วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เพื่อนแพง





พุทธศักราช 2476 นาข้าวชูรวงทองเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่งบ้านสร้าง อำเภอหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี เสียงควบขี่ไอ้เปลี่ยว ควายคู่ใจของ ไอ้ลอ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ชายหนุ่มกำยำหล่อเหลาคมเข้ม ห้อตะบึงสนุกสนานหยอกล้อชาวบ้านมาแต่ไกล สร้างความหวาดเสียวกลัวไอ้ลอจะตกจากหลังควายมาพิกลพิการให้เดือดร้อน นังเพื่อน (จีรนันท์ มะโนแจ่ม) สาวคนรักของไอ้ลอที่กำลังเกี่ยวข้าวอยู่ในนา จนร้องตกอกตกใจ ผิดกับ นังแพง (ฝนทิพย์ วัชรตระกูล) น้องสาวของนังเพื่อนที่หัวเราะชอบอกชอบใจ นึกสนุกวิ่งไล่ตามพี่ลอไปจนพักเหนื่อยกันที่ลำกระโดง นังแพงกลัวพี่ลอที่ดูแลมันมาตั้งแต่เด็กจะหิวและเหนื่อยจากหน้าที่การงานในนา มันจึงเตรียมข้าวเหนียวมาเผื่อพี่ลอและคะยั้นคะยอให้กินขนมจากฝีมือที่ไม่ได้เรื่องของมัน ไอ้ลอรักนังแพงเหมือนน้องสาวเมื่อมันเต็มใจทำมาให้จึงมีหรือที่ไอ้ลอจะปฏิเสธ แม้รสชาติจะไม่ได้เรื่องก็ฝืนกินไปและต้องทนจุกท้องอิ่มๆ กลับไปกินแกงเนื้อรสอร่อยฝีมือของนังเพื่อนที่เตรียมสำรับไว้รอพี่ลอเช่นกัน นังแพงเป็นเด็กสาวในวัยแรกรุ่นเหมือนข้าวอ่อนเพิ่งแตกรวง แม้หน้าตาจะสะสวยแต่นิสัยของมันก็ต่างจากพี่สาวกันคนละหน้ามือ เพราะนังเพื่อนเป็นสาวสวยสะพรั่ง กิริยามารยาทเรียบร้อย การบ้านการเรือนก็เป็นที่หนึ่งในทุ่งบ้านสร้าง ความสวยของนังเพื่อนเป็นที่เลื่องลือว่ามันมาอยู่ผิดที่ผิดทางไม่เหมาะกับท้องทุ่งกลิ่นโคลนสาปควายของทุ่งบ้านสร้าง แต่นังเพื่อนก็ไม่เคยสนใจคำยกยอปอปั้นจากทั้งหนุ่มทั้งแก่ที่มารุมตอม โดยเฉพาะกับ ไอ้วีระ (กฤษฎา สุภาพพร้อม) ลูกชายของ คุณประจวบ (ศตวรรษ ดุลยวิจิตร) เศรษฐีเจ้าของโรงสีและท่าข้าวในจังหวัด ที่พยายามมาติดพันนังเพื่อน หวังอยากได้เป็นเมีย แต่นางเพื่อนก็ไม่เคยแยแสชายตามองไอ้วีระ เพราะรู้สันดานความเป็นนักเลงชอบข่มเหงรังแกคนจนของมัน และที่สำคัญหัวใจของนังแพงก็มีให้พี่ลอตั้งแต่ 10 ปีก่อนที่พี่ลอย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านสร้างและได้กลายมาเป็นคนในครอบครัวเดียวกับมัน

10 ปีก่อนในคืนที่ฝนฟ้าตกกระหน่ำ อาการป่วยด้วยไข้ป่าได้พรากเอาชีวิตแม่ของนังเพื่อนกับนังแพงไป ทั้งๆ ที่ทั้งสองยังอยู่ในวัยเยาว์ พิศ (ธนายง ว่องตระกูล) ผู้เป็นพ่อก็เอาแต่เศร้าโศกเสียใจหันหน้าไปพึ่งเหล้า นังเพื่อน (ณพัศพร บุญธรรมรัตน) ซึ่งยังไม่เต็ม 10 ขวบดีนัก ต้องแบกรับหน้าที่ดูแล นังแพง (ชนัญญา เลิศวัฒนามงคล) ที่อายุเพียง 5 ขวบ หลายครั้งที่ต้องไปพาพ่อกลับมาจากเถียงนาในสภาพเมามายไม่ได้สติ หลายครั้งที่ต้องลุกขึ้นมากลางดึกอดหลับอดนอนเพราะเสียงร้องไห้ตกใจกลัวเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าของนังแพง จนกระทั่ง เสือเทิด (วินัย ไกรบุตร) เพื่อนสนิทของพิศ พา ไอ้ลอ (ริชาร์ด เกียร์นี่) ลูกชายวัย 10 ขวบมาขออาศัยอยู่ด้วย เหตุเพราะเสือเทิดเป็นโจรมีคดีติดตัวจากทางเมืองเหนือ หนีการตามล่าจากทางราชการกลับมาอาศัยที่ทุ่งบ้านสร้างที่ๆ มันเคยอยู่ก่อนจะหนีไปเป็นโจร ไอ้ลอไม่เคยรู้ว่าพ่อตัวเองเป็นโจร มันรู้แต่เพียงว่าพ่อ ของมันเป็นพ่อค้าเร่ขายของ นานๆ ถึงจะพาลูกน้องแวะไปหามันที่วัดในเมืองเหนือ เพราะตั้งแต่เล็กไอ้ลอได้บวชเรียนอยู่ในวัด และได้ฝึกฝีมือทางเชิงมวยเชิงดาบจากพวกลูกน้องพ่อเวลาที่มาเยี่ยมมัน ไอ้ลอเลยเป็นเด็กมีฝีมือพอตัวและจิตใจงาม ชอบช่วยเหลือผู้คนตามคำสั่งสอนของหลวงพ่อที่เคยอบรมสั่งสอนมันมา ยิ่งเมื่อไอ้ลอได้มาอยู่ร่วมชายคาของอา พิศในฐานะผู้อาศัยมันจึงตั้งใจขยันขันแข็งอาสาช่วยอาพิศทำงานในนาที่ถูกทิ้งให้รกร้าง และที่สำคัญไอ้ลอสงสารนังแพงที่ขาดแม่และไม่มีคนช่วยเลี้ยงดู ไอ้ลอจึงรักนังแพงเหมือนน้องสาวตัวเองจริงๆ มันคอยเอาใจและตามใจจนนังแพงติดพี่ลอแจ ไม่ว่าลอจะทำอะไรอยู่ที่ไหนนังแพงจะต้องร้องหาพี่ลอของมันเสมอ แต่ไอ้ลอก็ไม่เคยบ่นเบื่อนังแพงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในขณะที่นังเพื่อนซึ่งวัยอ่อนกว่าไอ้ลอเพียงแค่ปีเดียว แรกๆ ที่ไอ้ลอมาอาศัยอยู่ด้วยนังเพื่อนก็ไม่ชอบหน้าเท่าไร เพราะเห็นพ่อรักพี่ลอที่เป็นเด็กผู้ชาย คอยช่วยเหลือทำงานได้ดีกว่าเธอที่เป็นเพียงเด็กผู้หญิง จนหลายครั้งที่นังเพื่อนหาเรื่องไล่ไอ้ลอให้ออกไปจากบ้านสร้างเพราะน้อยใจพ่อ แต่สุดท้ายความมีน้ำใจและเป็นสุภาพบุรุษของไอ้ลอก็เอาชนะใจนังเพื่อน จนทำให้ความเกลียดชังเหม็นขี้หน้ากลายเป็นความรักที่นังเพื่อนมีให้ไอ้ลอจนหมดหัวใจ

แต่ในเพียงเวลาไม่นานที่ไอ้ลอมาอาศัยอยู่บ้างสร้าง ทางราชการก็ตามสืบจนได้เบาะแสของเสือเทิดและบุกเข้ามาจับกุม เสือเทิดพยายามต่อสู้เพื่อปกป้องลูกชายที่ถูกเข้าใจผิดข้อหาขโมยของ จนในที่สุดเสือเทิดก็ถูกยิงตาย สมบัติชิ้นเดียวที่เสือเทิดเหลือให้ไอ้ลอดูต่างหน้าก็คือ สร้อยพระที่คล้องคอเสือเทิดตลอดเวลา และคำขอโทษที่โกหกลูกว่าตัวเองไม่ได้เป็นโจร สิ้นคำสุดท้ายของเสือเชิดมันขอให้ลูกชายสัญญาว่ามันจะเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษยึดมั่นคำสัญญา และช่วยดูแลครอบครัวของอาพิศเหมือนเป็นลูกชายคนหนึ่ง ซึ่งไอ้ลอก็รับปากเป็นมั่นด้วยชีวิต ตั้งแต่นั้นมาเมื่อไอ้ลอโตเป็นหนุ่มวัยกำยำ หน้าที่ของมันคือการทำงานในไร่ในนาให้กับอาพิศผู้มีพระคุณช่วยชุบเลี้ยงมัน และที่สำคัญเพราะความรักที่มีต่อนังเพื่อน ไอ้ลอจึงต้องคอยเฝ้าดูแลไม่ให้ไอ้วีระมาเกาะแกะ จนกระทั่งหมดหน้าเกี่ยวข้าวในงานวัดประจำปีที่ สมภารบุญ (กรุง ศรีวิไล) พระผู้ใหญ่ของทุ่งบ้านสร้างจัดขึ้นเพื่อหาเงินมาบูรณะโบสถ์หลังเก่า ไอ้เรือง (ภูษณะ บัวงาม) ลูกชายของ ครูแสง (ปิยะ ตระกูลราษฎร์) ครูปี่พาทย์ฝีมือดีของทุ่งบ้านสร้างเตรียมจัดแสดงมหรสพทั้งวงปี่พาทย์และหนังใหญ่ เพื่อช่วยกันหาเงินมาบูรณะโบสถ์ ไอ้เรืองนั้นแอบชอบพอนังแพงมาตั้งแต่เล็กๆ และรู้ว่านังแพงชอบร้องรำทำเพลงจากไอ้ลอซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับมัน มันจึงใช้โอกาสนี้เป็นโอกาสดีที่จะฝึกซ้อม เชิดหนังใหญ่หวังให้นังแพงประทับใจทั้งๆ ที่มันไม่เคยคิดจะสืบทอดมรดกของพ่อเลย ส่วนไอ้ลอเองก็ตั้งใจขึ้นเวทีชกมวยแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยที่ฝึกฝนมาจาก ผู้ใหญ่ผาด (สามารถ พยัคฆ์อรุณ) ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านประจำทุ่งบ้านสร้างและเป็นเจ้าของโรงฝึกซ้อมมวยไทยเล็กๆ เพราะผู้ใหญ่ผาดเคยเป็นครูมวยมาก่อน โดยมี ไอ้ก้อน (อติรุจ สิงหอำพล) เพื่อนสนิทซึ่งเป็นลูกชายของผู้ใหญ่ผาดเป็นคู่ซ้อมและขึ้นเวทีมวยกับไอ้ลอ ส่วนนังเพื่อนตั้งใจขึ้นเวทีเป็นนางรำคู่กับ พี่แรม ลูกสาวคนสวยของครูแสงที่เพิ่งย้ายมาจากบางกอก เพื่อนสนิทสนมกับพี่แรมมากเพราะพี่แรมเป็นสาวสวยแต่งตัวแต่งหน้าอย่างคนบางกอก และชอบเอาเรื่องความศิวิไลซ์ในบางกอกมาเล่าให้เพื่อนตื่นเต้นเสมอๆ โดยที่เพื่อนหารู้ไม่ว่าแรมนั้นเคยติดการพนันจนต้องหนีกลับมาอยู่ที่ทุ่งบ้านสร้าง ไม่ได้มีชีวิตสวยสดงดงามอย่างที่คุยฟุ้งให้เพื่อนฟัง และเก็บไปฝันว่าสักวันจะต้องมีชีวิตหรูหราแบบนั้นบ้าง

ในคืนนั้นงานวัดดำเนินไปอย่างสนุกสนาน หากทว่าเมื่อไอ้วีระมาถึงพร้อมกับพรรคพวกของมัน ไอ้วีระก็มาสร้างความวุ่นวายปั่นป่วน เพราะเป้าหมายของไอ้วีระอยู่ที่นังเพื่อน ไอ้วีระพยายามมาเกี้ยวและชักชวนนังเพื่อนออกไปจากงานวัด เมื่อนังเพื่อนปฏิเสธและมีเรื่องกับไอ้วีระ ไอ้ลอจึงต้องเข้ามาขวางและเกิดการลงไม้ลงมือกัน ร้อนถึงสมภารบุญกับผู้ใหญ่ผาดต้องเข้ามาห้ามปราม แต่คนอย่างไอ้วีระมีหรือจะยอม ไอ้วีระป่าวประกาศโน้มน้าวชาวบ้านหลายๆ คนไม่ให้ไว้ใจไอ้ลอ โดยเอาเรื่องในอดีตที่พ่อไอ้ลอเคยเป็นเสือและถูกฆ่าตายที่ทุ่งบ้านสร้าง และเรื่องที่ไอ้ลอเคยไปขโมยของตอนเด็กๆ มาชี้นำให้ชาวบ้านเห็นว่าคนอย่างไอ้ลอมันก็ลูกเสือลูกจระเข้ ยังไงไอ้ลอก็ต้องเป็นโจรเหมือนพ่อมัน ขอให้ชาวบ้านระวังตัวเอาไว้ ไอ้ลอเจ็บใจจะเอาเรื่องแต่ก็ถูกทุกคนห้ามไว้ ขอให้ไอ้ลอนึกถึงคำมั่นสัญญาที่เคยสาบานเอาไว้กับพ่อและสร้อยพระของพ่อว่าจะเป็นคนดี ตั้งแต่นั้นเมื่อไอ้วีระเห็นไอ้ลอไม่กล้าทำอะไรก็ยิ่งได้ใจ คิดว่าไอ้ลอกลัวอิทธิพลของมันที่มีเงินของพ่อคุ้มกะลาหัว ไอ้วีระก็เริ่มได้ใจวางแผนคิดจะฉุดนังเพื่อนมาทำเมีย เพราะทนไม่ไหวที่นังเพื่อนมาดูถูกดูแคลน แต่แผนการฉุดก็รั่วไปถึงนังเพื่อนโดยผ่าน นังแก้ว (อธิชนันท์ ศรีเสวก) เพื่อนสนิทของนังแพง นังแพงไม่คิดจะไปบอกพี่ลอให้จัดการเพราะกลัวว่าถ้าพี่ลอรู้คงต้องโกรธและมีเรื่องใหญ่โตกับไอ้วีระ จนเป็นเหตุให้มันเอามาเล่นงานพี่ลอได้ งานนี้นังแพงจึงคิดจะเล่นงานตลบหลังไอ้วีระให้แสบสันต์ นังแพงจึงไปชวน ไอ้ด้วง (กิ๊ฟ ชวนชื่น) เด็กวัดโข่งลูกศิษย์สมภารบุญ ซึ่งเป็นลูกสมุนให้ไปล่มเรือของไอ้วีระ แต่เรื่องราวกลับไปกันใหญ่เมื่อไอ้เรืองมารู้แผนการของนังแพง ไอ้เรืองแอบรักนังแพงอยู่และเป็นห่วงเป็นใยจึงตามไปช่วย แต่กลับทำให้ไอ้วีระจับตัวไอ้เรืองได้ ส่วนไอ้วีระก็ตามไปฉุดนังเพื่อนมาได้แต่ยังไม่ทันจะพานังเพื่อนออกไปจากทุ่งบ้านสร้าง ความก็แตกไปถึงไอ้ลอจนตามไปช่วยนังเพื่อนและสู้กับไอ้วีระจนเล่นงานมันบาดเจ็บสาหัสกระเซอะกระเซิงหนีกลับไป ไอ้ลอเองก็บาดเจ็บไปไม่น้อยโชคดีที่มีไอ้ด้วงมาช่วย ไม่งั้นก็คงตายคาดาบของไอ้วีระไปแล้ว

นังแพงรู้สึกผิดและเป็นห่วงพี่ลอจึงพยายามจะหาโอกาสไปช่วยพี่ลอรักษาตัว แต่ก็ถูกพี่สาวต่อว่าเพราะแทนที่รู้เรื่องแล้วจะไปปรึกษาผู้ใหญ่ แต่นังแพงกลับทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงไปกว่าเดิม เพราะพี่ลอไปเล่นงานไอ้วีระจนบาดเจ็บถ้ามันเอาตำรวจมาลากคอพี่ลอเข้าคุกแล้วจะทำยังไง ไอ้ลอปรามนังเพื่อนไม่ให้ต่อว่านังแพงเพราะเห็นว่ามันเป็นเด็กไม่รู้จักคิดหน้าคิดหลังให้ดี แต่นังเพื่อนก็ต่อว่าพี่ลอที่คอยให้ท้ายมันตลอด เอะอะอะไรก็นังแพง นังเพื่อนพูดแค่นั้นก็น้ำตารื้นน้อยใจ ไอ้ลอรักนางเพื่อนมากจึงต้องตามไปง้อและบอกรักนังเพื่อนสุดหัวใจ ไม่มีใครมาแทนที่นังเพื่อนได้ ชีวิตนี้ถ้าไอ้ลอจะตายก็ขอตายเพื่อนังเพื่อนคนเดียว นังแพงไปเห็นพี่ลอบอกรักพี่สาวก็รู้สึกเจ็บปวดเสียใจ เพราะความรู้สึกที่มันมีให้พี่ลอไม่ใช่อย่างน้องสาว แต่มันชอบพี่ลออย่างที่พี่เพื่อนรักพี่ลอ หลังจากเหตุการณ์คราวนั้นพอไอ้วีระฟื้นได้สติก็ให้พ่อพาตำรวจมาจับไอ้ลอข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่อาพิศกับผู้ใหญ่ผาดก็ย้อนเล่นงานไอ้วีระกลับไปเรื่องที่มันฉุดนังเพื่อน ถ้าจะ เอาไอ้ลอเข้าคุกเข้าตะรางไอ้วีระก็ต้องรับโทษของมันเหมือนกัน เจอแบบนี้เข้าไอ้วีระก็เจ็บใจ คุณประจวบไม่อยากให้เรื่องฉาวโฉ่จึงยอมพาไอ้วีระกลับ แต่ไอ้วีระก็ยังแค้นฝังใจชี้หน้าว่าเรื่องนี้ต้องไม่จบ อาพิศรู้สึกเป็นห่วงทั้งไอ้ลอและนังเพื่อนจึงเรียกไอ้ลอมาปรึกษาเรื่องที่จะให้ไอ้ลอกับนังเพื่อนหมั้นหมายกันให้เป็นเรื่องเป็นราว นังเพื่อนจะได้มีเจ้าข้าวเจ้าของ ไอ้วีระจะได้เลิกตามมาตอแยซะที ไอ้ลอตอบตกลงด้วยความดีใจ ส่วนนังเพื่อนก็ยิ้มรับเช่นกันเพราะคนทั้งทุ่งบ้านสร้างก็รู้กันอยู่ว่าไอ้ลอกับนังเพื่อนนั้นเหมาะสมกัน อายุอานามก็ได้วัยที่จะต้องร่วมหอลงโรง เพียงแต่ที่ยังไม่จัดงานแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราวเพราะต้องรอให้หมดหน้าทำนานี้ซะก่อน

งานหมั้นหมายของไอ้ลอกับนังเพื่อนจัดขึ้นไม่เอิกเกริกมาก แต่ก็พอเป็นหน้าเป็นตาให้อาพิศได้ ทุกคนรู้สึกยินดีมีความสุขไปกับไอ้ลอกับนังเพื่อน ยกเว้นก็แต่นังแพงที่แอบไปปาดน้ำตาเสียใจอยู่คนเดียว จากนี้ไปมันก็คงได้แต่คอยดูแลพี่ลออยู่ห่างๆ เพราะพี่ลอมีพี่เพื่อนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแล้ว ทุกๆ วันที่นังแพงต้องทนเห็นพี่ลอกับพี่เพื่อนใกล้ชิดกัน แอบไปกอดไปหอมไปจูบกันที่หลังกองฟางตามประสาคู่หมั้นคู่หมาย นังแพงเห็นเข้าก็แกล้งไปขัดจังหวะหยอกเย้าไม่ให้ภาพมันบาดตาบาดใจมันเกินไป หลายครั้งก็โดนพี่ลอกับพี่เพื่อนดุด่าที่ชอบมาสาระแนขัดจังหวะ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่านังแพงต้องแอบนอนร้องไห้อยู่บ่อยๆ จนมันคิดจะไปจากทุ่งบ้านสร้างไม่อยากอยู่ทนเห็นภาพบาดใจนี้อีก และโอกาสนั้นก็มาถึงเมื่อสมภารบุญเห็นแววฉลาดของนังแพงในระหว่างที่มันมาเรียนหนังสือที่วัด แม้นิสัยมันจะแก่นกวนเป็นม้าดีดกะโหลกแต่มันก็เป็นคนเรียนรู้ไว จนสมภารไม่อยากให้มันมาทำไร่ทำนาอยู่ที่ทุ่งบ้านสร้าง เลยคิดจะส่งเสียให้มันไปเรียนในบางกอกพร้อมกับไอ้เรืองที่หัวดีพอๆ กัน ตอนแรกนังแพงตอบรับคำแนะนำของสมภารแต่ขอให้เก็บไว้อย่าเพิ่งบอกให้ใครรู้ จนเมื่อถึงวันที่นังแพงจะต้องบอกเรื่องนี้ให้พี่ลอกับพ่อและพี่เพื่อนรู้ว่ามันต้องไปบางกอกเพื่อเรียนหนังสือ แต่ในระหว่างนั้นเองได้เกิดเหตุชาวบ้านทุ่งบ้านสร้างถูกโจรปล้นควายบุกเข้ามาเล่นงานฆ่าตายไปหลายคน และไม่มีใครเห็นหน้าค่าตาของไอ้โจรปล้นควาย ผู้ใหญ่ผาดกับไอ้ลอเห็นว่าถ้าปล่อยเอาไว้แบบนี้คงต้องเดือดร้อนกันทั้งทุ่งบ้านสร้าง ไอ้ลอกับไอ้ก้อนจึงอาสาคอยลาดตระเวณช่วยเหลือชาวบ้านเฝ้าฝูงควายและได้เจอกับพวกโจรปล้นควายจนเกิดการต่อสู้กัน นังแพงเป็นห่วงพี่ลอที่หายไปทั้งคืนจึงตามไปดู แล้วเห็นพี่ลอกำลังจะถูกหัวหน้าโจรปล้นควายเล่นงาน นังแพงเอาตัวเข้าไปรับคมดาบจนบาดเจ็บ โจรปล้นควายกับพวกหนีไปได้ แต่ไอ้ลอได้เห็นหน้าของมันเพราะนังแพงไปดึงผ้าปิดหน้ามัน ออกมา ไอ้ลอจำได้ว่าโจรปล้นควายนั่นคือ เสือมิ่ง (เวนย์ ฟอลโคเนอร์) ลูกน้องเก่าของพ่อที่เคยฝึกเชิงดาบเชิง มวยให้ไอ้ลอมาตั้งแต่เด็กๆ นั่นเอง

การที่เสือมิ่งมาปรากฏตัวที่ทุ่งบ้านสร้างไม่ใช่เพราะเรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะไอ้วีระนั่นเองที่อยู่เบื้องหลัง ไอ้วีระรู้เรื่องอดีตของเสือเทิดพ่อของไอ้ลอจนมันได้ไปเจอกับเสือมิ่งที่กำลังกลายเป็นเสือลำบาก มันจึงยื่นข้อเสนอให้เสือมิ่งสมัครพรรคพวกไปปล้นที่ทุ่งบ้านสร้าง หวังให้ทุกคนที่นั่นเข้าใจผิดว่าไอ้ลอมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เพราะเสือมิ่งเป็นเพื่อนกับพ่อไอ้ลอ นังแพงบาดเจ็บจากแผลถูกฟันต้องนอนรักษาตัวอาการน่าเป็นห่วง แต่นังแพงกลับไม่กลัวเจ็บกลัวตาย นังแพงเอาแต่ห่วงพี่ลอเรื่องที่เริ่มมีชาวบ้านพูดกันตามแผนที่ไอ้วีระวางไว้ว่าเสือมิ่งที่มาเที่ยวปล้นควายฆ่าชาวบ้านทุ่งบ้านสร้างรู้จักมักจี่สนิทสนมกับไอ้ลอ และกลายเป็นว่าไอ้ลอคือคนที่ชักนำให้เสือมิ่งเข้ามาปล้น นังแพงพยายามฝืนร่างกายที่ยังเจ็บบอกชาวบ้านว่าพี่ลอถูกใส่ความ จนตัวเองล้มหมอนนอนเสื่อและตัดสินใจปฏิเสธเรื่องไปเรียนที่บางกอกของสมภารบุญ นี่เองเลยทำให้ไอ้เรืองรู้ว่านังแพงรักไอ้ลอมากกว่าชีวิตของมันเอง แม้ไอ้เรืองจะขอร้องนังแพงให้เลิกทำแบบนี้ แต่นังแพงก็ยังยืนยันว่าชีวิตมันเป็นของพี่ลอไปแล้วตั้งแต่พี่ลอเลี้ยงดูมันมา ต่อให้พี่ลอไม่รักมันเหมือนอย่างที่พี่ลอรักพี่เพื่อน มันก็จะขอรักพี่ลอไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แผนการของไอ้วีระที่จะกำจัดไอ้ลอเกือบจะสำเร็จ เมื่อมีคนไปเห็นไอ้ลอไปพบกับเสือมิ่งแล้วเอามาพูดกันปากต่อปาก ไอ้ลอไม่ปฏิเสธว่ามันไปเจอเสือมิ่งมาจริงๆ แต่เป็นการไปยื่นคำขาดเพื่อขอร้องให้เสือมิ่งหยุดเล่นงานชาวทุ่งบ้านสร้าง และยอมมอบตัวกับตำรวจ แต่เสือมิ่งปฏิเสธเพราะฉะนั้นทางสุดท้ายที่ไอ้ลอต้องตัดสินใจคือการจัดการกับเสือมิ่ง ญาติผู้ใหญ่ที่มันเคยให้ความเคารพ และพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าคนอย่างไอ้ลอไม่ใช่ลูกเสือลูกจระเข้ที่จะเดินทางซ้ำรอยพ่อมันเด็ดขาด งานนี้ไอ้วีระเลยเจ็บใจที่ทำยังไงก็กำจัดไอ้ลอไม่ได้ซะที ไอ้วีระเลยส่งคนของตัวเองมาสมทบกับเสือมิ่งเพื่อจัดการฆ่าไอ้ลอให้ตายๆ ไปซะ แต่ไอ้ลอก็ผ่านพ้นคมดาบของเสือมิ่ง และช่วยตำรวจจัดการลากคอเสือมิ่งเข้าคุก พร้อมกับการซัดทอดไปถึงผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังก็คือไอ้วีระ คราวนี้อิทธิพลของคุณประจวบก็ช่วยมันไม่ได้ ไอ้วีระกลัวถูกจับเลยต้องหนีหายหน้าไปจากทุ่งบ้านสร้างโดยไม่มีใครรู้ว่ามันหนีหายไปไหน

ผลงานช่วยจัดการกับเสือมิ่งของไอ้ลอทำให้มันเป็นที่ชื่นชมของชาวบ้าน และเลิกอคติเรื่องที่ไอ้ลอเป็นลูกเสือลูกจระเข้ แต่ไอ้ลอรู้สึกว่าคนที่ช่วยปกป้องชีวิตมันก็คือนังแพง ไอ้ลอจึงอยากขอบใจมันและไปรู้มาด้วยว่านังแพงเปลี่ยนใจไม่ไปเรียนในบางกอกก็เพราะเป็นห่วงมัน ไอ้ลอจึงไปพูดให้นังแพงกลับไปเรียนอีกครั้งเพื่ออนาคต แต่นังแพงยืนยันว่ามันจะอยู่ที่ทุ่งบ้านสร้างคอยช่วยพี่เพื่อนเลี้ยงลูก คอยอยู่ดูแลพ่อดีกว่า ซึ่งนังแพงก็ยินดีที่หน้าทำนาใกล้จะหมดแล้วพี่ลอจะได้แต่งงานกับพี่เพื่อนซะที แต่ทว่าก่อนหน้าจะถึงฤกษ์แต่งงานไอ้ลอเกิดล้มป่วยด้วยไข้ป่าจนอาการน่าเป็นห่วง ความดื้อของไอ้ลอที่ไม่ยอมกินยาฝรั่งทำให้อาการของไอ้ลอทรุดหนักลงไปมาก ระหว่างนั้นเองอา โฉมฉาย (พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์) น้องสาวของพิศซึ่งไปแต่งงานกับเศรษฐีมีฐานะดีอยู่ในบางกอก ได้เดินทางมาร่วมงานแต่งของนังเพื่อนหลานสาว แต่เพราะไอ้ลอป่วยจนเจียนตาย โฉมฉายจึงอาสาเป็นธุระพาไอ้ลอเข้าบางกอกไปให้หมอฝรั่งรักษา โดยมีนังเพื่อนตามไปดูแลคู่หมั้น ส่วนนังแพงถูกสั่งให้อยู่ทุ่งบ้านสร้างกับพ่อ แต่เพราะความเป็นห่วงอยากไปช่วยดูแลพี่ลอที่มันรัก นังแพงจึงเอาเรื่องเรียนหนังสือมาอ้างกับอาโฉมฉาย เพราะเห็นว่าอาชอบสนับสนุนคนได้มีความรู้ นังแพงจึงได้ตามไปดูแลพี่ลอที่บางกอกด้วย

เมื่อมาถึงบางกอกไอ้ลอโชคดีที่อาโฉมฉายรู้จักหมอเก่งๆ ช่วยพามารักษาไอ้ลอจนอาการมันพ้นขีดอันตราย เพียงแต่ไอ้ลอต้องพักฟื้นอีกนานกว่าที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ในระหว่างนี้เองอาโฉมฉายเลยให้นังแพงไปเรียนหนังสือที่คอนแวนต์ใกล้ๆ กับบ้าน ส่วนนังเพื่อนด้วยความที่เคยได้ยินเรื่องราวของบางกอกมาจากพี่แรมอย่างเดียวมาตลอด เมื่อมาได้เห็นความศิวิไลซ์เองกับตาก็ตื่นเต้นและอยากไปสัมผัสชีวิตสังคมคนมีเงินด้วยตัวเอง ซึ่งในช่วงเวลานั้นเพิ่งจะเป็นช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และคำสั่งของคณะราษฏ์ที่อยากให้ประเทศพัฒนาอย่างฝรั่ง ก็ทำให้สังคมชนชั้นสูงเต็มไปด้วยความหรูหราฟุ่มเฟือย จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้นังเพื่อนได้รู้จักกับ คุณมานพ (แอนดรู กรเศก โคร์นิน) ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ เจ้าคุณรัตน์ (พลรัตน์ รอดรักษา) ซึ่งเพิ่งเรียนจบทางด้านกฏหมายมาจากสิงคโปร์ มานพเป็นหนุ่มสังคมหน้าตาหล่อจนเป็นที่หมายปองของสาวๆ ในบางกอกจนแทบจะแย่งชิงตบตีกัน แต่มานพกลับสนใจความใหม่ สด และใสซื่อของนังเพื่อน ซึ่งเวลานี้มันได้แต่งตัวสวยๆ เพราะฝีมือการปรุงแต่งของอาโฉมฉาย ผู้หญิงอย่างเพื่อนทำให้มานพรู้สึกว่าต้องได้มาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แม้จะรู้ว่าเพื่อนมีเจ้าลอเป็นคู่หมั้นคู่หมายอยู่ แต่มานพก็ไม่ได้สนใจเพราะรู้ดีว่าเงินของเขาจะทำให้เพื่อนทิ้งไอ้ลอได้อย่างไม่ยากเย็น ความเปลี่ยนแปลงของพี่สาวที่ถูกผู้ชายบางกอกปรนเปรอด้วยของหรูหราราคาแพงและเริ่มไม่สนใจมาดูแลพี่ลอ เอาแต่ออกไปเที่ยวกับคุณมานพ ทำให้นังแพงรู้สึกไม่พอใจ ในทุกๆ วัน นังแพงจะต้องแอบหนีออกมาจากโรงเรียนคอนแวนต์เพราะมันเป็นห่วงพี่ลอ มันคอยมาเฝ้าดูแลจนอาการพี่ลอดีขึ้นลุกขึ้นได้ เวลาพี่ลอถามหานังเพื่อนนังแพงก็ต้องหาเรื่องโกหก เพราะไม่อยากให้พี่ลอเสียใจ พอสบโอกาสได้คุยกับพี่สาวและเตือนให้อยู่ดูพี่ลอบ้าง นังแพงก็ถูกพี่สาวต่อว่าที่มาจุ้นจ้านและขู่จะเอาเรื่องที่นังแพงแอบหนีเรียนไปฟ้องอาโฉมฉาย นังแพงเลยต้องปิดปากเงียบทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก้มหน้าก้มตาช่วยดูแลพี่ลอไป จนกระทั่งเมื่อไอ้ลอหายดีและตั้งใจตอบแทนบุญคุณอาโฉมฉายด้วยไปช่วยทำงานที่ท่าข้าวของอาโฉมฉาย ไอ้ลอตั้งใจจะเก็บเงินจากการทำงานเพื่อซื้อแหวนสวยๆ สักวงให้นังเพื่อนไว้สำหรับกลับไปแต่งงานที่ทุ่งบ้านสร้าง โดยไอ้ลอหารู้ไม่ว่าข้ออ้างที่นังเพื่อนบอกไอ้ลอว่าต้องขึ้นไปอยู่บนตึกเพื่อดูแลอาโฉมฉายที่ป่วยไม่ค่อยสบายนั้น นังเพื่อนอ้างเพื่อไม่อยากให้ไอ้ลอมาเห็นตัวเองใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณมานพมากกว่า เพราะเวลานี้นังเพื่อนเริ่มมีใจให้คุณมานพมากกว่าที่มีให้ไอ้ลอซะแล้ว

และแล้วในวันที่ไอ้ลอเก็บเงินได้จากการทำงานเป็นกุลีท่าข้าว ไอ้ลอตั้งใจจะไปหานังเพื่อนที่ตึกใหญ่ ซึ่งขณะนั้นมีงานเลี้ยงของอาโฉมฉายกับผู้หลักผู้ใหญ่ในวงสังคม นังแพงพยายามห้ามไม่ให้พี่ลอเข้าไปที่งานนั้น เพราะรู้ดีว่าจุดประสงค์ในการจัดงานนี้ก็คือการประกาศหมั้นหมายของนังเพื่อนกับคุณมานพ ด้วยเหตุผลทางการทำธุรกิจของอาโฉมฉายกับเจ้าคุณรัตน์ที่ต้องเอื้อต่อกัน นังแพงรู้เรื่องนี้มาก่อนและพยายามขอให้พี่เพื่อนเลือกพี่ลอ แต่อาโฉมฉายยืนยันว่าอยากให้นังเพื่อนเลือกคุณมานพเพื่ออนาคตของเธอและของตัวเพื่อนเอง สุดท้ายเพื่อนก็เลือกคุณมานพ ไอ้ลอมาเห็นภาพบาดตาของคนรักตัวเองกับชายหนุ่มคนอื่น ความโกรธแค้นทำให้มันบันดาลโทสะบุกเข้าไปเล่นงานคุณมานพจนบาดเจ็บ ก่อนที่มันจะโดนตำรวจลากคอเข้าห้องขัง นังแพงไปเฝ้าพี่ลออยู่หน้าห้องขังด้วยความเป็นห่วง จนสุดท้ายอาโฉมฉายก็มาช่วยเจรจาจนตำรวจยอมปล่อยตัวไอ้ลอ เพราะทางคุณมานพไม่เอาความแต่ไม่อยากให้ไอ้ลออยู่ที่บางกอกอีก แต่ไอ้ลอไม่ยอมกลับจนกว่าจะได้เจอนังเพื่อนและพานังเพื่อนกลับทุ่งบ้านสร้างไปกับมัน โฉมฉายเลยยอมให้ไอ้ลอได้พบกับนังเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย ไอ้ลอพยายามอ้อนวอนคนรักขอให้เห็นแก่ความรักที่เคยมีต่อกัน ไอ้ลอพร้อมยกโทษให้นังเพื่อนที่หันไปชอบพอกับคุณมานพ ไอ้ลอเข้าใจอย่างสุภาพบุรุษลูกทุ่งว่าบางกอกย่อมทำให้คนเปลี่ยนไป แต่คำตอบที่ได้จากนังเพื่อนก็เหมือนฟ้าผ่าลงมาที่กลางอกของไอ้ลอ นังเพื่อนยืนยันว่าจะอยู่บางกอกตอบแทนพระคุณของอาโฉมฉายด้วยการแต่งงานกับคุณมานพ และขอให้พี่ลอลืมว่าเคยมีคนชื่อนังเพื่อน

ตั้งแต่นั้นมาไอ้ลอต้องทนแบกความช้ำใจกลับมาทุ่งบ้านสร้างโดยมีนังแพงตามกลับมาด้วย นังแพงพยายามปลอบใจพี่ลอทุกอย่างหวังให้พี่ลอกลับมาเป็นพี่ลอคนเดิม มันพยายามใช้ความสดใสร่าเริงที่เคยกระเซ้าเย้าแหย่พี่ลอมาตลอด แต่คราวนี้หัวใจของพี่ลอถูกทำร้ายจนย่อยยับยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม จนเหมือนว่านังแพงจะกลายเป็นส่วนเกินของชีวิต และในระหว่างนั้นเองไอ้วีระซึ่งได้หนีหายไปและตั้งตัวเป็นกลุ่มโจรคอยออกปล้น ได้ยินเรื่องที่ไอ้ลอกลับมาที่ทุ่งบ้านสร้างอีกครั้ง ความแค้นของไอ้วีระที่มีต่อไอ้ลอไม่เคยจางหาย มันจึงเดินทางกลับมาที่ทุ่งบ้านสร้างอีกครั้งเพื่อนฆ่าไอ้ลอ ไอ้วีระพร้อมกับพรรคพวกกลุ่มโจรยกขโยงเข้ามาปล้นฆ่าเผาบ้านเรือนทุ่งบ้านสร้างอย่างอุอาจ เหมือนต้องการแก้แค้นคนทุ่งบ้านสร้างที่ทำให้มันต้องหนีกลายไปเป็นโจร แต่ไอ้ลอกับไอ้ก้อนและผู้ใหญ่ผาดช่วยกันจับมีดจับดาบลุกขึ้นรับมือ ส่วนนังแพงถูกไอ้วีระบุกไปฉุดมาจากเรือนและกำลังจะถูกไอ้วีระทำร้าย ไอ้ลอก็รีบตามมาช่วยเหลือไว้ได้ทันและจัดการกับไอ้วีระส่งมันไปใช้กรรมในนรกอย่างสาสมกับความเลวของมัน หลังจากเหตุการณ์ความเป็นความตายในวันนั้นไอ้ลอถึงเริ่มรู้สึกได้ถึงความห่วงใยที่นังแพงมีต่อมัน และความห่วงใยที่มันมีต่อนังแพง ถ้าในคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับนังแพงมันก็คงจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ ความรู้สึกแบบนี้ช่างเหมือนกับความรู้สึกที่มันมีให้นังเพื่อน ความรู้สึกรักมากกว่าเห็นนังแพงเป็นแค่น้องสาว

ในคืนที่ฝนฟ้าตกกระหน่ำไม่ต่างจากคืนที่นังแพงเสียแม่ไป นังแพงรู้สึกเป็นห่วงพี่ลอที่ไปนอนเฝ้าควายอยู่บนห้าง มันจึงลงจากเรือนไปหาพี่ลอพร้อมกับเอาผ้าห่มหนาๆ ไปให้ กลัวว่าพี่ลอจะหนาว แต่ความใกล้ชิดของหนุ่มสาวและความรักที่เริ่มเปิดเผยใจต่อกันก็ทำให้คืนนั้นไอ้ลอกับนังแพงตัดสินใจปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามอารมณ์ที่ถูกเก็บกดเอาไว้มานานหลายปี ขณะเดียวกันที่บางกอก ชีวิตของนังเพื่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่มันเฝ้าฝันหลังหมั้นหมายกับคุณมานพและยอมตกเป็นของคุณมานพไป นังเพื่อนก็เพิ่งจะค้นพบว่าคุณมานพไม่ใช่เทพบุตรผู้แสนดี แต่กลับเป็นซาตานในคราบผู้ดี คุณมานพชอบลงไม้ลงมือกับนังเพื่อนและยังมีเมียซุกเมียซ่อนอยู่อีกหลายคน โดยเฉพาะกับ โสภี (ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร) นักร้องสาวไนท์คลับที่คุณมานพติดอกติดใจจนปล่อยให้โสภีตามมาคอยราวีเพื่อนอยู่บ่อยๆ เพื่อนเอาเรื่องนี้ไปบอกอาโฉมฉายหวังให้ช่วยเหลือและปรามมานพ แต่อาโฉมฉายกลับทำเฉยและบอกให้นังเพื่อนอดทนไป ในเมื่อเพื่อนอยากเป็นสาวสังคมในบางกอกยังไงก็ต้องเป็นเบี้ยล่างผัว และยังไม่ยอมให้เพื่อนเลิกกับคุณมาพ เพราะผลประโยลน์ทางธุรกิจที่ทำไว้กับเจ้าคุณรัตน์ ชีวิตเพื่อนจึงเหมือนตกอยู่ในฝันร้ายและเฝ้าคิดถึงความดีความซื่อของพี่ลอผู้ชายที่มันเคยทรยศหักหลังเขา จนความอดทนของนังเพื่อนหมดลง เมื่อถูกคุณมานพตบตีทำร้ายต่อหน้าคนในวงสังคมกลางงานเลี้ยง นังเพื่อนตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าหนีกลับไปทุ่งบ้านสร้างโดยไม่คิดจะกลับมาเหยียบที่บางกอกอีก

นังเพื่อนกลับมาถึงทุ่งบ้านสร้างเหมือนนกปีกหักที่กลับมาตายรังเก่า มันคิดว่าจะได้เจอหน้าพี่ลอเพื่อกราบขอขมา แต่ทว่าพี่ลอกลับไม่อยู่เพราะอาสาพาควายของชาวบ้านหนีน้ำเหนือไปเลี้ยงยังที่ดอนหลายเดือน นังเพื่อนพบแต่น้องสาวและพ่อโดยมีบางอย่างผิดปกติกับนังแพงที่ไม่ยอมเอ่ยปากบอกใคร ไม่ว่าคนเป็นพ่อและพี่สาวจะคาดคั้นให้มันพูดมันก็ไม่ปริปากบอกว่าลูกในท้องที่กำลังโตของมันเป็นลูกใคร จนไอ้เรืองอดสงสารนังแพงไม่ได้ที่ต้องโดนชาวบ้านรุมประนามและโดนพ่อตบตี ไอ้เรืองจึงป่าวประกาศว่ามันคือผัวของนังแพง และพร้อมจะจัดงานแต่งงานกับนังแพงทันที ไอ้ลอที่กำลังเลี้ยงควายอยู่ที่ดอนได้ยินข่าวเรื่องไอ้เรืองจะแต่งงานกับนังแพงจากไอ้ก้อนก็รีบกลับมาที่ทุ่งบ้านสร้าง แต่เมื่อกลับมาถึงมันก็พบว่านังแพงอยู่ในอาการเจียนตาย ลมหายใจรวยรินเพราะตกเลือดหลังจากที่ตกบันไดลงมาจากเรือน โดยก่อนหน้าที่นังแพงจะตกบันได นังแพงทะเลาะกับนังเพื่อนเรื่องพ่อที่แท้จริงของเด็กในท้องของนังแพง ซึ่งนังเพื่อนไม่เชื่อว่าเป็นไอ้เรือง แต่นังแพงไม่ยอมบอกว่าเป็นใครและเดินหนีพี่สาวจะลงจากเรือน นังเพื่อนไม่ทันเตือนน้องสาวเรื่องบันไดที่กำลังพัง นังแพงจึงพลัดตกบันไดและตกเลือดจนอยู่ในอาการนอนรอความตายและรอที่จะได้พบกับพี่ลอของมันอีกครั้ง ไอ้ลอรีบไปหานังแพงแต่ทว่าเมื่อไปถึงกลับพบนังแพงสิ้นลมหายใจไปแล้วพร้อมกับลูกน้อยในท้องของนังแพง หัวใจของไอ้ลอเจ็บปวดรวดร้าวทรมาน ไอ้ลอบอกให้นังเพื่อนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมันและนังแพงในคืนที่มันได้เสียกัน คำพูดของนังแพงยังดังก้องหูของไอ้ลออย่างชัดเจน มันรู้ว่าพี่ลอรักพี่เพื่อนและเคยสาบานรักกัน แต่มันก็ยังรักพี่ลอเพราะว่ามันเกิดมาสำหรับพี่ลอ ไอ้ลอไม่โทษว่านี่คือความผิดของใคร แต่มันโทษตัวเองนี่แหละที่เป็นสาเหตุให้นังแพงต้องตาย และด้วยคำสาบานต่อหน้าสร้อยพระของพ่อที่ไอ้ลอเคยลั่นวาจาไว้กับนังเพื่อน ว่าถ้าผิดรักต่อนังเพื่อนเมื่อไร โทษของมันคือความตาย ไอ้ลอผู้ยึดมั่นในคำสัญญาจึงตัดสินใจมัดมือมัดเท้าตัวเองด้วยสายตะพายควาย แล้วนอนลงริมกระโดงใช้เท้าถีบดินให้ศรีษะตัวเองเลื่อนจมลงไปในน้ำ ตายอย่างผู้ชายที่ตั้งใจตาย การตายของมันจะได้รู้ว่ามันจงใจฆ่าตัวตายเพื่อพิสูจน์คำสาบาน

กำกับโดย สยาม น่วมเศรษฐี
ประพันธ์โดย
บทประพันธ์ ยาขอบ, บทโทรทัศน์ ศุภชัย สิทธิอำพรพรรณ
นำแสดงโดย 
ศุกลวัฒน์ คณารศ ... พี่ลอ
จีรนันท์ มะโนแจ่ม ... เพื่อน
ฝนทิพย์ วัชรตระกูล ... แพง
กฤษฎา สุภาพพร้อม ... วีระ
ภูษณะ บัวงาม ... เรือง
แอนดรู กรเศก โคร์นิน ... มานพ
พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ ... โฉมฉาย
อธิชนันท์ ศรีเสวก ... แก้ว
อติรุจ สิงหอำพล ... ก้อน
วินัย ไกรบุตร ... เสือเทิด
ธนายง ว่องตระกูล ... พิศ
ศตวรรษ ดุลยวิจิตร ... ประจวบ
ปิยะ ตระกูลราษฎร์ ... ครูแสง
พลรัตน์ รอดรักษา ... เจ้าคุณรัตน์
เวนย์ ฟอลโคเนอร์ ... เสือมิ่ง
สามารถ พยัคฆ์อรุณ ... ผู้ใหญ่ผาด
กรุง ศรีวิไล ... สมภารบุญ
ณรัฐ พัฒนาพงศ์ชัย ... ไม้
หนุงหนิง สีหราช ... มาด
กิ๊ฟ ชวนชื่น ... ด้วง
ฐิตินันท์ สุวรรณถาวร ... โสภี
ภัทรนิษฐ์ แก้วมณี ... จำปา/จำเนียร
มัณฑนา หิมะทองคำ ... ลั่นทม
ณัชฌุกรณ์ ไหมกัน ... วิชิต
ริชาร์ด เกียร์นี่ ... ลอ (เด็ก)
ณพัศพร บุญธรรมรัตน ... เพื่อน (เด็ก)
ชนัญญา เลิศวัฒนามงคล ... แพง (เด็ก)

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 
Powered by MBA