาร่วมทุนทั้งที่รู้ว่ามีคน จำนวนไม่น้อยที่เซ็นสัญญากับยูเอฟแล้วในไม่ช้าก็มีหนี้สินท่วมตัว เขมมิกหาทางขัดขวางไม่ให้พิแสงตกเป็นเหยื่อของยูเอฟได้สำเร็จ ทั้ง ๆ ที่หนึ่งในแผนการร้ายเขมมิกต้องทำลายฟาร์ม ซึ่งเป็นคำสั่งของแสงสุดา แสงสุดามาติดตามผลงานของเขมมิกที่ล่าช้า ก็ได้พบว่าทั้งเขมมิกและพิแสงเกิดรักกันขึ้นมาจริง ๆ แสงสุดาย้ำกับเขมมิกเรื่องเงื่อนไขการว่าจ้างและข้อตกลงทั้งหมด ถ้าเขมมิกไม่ออกไปจากชีวิตของพิแสงตอนนี้ เขมมิกจะต้องคืนเงินทั้งหมดที่ได้เบิกล่วงหน้าไปพร้อมดอกเบี้ย!

          อนงค์และวาศินีได้ยินเข้าจึงเอาความจริงทั้งหมดไปบอกกับพิแสง แต่เขมมิกเข้ามาขัดจังหวะและขอเป็นคนสารภาพทุกอย่างด้วยตัวเอง อนงค์และวาศินีคาดหวังจะได้เห็นพิแสงโกรธและขับไล่เขมมิก แต่ผิดคาด พิแสงฟังทุกอย่างอย่างใจเย็น เพราะเขาล่วงรู้แผนการร้ายของมารดากับเขมมิกมาตั้งนานแล้ว และไม่คิดโกรธเขมมิก ผู้หญิงที่ตัวเองรักและที่สำคัญเป็นคนเดียวกับที่ตัวเองเฝ้ารอมานาน 5 ปี เขมมิกตกใจที่พิแสงจับได้ตั้งแต่แรกว่าเธอคือน้องปุ๊กลุ๊ก! พิแสงตัดสินใจสารภาพเรื่องทั้งหมดกับเขมมิก

          ถึงแม้เขมมิกและพิแสงจะใจตรงกันและดูเหมือนทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี แต่ความโชคร้ายของเขมมิกก็เกิดขึ้นในเวลาสำคัญ ๆ เสมอ เพราะในระหว่างที่พิแสงขึ้นมาประชุมบอร์ดสายการบินตามคำขอของพิสุทธิ์ ที่กรุงเทพฯ และฝากทุกอย่างในฟาร์มให้เขมมิกช่วยดูแล เขมมิกได้รับการติดต่อจากลุทซ์ เรื่องคดีหนี้สินของแม่และขอให้เขมมิกไปพบที่หาดใหญ่ วาศินีเห็นเป็นโอกาสที่จะทำให้พิแสงหมดความไว้ในใจตัวเขมมิกจึงวางยา ลิเดีย หมูแม่พันธุ์สุดที่รักและมีราคาแสนแพงของพิแสง พิแสงก็ไม่พอใจที่เขมมิกไม่อยู่ฟาร์มในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ วาศินีบอกกับพิแสงว่าเขมมิกทิ้งงานไปพบกับคู่หมั้น ประกอบกับระหว่างที่ขึ้นมาประชุม พิศาโจทย์เก่าตลอดกาลของเขมมิกก็ลากเอาบรรดาเพื่อนร่วมงานสุดแสบของเขมมิกมา ให้ข้อมูลกับพิแสงถึงความเป็นสาวล่าแต้มของเขมมิก จนพิแสงเริ่มลังเลว่าเขาจะคือหนึ่งในเหยื่อของเขมมิกด้วยหรือไม่ พิแสงโกรธจัดตามไปที่โรงแรมที่เขมมิกจดที่อยู่ให้คนงานไว้ แล้วพิแสงก็ได้เจอภาพบาดตา ลุทซ์ประครองเขมมิกเข้าลิฟท์ขึ้นห้องในโรงแรมไปด้วยกัน

          หลัง จากคืนนั้นพิแสงมีท่าทีเหินห่างกับเขมมิกจนเขมมิกรู้สึกได้ เขมมิกพยายามซักถามว่าเกิดอะไรขึ้น พิแสงไม่ตอบแต่ขอให้เธอไปธุระในตัวเมืองหาดใหญ่ด้วยกัน คืนนั้นพิแสงพยายามจะมีอะไรกับเขมมิก เขมมิกกลัวว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะเป็นเหมือนคราวที่พี่เสือเคยทิ้งปุ๊ กลุ๊กไปอีก เขมมิกจึงถามพิแสงให้แน่ใจว่าพิแสงจะยอมแต่งงานกับเธอหรือเปล่า แต่พิแสงกลับเข้าใจว่าคำถามนี้เป็นคำถามเพื่อยืนยันว่าแผนการของเธอสำเร็จ แล้ว พิแสงด่าประณามเขมมิกและคิดว่าสำหรับเขมมิกแล้วพิแสงคงจะเป็นแค่แต้มหนึ่งใน เกมของเธอเท่านั้น พิแสงโกรธเขมมิกมากถึงขั้นไม่ยอมให้เขมมิกกลับเข้าฟาร์มอีก พิแสงละทิ้งฟาร์มหมูกลับไปทำงานสายการบินให้มารดา โดยขอให้หมอปริญเป็นผู้ดูแลแทน เพราะพิแสงไม่อาจทนอยู่ในสถานที่ ๆ เป็นที่เพาะพันธุ์ความรักระหว่างพิแสงกับเขมมิกได้อีกต่อไป

          แสงสุดาเรียกเขมมิกเข้าไปรับเงินค่าจ้าง 3 ล้านบาทตามที่ได้ตกลงกันไว้ และยังได้หาที่ทำงานใหม่ให้เธอในสายการบินที่มีค่าจ้างสูงลิบ ที่สำคัญยังดูแลมารดาของเธออย่างดีตามสัญญา แต่ทั้งหมดที่เธอได้มาพร้อมกับความสำเร็จคือความเจ็บปวดจนยากที่จะบรรยาย เขมมิกตัดสินใจว่าจะไม่รับงานพิสูจน์รักแท้ให้ใครอีกต่อไป

          เขมมิกได้พบกับพิทยาอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่ในบทบาทของกัปตันหนุ่มแต่เป็นผู้บริหารระดับสูงของสายการ บินที่แสงสุดามอบให้เป็นการรับขวัญ โดยหารู้ไม่ว่าพิทยาคือลูกชายคนเดียวของหุ้นส่วนของบูทิคแอร์ไลน์ที่แสงสุดา และพิสุทธิ์เคยร่วมทุนด้วย แล้วเกิดหักหลังกันจนล้มละลาย พ่อของพิทยายิงตัวตายหนีปัญหา พิทยาจึงหาทางใกล้ชิดจนได้แต่งงานกับพิศินีเพื่อต้องการแก้แค้นและเอา ทุกอย่างคืนกลับมา เขมมิกหาทางเตือนแสงสุดาเรื่องพิทยาแต่ไม่มีใครเชื่อ หลังจากที่พิแสงเข้ามานั่งแท่นผู้บริหารสายการบิน ทำให้ตรวจพบความผิดปกติเรื่องพิทยา ทำให้ทุกคนคิดถึงคำเตือนของเขมมิก

          พิศินีจึงตัดสินใจขอหย่ากับพิทยา ต่อให้รักมากสักเพียงไหน แต่ถ้าคนรักใช้ตัวเองเพื่อผลประโยชน์โดยปราศจากความจริงใจ พิศินีก็พร้อมที่จะถอนตัว แม้จะต้องเจ็บปวดมากสักเพียงใด พิแสงทำงานต่อไปแม้ผลงานจะดีเลิศแต่ก็กลายเป็นคนเย็นชาตายซากไร้หัวใจลงไป ทุกวัน แม้แต่สาวิกาที่พิแสงยอมคบหาด้วยเพื่อความสบายใจของแสงสุดายังดูออกว่าพิแสง ไม่มีหัวใจให้ใครอีกแล้วนอกจากเขมมิก สาวิกาจึงขอสละตำแหน่งว่าที่ภรรยามาเป็นน้องสาวอีกคนของพิแสงดีกว่า

          พิสุทธิ์ เตือนแสงสุดาว่าจะยอมทนเห็นลูกอยู่อย่างคนไร้หัวใจหรืออย่างไร ความสุขของลูกคือความสุขของคนเป็นพ่อเป็นแม่ แสงสุดาจึงยอมให้พิแสงทำตามใจตัวเอง แต่พิแสงยังมีทิฐิไม่ยอมออกตามหาเขมมิก จนได้ข่าวว่าเครื่องบินของลำที่เขมมิกเป็นแอร์บนเครื่องเกิดตกในทะเล พิแสงเสียใจแทบคลั่งเพราะคิดว่าเขมมิกตายแล้ว จนเมื่อได้พบกับเนตรนิภา พิแสงจึงได้รู้ความจริงว่าเขมมิกยังมีชีวิตอยู่ พิแสงตามไปที่บ้านของลุทซ์เพราะคิดว่าเขมมิกกำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับลุทซ์ พิแสงใช้วิธีเดียวกับเขมมิกคือพังเค้กงานแต่งหวังล้มงาน โดยหารู้ไม่ว่างานแต่งที่เนตรนิภาหมายถึงคืองานแต่งของพี่สาวลุทซ์ไม่ใช่ของ เขมมิกกับลุทซ์อย่างที่เข้าใจ ฝั่งฟาร์มเพื่อนเกษตร อนงค์ผลักดันให้ วาศินี เข้าหาหมอปริญ แต่หมอปริญรู้ทันหลังตาสว่าง ทำให้อนงค์และวาศินีผิดหวัง และต้องย้ายออกไปจากฟาร์มเพื่อนเกษตร เพราะตำรวจมาเชิญตัว

          พิแสงขอให้เขมมิกกลับมาเป็นนายแม่ของฟาร์มเพื่อนเกษตร จะยกหมูพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ทั้งหมดให้เขมมิกดูแล รวมทั้งพ่อพันธุ์ที่ชื่อพิแสงคนนี้ด้วย เขมมิกเองก็ได้รู้แล้วว่าการล้อเล่นกับความรัก หรือใช้เล่ห์กลโกง มันไม่ทำให้ได้มาซึ่งความรักใด ๆ เลย แต่ความจริงใจและรักแท้ต่างหากที่ทำให้สมหวังในความรักได้

          เขมนิกจึงตกลงรับตำแหน่งนายแม่ของฟาร์มเพื่อนเกษตร และรับพ่อพันธุ์ที่ชื่อพิแสงเอาไว้ในหัวใจ...ตลอดไป ติดตามชมความสนุกสนานได้ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.25 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครแผนร้ายพ่ายรัก เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2556

Read more »

สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายปวรรุจ

ละครออกอากาศ วันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ ช่องที่ออกอากาศ 3 เริ่มออกอากาศ 5 เมษายน 2556
เวลาออกอากาศ 20:15 - 22:15 น. เรื่องย่อ สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายปวรรุจ
คุณชายปวรรุจ (ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ) เป็นเรื่องราวของสิงห์คนที่สอง ม.ร.ว. ปวรรุจ แห่งวังจุฑาเทพ นักการทูตหนุ่มอนาคตไกล ที่ต้องไปทำงานที่กรุงเจนีวา สวิสเซอร์แลนด์ พรหมลิขิตทำให้เขาได้เจอกับ รสา (นิษฐา จิรยั่งยืน) หญิงสาวสวยที่ปิดบังฐานันดรศักดิ์ เพราะยังฝังใจว่าในอดีต ปวรรุจ ได้กลั่นแกล้ง รสา หรือ หม่อมเจ้าหญิงวรรณรสา จนจำฝังใจบนเครื่องบินเนื่องจากรสาจะไปหาคู่หมั้น หม่อมเจ้าภาณุทัศนัย (พศิน เรืองวุฒิ) แต่เมื่อไปถึงเจนีวาแล้วรสากลับพบว่าคู่หมั้นนอกใจ จึงตัดสินใจกับ เอื้อย (รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล) อ้าย (นาระ เอื้อทวีกุล) ว่าจะกลับ แต่เมื่อได้เจอกับคณะปวรรุจอีกครั้งหนึ่ง ทำให้รสาและคณะตัดสินใจอยู่เที่ยวกับ ปวรรุจ, ปกรณ์ (ธนา ฉัตรบริรักษ์) คุณอิ่ม (เขมิกา สุขประสงค์ดี) ที่แอบชอบคุณชายปวรรุจอยู่ จากการเดินทางนี้ทำให้ความรักของ ปวรรุจ และ รสางอกงามขึ้น จนกระทั่ง ปวรรุจจับได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของ รสา คือ หม่อมเจ้าหญิงวรรณสาจึงน้อยใจและประกาศตัดขาดความสัมพันธ์ แต่ รสา ไม่ย่อท้อ พยายามต่อสู้เพื่อความรัก แต่กลับพบว่า ปวรรุจ ก็มีคู่หมั้นคู่หมายคือ หม่อมหลวงกระถิน (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) เรื่องราวความรักของ หม่อมราชวงศ์หนุ่มกับรสาสาวสูงศักดิ์ จะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ใน สุภาพบุรุษจุฑาเทพ คุณชายปวรรุจ



กำกับโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ประพันธ์โดย

ร่มแก้ว
นำแสดงโดย

ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ  ...  หม่อมราชวงศ์ปวรรุจ จุฑาเทพ

นิษฐา จิรยั่งยืน  ...  หม่อมเจ้าหญิงวรรณรสา อรุณรัศมิ์

พศิน เรืองวุฒิ  ...  หม่อมเจ้าภาณุทัศนัย / ชายทัศน์

ธนา ฉัตรบริรักษ์  ...  ปกรณ์

รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล  ...  เอื้อย

นาระ เอื้อทวีกุล  ...  อ้าย

เขมิกา สุขประสงค์ดี  ...  คุณอิ่ม

กฤตภาส ศักดิษฐานนท์  ...  คุณอั๋น


 ...  หม่อมหลวงกระถิน เทวพรหม

Read more »

 
Powered by MBA