อมร กับ นวล ค้าเจริญ เจ้าของร้านบะหมี่ลือชื่อ มีลูกชายหญิง 3 คน คือ
ฟ้ามุ่ย (น้ำฝน), ฟ้าลั่น และฟ้าใส โดยอมรและนวลฝึกลูก ๆ
ทั้งสามให้ช่วยงานในร้านตั้งแต่เล็กจนโต จนกิจการเจริญรุ่งเรือง
พวกเขาขยายร้านและยังทำโรงงานผลิตบะหมี่ขนาดเล็ก ๆ ส่งขายอีกด้วย
โดยให้ฟ้ามุ่ยเป็นคนดูแลกิจการในร้านเป็นหลัก
เธอจึงสมัครใจที่จะเรียนจบแค่ชั้น ม.6
แล้วออกมาช่วยพ่อแม่ทำงานอย่างเต็มตัว เพื่อเสียสละให้น้อง ๆ
ทั้งสองได้เรียนหนังสือกันเต็มที่
ดังนั้นฟ้าลั่นกับฟ้าใสจึงเรียนจบมหาวิทยาลัย
พอจบแล้วฟ้าลั่นก็กลับมาดูแลโรงงาน
ส่วนฟ้าใสนั้นช่วยนวลดูแลด้านบัญชีทั่วไป
ฟาก ชาคริต
(เฟิร์ส) หนุ่มนักเรียนนอก ลูกชายโทนของ คุณหญิงพจนีย์
ซึ่งถูกมารดาบังคับให้คบกับ พิมพ์สิริ
หญิงสาวผู้เพียบพร้อมทั้งฐานะและการศึกษา และที่สำคัญเลยก็คือ
เธอสืบเชื้อสายมาจากผู้ดีเก่าเช่นเดียวกับตระกูลของชาคริตอย่างที่คุณหญิง
พจนีย์ต้องการ คุณหญิงพจนีย์ต้องการให้สาว ๆ
ที่หมายตาชาคริตรู้ว่าชาคริตมีคนรักที่เหมาะสมอยู่แล้ว
จึงบังคับเขาให้พาพิมพ์สิริออกงานสังคม
โดยมีข้อแลกเปลี่ยนกับชาคริตว่าคุณหญิงจะยอมให้เขาไปสอนพิเศษตอนกลางคืน
แต่ตอนกลางวันเขาจะต้องเข้าทำงานเป็นผู้บริหารโรงแรมที่คุณหญิงเป็นเจ้าของ
ทั้ง ๆ ที่ชาคริตไม่ชอบงานบริหารเอาเสียเลย
ชาคริตจึงต้องจำใจยอมไปงานสังคมกับพิมพ์สิริแทบจะรายวัน
ชาคริต
อึดอัดมากเมื่อต้องอยู่ในงานสังคมสวยหรูแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากัน
ขาดความจริงใจต่อกัน ดังนั้นเมื่อพิมพ์สิริเผลอ เขาจึงหลบออกมาจากงาน
โดยได้รับความช่วยเหลือจาก หมอนิธิ เพื่อนสนิทของเขาที่มางานสังคมด้วย
พอออกมาจากงานได้แล้ว
ชาคริตเกิดหิวขึ้นมาจึงแวะเข้ามากินบะหมี่ที่ร้านของอมร
เพราะถึงเขาจะเกิดมาในตระกูลผู้ดีเก่า
แต่ชาคริตก็ชอบชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและสงบ
เมื่อฟ้ามุ่ยเห็นชาคริตก็หลงรักเขาทันที แต่เธอก็ทำได้แค่แอบมองเขา
ส่วนชาคริตไม่ได้สนใจฟ้ามุ่ยเลย นับตั้งแต่ชายหนุ่มในฝันจากไป
ฟ้ามุ่ยก็เศร้าใจมาก นวล ฟ้าลั่น ฟ้าใส และฉัตร ต่างเป็นทุกข์ไปกับฟ้ามุ่ย
แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง
ฟ้าใสจึงออกความคิดให้ฟ้ามุ่ยลองเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันดูบ้าง
เผื่อว่าสักวันที่ฟ้ามุ่ยได้เจอชายในดวงใจจะได้ไม่ต้องแห้วอีก
ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจขออมรไปเรียนต่อเพราะหวังจะเอาวิชาความรู้กลับมาช่วยขยาย
กิจการร้าน อมรยอมให้ฟ้ามุ่ยเรียนได้
เพราะใจจริงเขาก็ต้องการให้ลูกสาวมีการศึกษาไม่น้อยหน้าใครอยู่แล้ว
แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องไปเรียนเมื่อปิดร้านแล้วเท่านั้น
เพื่อไม่ให้งานทางร้านเสียหาย
เพราะฟ้ามุ่ยเป็นตัวหลักของกิจการร้านบะหมี่อยู่
ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจเลือกเรียนภาคค่ำแทนภาคปกติ และที่เรียนภาคค่ำนั่นเอง
ฟ้ามุ่ยก็ได้พบกับชาคริตอีกครั้ง
เพราะชาคริตเป็นอาจารย์พิเศษสอนหนังสือที่นั่น เมื่อได้พบชายในฝันอีกครั้ง
ฟ้ามุ่ยจึงคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ชาคริตสนใจ เธอเริ่มแต่งหน้า
แต่งตัวมากขึ้น โดยมีฟ้าใสและฉัตรคอยช่วยเหลือแนะนำ
จากที่เคยเป็นอีเพิ้ง
ฟ้ามุ่ยก็เริ่มสวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตาจนเป็นที่แปลกใจของอมรมาก
อมรจึงพยายามซักถามฟ้ามุ่ยถึงสาเหตุของการเปลี่ยนรูปแปลงโฉมของลูกสาวใน
ครั้งนี้ แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบ อมรจึงแอบไปจ้างพล
ชายหนุ่มที่เปิดร้ายขายข้าวมันไก่อยู่ข้าง ๆ
ร้านบะหมี่ของอมรให้คอยแอบตามดูพฤติกรรมของฟ้ามุ่ยทุกระยะ
แต่พลเกิดมาหลงรักฟ้าใสเข้า
จึงถูกฟ้าใสชักชวนเข้าเป็นพวกที่คอยให้ความช่วยเหลือให้ฟ้ามุ่ยได้สมหวังใน
รักกับชาคริต
โดยตั้งเงื่อนไขว่าถ้าพลไม่ช่วยกันปิดบังเรื่องฟ้ามุ่ยกับชาคริตแล้ว
ฟ้าใสจะไม่ยอมรับรักพล พลจึงกลายเป็นสายให้พวกฟ้ามุ่ยเสียแทน
ฝ่ายชาคริตเมื่อมาได้สอนหนังสือภาคค่ำให้ฟ้ามุ่ย
เขาก็ได้รู้จักกับเธอมากขึ้น รู้ว่าเธอเป็นคนอ่อนโยนและจริงใจเพียงใด
แล้วเขาก็ตกหลุมรักฟ้ามุ่ยในที่สุด
ฟ้ามุ่ยตื่นเต้นมากที่ชาคริตหันมาสนใจเธอ
แต่เธอก็กลัวว่าถ้าเขารู้ว่าเธอคือสาวร้านขายบะหมี่ที่เขาเคยมองเมินมาแล้ว
เธออาจจะผิดหวังในรักครั้งนี้ก็ได้
ฟ้ามุ่ยจึงหลอกชาคริตว่าเธอเป็นลูกเศรษฐี ชาคริตชวนฟ้ามุ่ยออกเดทหลายครั้ง
ความรักของฟ้ามุ่ยกับชาคริตดูเหมือนจะงอกงามดี
แต่ฟ้ามุ่ยก็ไม่สบายใจเรื่องที่โกหกชาคริตว่าเธอคือใคร
จนเธอเกือบจะหลุดปากบอกวามจริงก็หลายครั้งแต่ก็ไม่กล้าพอ
นวลเห็นลูกสาวมีทุกข์จึงบอกฟ้ามุ่ยว่าก่อนที่ความรักของเธอจะก้าวไปไกลกว่า
นี้ ฟ้ามุ่ยควรจะบอกความจริงกับชาคริตเสีย
เพราะคนเราถ้าคิดจะเป็นคู่ชีวิตกันแล้วก็ควรจะยอมรับตัวตนที่แท้จริงของอีก
ฝ่ายให้ได้ ไม่เช่นนั้นชีวิตคู่ไม่มีทางไปรอด
ฟ้ามุ่ยจึงตัดสินใจบอกความจริงกับชาคริตในวันออกเดทกัน
ว่าเธอคือยายเพิ้งที่ขายบะหมี่ที่ชาคริตเคยมองเมินคนนั้น
และเมื่อได้รู้ความจริงอย่างงี้แล้วชาคริตยังอยากจะคบเธอต่อไปหรือไม่
ชาคริตอึ้งไป
ฟ้ามุ่ยจึงคิดว่าชาคริตผิดหวังเมื่อรู้ความจริงว่าเธอคือใครจึงวิ่งหนีไป
เหล่าพี่น้องและแม่ต้องพากันช่วยปลอบใจฟ้ามุ่ยกันเป็นการใหญ่
แต่อาการของเธอก็ไม่ดีขึ้น วัน ๆ เอาแต่เศร้าซึม ทำบะหมี่ให้ลูกค้า ๆ ผิด ๆ
ถูก ๆ จนถูกลูกค้าต่อว่า ยิ่งทำให้ฟ้ามุ่ยเครียดมากขึ้นไปอีก
ในที่สุดฟ้ามุ่ยก็ตัดสินใจจะย้ายไปเรียนที่อื่นเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอหน้า
ชาคริตให้ช้ำใจอีก
ฝ่ายชาคริตหลังจากหายตกใจแล้วก็พยายามจะตามหาฟ้ามุ่ยเพื่อปรับความเข้าใจ
แต่กลับพบ
ว่าฟ้ามุ่ยย้ายไปเรียนที่อื่นเสียแล้ว ชาคริตก็เศร้าใจมาก
แต่ก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
เขาจึงตัดสินใจแอบค้นที่อยู่ของฟ้ามุ่ยจากใบสมัครเข้าเรียนจนรู้ว่าฟ้ามุ่ย
อยู่ที่ไหน แล้วแอบไปดักเจอฟ้ามุ่ยที่หน้าบ้าน
ฟ้าลั่นกับพลเห็นชาคริตมาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่แถวบ้านก็คิดว่าเป็นโจร
จึงช่วยกันรุมซ้อมชาคริต แต่ฟ้ามุ่ยกลับมาเจอจึงห้ามไว้
ฟ้ามุ่ยตกใจมากที่เห็นว่าคนที่ถูกรุมซ้อมจนสะบักสะบอมนั้นคือชาคริตจนทำอะไร
ไม่ถูก ชาคริตจึงรีบบอกว่าเขาไม่ได้นึกรังเกียจลูกร้านขายบะหมี่อย่างเธอเลย
แต่วันนั้นที่เขาเงียบไปหลังจากรู้ความจริงว่าฟ้ามุ่ยคือใครแล้วนั่นก็เป็น
เพราะว่าเขาโกรธตัวเองที่มองผ่านเลยผู้หญิงดี ๆ อย่างฟ้ามุ่ยไปได้
และชาคริตขอโอกาสให้เขาได้กับมาคบกับฟ้ามุ่ยอีกสักครั้ง ฟ้ามุ่ยอึ้งไป
ชาคริตเลยคิดว่าฟ้ามุ่ยยังโกรธเขาอยู่
จึงตัดสินใจพิสูจน์รักแท้ของเขาด้วยการขอฟ้ามุ่ยแต่งงาน !
ฟ้ามุ่ยตกใจมาก! เพราะรู้ว่าพ่อของเธอไม่ชอบลูกคนรวยอย่างชาคริต
แต่ชาคริตไม่หวั่น เขากลับบอกฟ้ามุ่ยว่าเมื่อเขารักแล้ว
เขาจะไม่ยอมเปลี่ยนใจเป็นอันขาด
และเขาจะต้องเอาชนะใจว่าที่พ่อตาของเขาให้ได้ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายามสัก
แค่ไหนก็ตาม ฟ้ามุ่ย นวล ฟ้าลั่น ฉัตร ฟ้าใส
และพลจึงช่วยกันออกอุบายให้ชาคริตปลอมตัวเป็น "ชาติ"
หนุ่มกำพร้าเข้าไปเป็นคนงานในโรงงานบะหมี่ของอมร
ยอมทำงานใช้แรงงานอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อน ชาคริต ตอบตกลง
Read more »